xs
xsm
sm
md
lg

กทม.หารือ กรมศิลป์ “แก้น้ำท่วมเกาะรัตนโกสินทร์ ควบ อนุรักษ์โบราณสถาน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กทม.เตรียมชี้แจงกรมศิลป์ ร่วมแก้จุดอ่อนน้ำท่วมขังเกาะรัตนโกสินทร์อีกรอบ เหตุไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังระยะยาวได้

วันนี้ (6 มิ.ย.) นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะผู้บริหารกทม.ได้มีมติเห็นชอบให้สำนักการระบาย (สนน.) กทม.ดำเนินการจัดประชุมหารือร่วมกับกรมศิลปากร และ คณะกรรมการเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อแก้ไขปัญหาในการอนุรักษ์โบราณสถานและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดอ่อนน้ำท่วมขังที่ทางโครงการเข้าไปปรับปรุงท่อระบายน้ำถนนมหาราช, ถนนสนามไชย, ถนนเจริญกรุง, ถนนพระพิพิธ และซอยท่าข้าม ตั้งแต่ปี 2552 แต่ยังไม่สามารถยังเข้าดำเนินการได้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์โบราณสถานอย่างแท้จริง และไม่เกิดความเสียหายในอนาคต จำเป็นที่ กทม.จะต้องร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดย กทม.จะต้องชี้ให้เห็นปัญหาอย่างชัดเจนในระยะยาว ว่า หากไม่มีระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ดีก็จะเป็นปัญหากับโบราณสถานบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์อย่างแน่นอน

สำหรับโครงการปรับปรุงระบบท่อระบายน้ำถนนมหาราช, ถนนสนามไชย, ถนนเจริญกรุง, ถนนพระพิพิธ และซอยท่าข้าม มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาจุดอ่อนน้ำท่วมถนนสนามไชยและถนนมหาราช โดยการปรับปรุงท่อระบายน้ำถนนสนามไชยและถนนมหาราชให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.2 ม.พร้อมปรับปรุงท่อระบายน้ำเดิมในถนนเจริญกรุง, ถนนพระพิพิธ และซอยท่าข้าม ให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.2 ม.เพื่อใช้เป็นทางระบายน้ำหลักลงคลองคูเมืองและลงแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งสร้างบ่อสูบน้ำที่ปลายถนนสนามไชยและซอยท่าข้าม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำด้วย มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (2552-2554) วงเงินงบประมาณ 44,125,000 บาท ซึ่งมีการประกวดราคาและได้ผู้รับจ้างแล้ว

ทั้งนี้ จากการที่สำนักการระบายน้ำได้ประชุมเพื่อหารือกับคณะกรรมการวิชาการเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถาน และกรมศิลปากรได้แจ้งผลการพิจารณา ว่า ไม่เห็นชอบในการดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากในการขุดเจาะพื้นที่บริเวณดังกล่าวเนื่องจากจะมีผลกระทบต่อโบราณสถาน ซึ่งทางกรมศิลปากรได้แจ้งเรื่องการศึกษาแผนงานด้านโบราณคดีระบุว่า ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวปรากฏหลักฐานว่าเป็นที่ตั้งของป้อมวิไชเยนทร์ฟากตะวันออก ซึ่งสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในราวปี ๒๒๒๘ อีกทั้งมีป้อมมหายักษ์ ตรงกับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และป้อมหาฤกษ์บริเวณโรงเรียนราชินี มีกำแพงพระนครตลอดแนวถนนมหาราช อีกทั้งคณะกรรมการให้มีการปรับระบบและขนาดของการระบายน้ำ กล่าวคือ ให้ปรับขนาดจากรางยู ขนาด 0.30 ม. เป็นรางยูขนาด 0.60 ม. ทดแทนการใช้ท่อขนาด 1.20 ม.ในการก่อสร้างบ่อสูบน้ำ ไม่ให้ตั้งบนแนวกำแพงเมืองเดิม และไม่ให้เจาะผ่านแนวกำแพงเมืองเดิม

อย่างไรก็ตาม สำนักการระบายน้ำพิจารณาเห็นว่าการปรับเปลี่ยนรูปแบบ และรายละเอียดตามคำแนะนำของกรมศิลปากรดังกล่าว ไม่สามารถดำเนินการได้ และไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ อีกทั้งไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาจุดอ่อนน้ำท่วมในระยะยาว
กำลังโหลดความคิดเห็น