วานนี้(6 มิ.ย)นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมช. คลัง ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ตนเองได้เคยออกมาวิจารณ์เรื่องที่รัฐบาลได้อนุมัติโครงการกว่า 211 โครงการมูลค่ากว่าแสนล้านบาทในการประชุมครม.นัดสุดท้ายที่ใช้เวลากว่า 18 ชั่วโมง จนเป็นที่ครหาของประชาชนทั่วไป โดยมีการอนุมัติให้นำเงินฉุกเฉินไปใช้จนหมดกับเรื่องที่ไม่ฉุกเฉินแต่อย่างไร และได้เตือนแล้วว่าถ้าหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น รัฐบาลจะทำอย่างไร ซึ่งก็ได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อมีเรือบรรทุกน้ำตาลจม ทำให้มีประชาชนได้รับผลกระทบในเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เช่น ประชาชนที่เลี้ยงปลาและสัตว์น้ำ ในบริเวณดังกล่าวที่ปลาและสัตว์น้ำที่เลี้ยงต้องตายหมดจากน้ำตาลที่ปนเปื้อนในน้ำ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแต่อย่างไร ทั้งนี้คงมาจากการที่งบประมาณสำหรับเรื่องฉุกเฉินได้ถูกใช้ไปหมดแล้ว ทำให้ไม่เหลือเงินที่จะช่วยเหลือประชาชนได้ นับเป็นความมักง่าย และขาดวิสัยทัศน์อย่างแท้จริง
เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอดเวลาที่รัฐบาลนี้บริหารประเทศ ประสิทธิภาพการรับมือต่อปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมถึงปัญหาเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ทำให้ประชาชนที่เดือดร้อนไม่ได้รับความช่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำท่วมที่เกิดขึ้นหลายหนในภาคต่างๆ ตลอดจนมาถึงเรื่องเรือบรรทุกน้ำตาลล่มนี้ และยังปรากฏปัญหาการทุจริตในเงินช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมที่เป็นเหมือนเครื่องตอกย้ำให้ประชาชนเสียใจเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีการตำหนิสื่อโทรทัศน์ที่ได้ให้การช่วยเหลือแก่ประชาชนได้มีประสิทธิภาพกว่ารัฐบาล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความล่าช้าในการกู้ซากรเอบรรทุกน้ำตาลล่มที่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา จนเกิดปัญหาผลกระทบปลาเน่าและน้ำเสียอย่างหนัก ว่า ทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้ เราต้องพยายามดูแลกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคมจะต้องดูแลให้เข้มแข็งมากขึ้น ยืนยันว่ารัฐบาลคอยดูแลอยู่ไม่ได้ห่วงแต่เรื่องหาเสียงเพียงอย่างเดียว ยังเป็นรัฐบาลทำงานอยู่
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่ากทม. แถลงผลการประชุมคณะผู้บริการกทม. ว่า สำนักระบายน้ำได้รายงานเรื่องสภาวะน้ำ ภายหลังเกิดเหตุเรือน้ำตาลล่มที่ จ.อยุธยา และมีน้ำตาลละลายออกมาจนทำให้ค่าออกซิเจนในน้ำลดลง ซึ่งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ได้สั่งสำนักสิ่งแวดล้อมไปช้อนปลาจากแม่น้ำเจ้าพระยา และให้สำนักระบายน้ำติดตั้งเครื่องเติมออกซิเจนจำนวน 4 เครื่องไปติดตั้งที่วัดสร้อยทองแล้ว พร้อมทั้งทำการวัดออกซิเจนในแม่น้ำเจ้าพระยา กกก ทั้งหมด 7 จุดตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งปริมาณออกซิเจนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีความสกปรกและปลาในแม่น้ำก็ไม่ตาย เพียงแต่น้ำได้ขาดออกซิเจนเท่านั้น ทั้งนี้ สำนักระบายน้ำได้มีเครื่องตรวจวัดตามคลองต่างๆในพื้นที่ 36 กิโลเมตร และได้มีเฝ้าระวังและตรวจคุณภาพน้ำเป็นระยะ ซึ่งขณะนี้สภาวะของแม่น้ำเจ้าพระยาปกติแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา ได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติตามธรรมชาติลงและนามหนังสือแจ้งไปยัง4บริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับเรือบรรทุกน้ำตาลที่มาล่มในเขตจ.พระนครศรีอยุธยา ให้รายงานรายละเอียดและร่วมรับผิดชอบต่อผลกระทบและความสูญเสียครั้งนี้ หลังจากทางบริษัทรวมทั้งพนักงานและคนงานในเหตุการณ์บ่ายเบี่ยงไม่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อเท็จจริง
สำหรับบริษัททั้ง 4 แห่งประกอบด้วย 1. เจ้าของเรือที่แท้จริงที่รับจ้างเดินเรือ คือ กลุ่มบริษัทJNP จำกัด 2. บริษัทที่รับการว่าจ้างขนส่งน้ำตาลและว่าจ้างเดินเรือ คือ บริษัท อัลฟา มารีน ซัพพลาย จำกัด 3. บริษัทเจ้าของโกดังน้ำตาลก่อนที่จะขนส่งลงเรือ คือบริษัทไทยรวมทุนคลังสินค้า จำกัด และ 4.บริษัทผู้ผลิตและเจ้าของน้ำตาล คือ บริษัท น้ำตาล สระบุรี จำกัด ซึ่งตรวจสอบพบว่าขนส่งน้ำตาลจากโรงงานผลิตที่ จ.สระบุรี มาขนถ่ายลงโกดัง และท่าเรือที่ จ.อ่างทอง ล่องตามลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อขนส่งทางเรือไปยังเรือเดินทะเลปลายทางประเทศ อินโดนีเซีย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ด้านนายฉันรกฤษณ์ อัสดาธร ผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัทไทยรวมทุนคลังสินค้าจำกัด กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับทางบริษัทแต่อย่างใด ซึ่งบริษัทเป็นเพียงสถานที่ให้เช่าและเก็บฝากน้ำตาลทรายในโกดังเท่านั้น ซึ่งบริษัท น้ำตาล สระบุรี ได้มาเช้าที่ฝากน้ำตาลทราย เพื่อจะนำลงเรือไปส่งยังที่หมาย ทางบริษัทเป็นเพียงรับฝากและหาคนงานเอาน้ำตาลทรายลงเรือ จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำเรือล่ม
ส่วนใครผิดนั้นก็เป็นทางเจ้าหน้าที่ที่จะสืบหาเองและหลังเกิดเหตุตน ก็ไปที่เกิดเหตุตลอดและให้ข้อมูลทุกอย่างที่ให้ได้
อย่างไรก็ตามบริษัทไทยรวมทุนคลังสินค้า จำกัด ยังมีการทำงานตามปกติและมีรถบรรทุกน้ำตาลนำน้ำตาล มายังบริษัทสำหรับท่าเรือลงน้ำตาล ก็มีเรือเหล็กมารอรับน้ำตาลทราบตามปกติ.
เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอดเวลาที่รัฐบาลนี้บริหารประเทศ ประสิทธิภาพการรับมือต่อปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมถึงปัญหาเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ทำให้ประชาชนที่เดือดร้อนไม่ได้รับความช่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำท่วมที่เกิดขึ้นหลายหนในภาคต่างๆ ตลอดจนมาถึงเรื่องเรือบรรทุกน้ำตาลล่มนี้ และยังปรากฏปัญหาการทุจริตในเงินช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมที่เป็นเหมือนเครื่องตอกย้ำให้ประชาชนเสียใจเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีการตำหนิสื่อโทรทัศน์ที่ได้ให้การช่วยเหลือแก่ประชาชนได้มีประสิทธิภาพกว่ารัฐบาล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความล่าช้าในการกู้ซากรเอบรรทุกน้ำตาลล่มที่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา จนเกิดปัญหาผลกระทบปลาเน่าและน้ำเสียอย่างหนัก ว่า ทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้ เราต้องพยายามดูแลกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคมจะต้องดูแลให้เข้มแข็งมากขึ้น ยืนยันว่ารัฐบาลคอยดูแลอยู่ไม่ได้ห่วงแต่เรื่องหาเสียงเพียงอย่างเดียว ยังเป็นรัฐบาลทำงานอยู่
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่ากทม. แถลงผลการประชุมคณะผู้บริการกทม. ว่า สำนักระบายน้ำได้รายงานเรื่องสภาวะน้ำ ภายหลังเกิดเหตุเรือน้ำตาลล่มที่ จ.อยุธยา และมีน้ำตาลละลายออกมาจนทำให้ค่าออกซิเจนในน้ำลดลง ซึ่งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ได้สั่งสำนักสิ่งแวดล้อมไปช้อนปลาจากแม่น้ำเจ้าพระยา และให้สำนักระบายน้ำติดตั้งเครื่องเติมออกซิเจนจำนวน 4 เครื่องไปติดตั้งที่วัดสร้อยทองแล้ว พร้อมทั้งทำการวัดออกซิเจนในแม่น้ำเจ้าพระยา กกก ทั้งหมด 7 จุดตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งปริมาณออกซิเจนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีความสกปรกและปลาในแม่น้ำก็ไม่ตาย เพียงแต่น้ำได้ขาดออกซิเจนเท่านั้น ทั้งนี้ สำนักระบายน้ำได้มีเครื่องตรวจวัดตามคลองต่างๆในพื้นที่ 36 กิโลเมตร และได้มีเฝ้าระวังและตรวจคุณภาพน้ำเป็นระยะ ซึ่งขณะนี้สภาวะของแม่น้ำเจ้าพระยาปกติแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา ได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติตามธรรมชาติลงและนามหนังสือแจ้งไปยัง4บริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับเรือบรรทุกน้ำตาลที่มาล่มในเขตจ.พระนครศรีอยุธยา ให้รายงานรายละเอียดและร่วมรับผิดชอบต่อผลกระทบและความสูญเสียครั้งนี้ หลังจากทางบริษัทรวมทั้งพนักงานและคนงานในเหตุการณ์บ่ายเบี่ยงไม่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อเท็จจริง
สำหรับบริษัททั้ง 4 แห่งประกอบด้วย 1. เจ้าของเรือที่แท้จริงที่รับจ้างเดินเรือ คือ กลุ่มบริษัทJNP จำกัด 2. บริษัทที่รับการว่าจ้างขนส่งน้ำตาลและว่าจ้างเดินเรือ คือ บริษัท อัลฟา มารีน ซัพพลาย จำกัด 3. บริษัทเจ้าของโกดังน้ำตาลก่อนที่จะขนส่งลงเรือ คือบริษัทไทยรวมทุนคลังสินค้า จำกัด และ 4.บริษัทผู้ผลิตและเจ้าของน้ำตาล คือ บริษัท น้ำตาล สระบุรี จำกัด ซึ่งตรวจสอบพบว่าขนส่งน้ำตาลจากโรงงานผลิตที่ จ.สระบุรี มาขนถ่ายลงโกดัง และท่าเรือที่ จ.อ่างทอง ล่องตามลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อขนส่งทางเรือไปยังเรือเดินทะเลปลายทางประเทศ อินโดนีเซีย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ด้านนายฉันรกฤษณ์ อัสดาธร ผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัทไทยรวมทุนคลังสินค้าจำกัด กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับทางบริษัทแต่อย่างใด ซึ่งบริษัทเป็นเพียงสถานที่ให้เช่าและเก็บฝากน้ำตาลทรายในโกดังเท่านั้น ซึ่งบริษัท น้ำตาล สระบุรี ได้มาเช้าที่ฝากน้ำตาลทราย เพื่อจะนำลงเรือไปส่งยังที่หมาย ทางบริษัทเป็นเพียงรับฝากและหาคนงานเอาน้ำตาลทรายลงเรือ จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำเรือล่ม
ส่วนใครผิดนั้นก็เป็นทางเจ้าหน้าที่ที่จะสืบหาเองและหลังเกิดเหตุตน ก็ไปที่เกิดเหตุตลอดและให้ข้อมูลทุกอย่างที่ให้ได้
อย่างไรก็ตามบริษัทไทยรวมทุนคลังสินค้า จำกัด ยังมีการทำงานตามปกติและมีรถบรรทุกน้ำตาลนำน้ำตาล มายังบริษัทสำหรับท่าเรือลงน้ำตาล ก็มีเรือเหล็กมารอรับน้ำตาลทราบตามปกติ.