“อภิสิทธิ์” ตรวจด่านสกัดยาเสพติดย่านสุขสวัสดิ์ ตามแผน “ยุทธการ 315” พร้อมแนะปรับรูปแบบการทำงานเพราะคนร้ายไหวตัวทันและจะประเมินการทำงานอีกประมาณ 2-3 เดือน กองเชียร์ประชาธิปัตย์แห่มอบดอกไม้ให้กำลังใจ
วานนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 22.00 น. ที่บริเวณด่านตรวจความมั่นคง สน.ราษฎร์บูรณะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯ กทม. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. เดินทางมาตรวจด่านสกัดยาเสพติด หรือด่านมั่นคงสุขสวัสดิ์ ใต้ทางด่วนสุขสวัสดิ์ ถนนสุขสวัสดิ์ (ระหว่างซอยสุขสวัสดิ์ 52-54) ตามนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาล แผนยุทธการ 315 ที่มีกองกำลังผสมเฉพาะกิจประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้แก่ ตำรวจ ทหาร และพลเรือน
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ได้สอบถามแนวทางการทำงานของตัวแทนตำรวจ และทหาร โดยมี พล.ต.ต.อิทธิพลเป็นผู้อธิบายการทำงานร่วมกันตามแผน 315 พร้อมทั้งได้ตรวจสอบโต๊ะปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ที่คอยลงบันทึกและตรวจปัสสาวะผู้ต้องสงสัย รวมทั้งได้ยืนดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่กำลังตั้งด่าน
นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการตั้งด่านตรวจว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ระดมปราบปรามยาเสพติดโดยขยายผลการจับกุมรายย่อยไปสู่รายใหญ่ จะต้องทำให้ต่อเนื่องและต้องปรับรูปแบบการทำงาน เพราะรูปแบบตายตัวทำให้ผู้ต้องหาไหวตัวทันตามแนวทางของเขา ซึ่งตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นต้องจัดให้ลงตัว และ 2-3 เดือนจะมีการประเมินอีกครั้ง
โดยในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลเองนั้นจะมีด่านความมั่นคงตามแผน 315 อยู่ประมาณ 8-9 จุด สำหรับการลงตรวจของ สน.ราษฎร์บูรณะ นั้นเนื่องจากต้องการดูการทำงานร่วมกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจนครบาลกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นพื้นที่ติอต่อกัน โดยดูการทำงานว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เสียงสะท้อนชุมชนก็มีความพอใจถือเป็นรูปแบบที่ขยายผลได้มากขึ้น และสามารถจับผู้ค้ารายใหญ่ได้ขยายผลจับกุมจากผู้เสพ ซึ่งดีกว่าการใช้สายข่าวที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและต้องปรับเปลี่ยนเพื่อไม่เกิดความเข้าใจในการทำงานด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลทำให้ชะงักหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบต้องถามพรรคต่างๆ ตนคงตอบแทนไม่ได้ ส่วนการดูแลขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนั้น ยอมรับว่ารูปแบบอาจยังไม่ลงตัวทั้งหมด เพราะมีเรื่องสิทธิประโยชน์และเบี้ยเลี้ยง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์ลงจากรถได้มีกลุ่มกองเชียร์ที่มาให้กำลังใจประมาณ 50 คนที่มามอบดอกไม้และพากันตะโกนว่า “ประชาธิปัตย์เบอร์ 10 อภิสิทธิ์สู้ๆ นายกฯ สู้ๆ”
