xs
xsm
sm
md
lg

อย.คุมเข้มขึ้นทะเบียน-แสดงฉลากวัตถุอันตรายทางสาธารณสุข ป้องกันนำไปใช้ทางการเกษตร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
      

อย.คุมเข้มขึ้นทะเบียน-แสดงฉลากวัตถุอันตรายทางสาธารณสุข ต้องแสดงว่า “ห้ามนำไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น นอกจากที่ระบุไว้บนฉลาก” หรือ “ห้ามนำไปใช้ทางการเกษตร” ป้องกันเกษตรกรนำผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงทางสาธารณสุขไปใช้ทางการเกษตร ทำให้แมลงทนต่อสารเคมีมากขึ้น-ก่อสารตกค้างในพืชผัก-สิ่งแวดล้อม กระทบส่งออก-สุขภาพผู้บริโภค

วันนี้ (10 มิ.ย.) ภญ.ศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2551 กำหนดให้ผู้ประกอบการวัตถุอันตรายทางการเกษตรต้องขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายที่ใช้ทางการเกษตรให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 22 สิงหาคม 2554 และผู้ประกอบการบางรายกังวลว่าจะไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนด จึงหันมาขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุอันตรายทางสาธารณสุขกับ อย.แทน เพื่อให้พร้อมที่จะวางจำหน่ายได้ภายหลังวันที่ 22 สิงหาคม 2554 ซึ่งในเรื่องนี้ อย.ขอชี้แจงว่า การนำผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงทางสาธารณสุขไปใช้เพื่อกำจัดแมลงศัตรูพืชทางการเกษตรจะส่งผลกระทบทั้งในด้านประสิทธิภาพการกำจัดแมลง ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความต้านทานต่อแมลงที่เป็นศัตรูพืช ตลอดจนการตกค้างของสารเคมีในผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากข้อพิจารณาในการรับขึ้นทะเบียนที่ต่างกันในบางประเด็น

โดย อย.จะประเมินข้อมูลความปลอดภัยในการใช้และผลการทดสอบประสิทธิภาพการกำจัดแมลงเฉพาะในรูปแบบการใช้ในบ้านเรือน หรือทางสาธารณสุขเท่านั้น ส่วนกรมวิชาการเกษตรจะประเมินข้อมูลการทดสอบประสิทธิภาพภาคสนามในพืชไร่ต่อแมลงและพืชเป้าหมาย และการตกค้างของสารเคมีในผลผลิต ซึ่งมีข้อแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดทั้งในด้านปริมาณสารสำคัญ อัตราการใช้ สูตรส่วนประกอบ ข้อบ่งใช้ ตลอดจนประสิทธิภาพต่อการกำจัดแมลงเป้าหมายและการดื้อต่อสารเคมี ทำให้การนำผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงทางสาธารณสุขไปใช้เพื่อกำจัดแมลงศัตรูพืชทางการเกษตรอาจไม่ได้ประสิทธิภาพตามที่คาดหวัง จึงมีโอกาสที่เกษตรกรจะเพิ่มขนาดการใช้ ทำให้เสี่ยงต่อการตกค้างและสะสมของสารเคมีในสิ่งแวดล้อม และในพืชผักหรือผลิตผลทางการเกษตร

ทั้งนี้ อย.ได้ออกมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการที่ขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสนำไปใช้ทางการเกษตร อาทิ วัตถุอันตรายในรูปแบบที่ต้องใช้โดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อใช้รับจ้างกำจัดแมลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์กำจัดปลวกเทราดลงดินให้ยื่นหนังสือรับรองว่าจะควบคุมดูแลให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ในทางสาธารณสุขเท่านั้นและจะไม่นำผลิตภัณฑ์ไปใช้ทางการเกษตร โดยกำหนดให้แสดงข้อความเพิ่มเติมบนฉลากว่า “ห้ามนำไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น นอกจากที่ระบุไว้บนฉลาก” หรือข้อความว่า “ห้ามนำไปใช้ทางการเกษตร” รวมทั้งได้มีมาตรการสำรวจร้านจำหน่ายเคมีภัณฑ์ทางการเกษตร  หากพบว่ามีการแนะนำให้นำวัตถุอันตรายที่ขึ้นทะเบียนเพื่อใช้ทางสาธารณสุขไปใช้ทางการเกษตร หรือมีการแสดงฉลากผิดไปจากที่ขึ้นทะเบียนไว้ ผู้ผลิต/ผู้นำเข้า หรือผู้ขายจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 และอาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตผลิตหรือนำเข้าได้

รองเลขาธิการ อย.กล่าวในตอนท้ายว่า ขอเตือนเกษตรกรอย่าได้นำวัตถุอันตรายทางสาธารณสุขไปใช้ทางการเกษตรเพราะอาจไม่ได้ประสิทธิภาพตามที่คาดหวัง ทำให้มีโอกาสเกิดการต้านทานของแมลงต่อสารเคมีเพิ่มขึ้น และยังเสี่ยงต่อการตกค้างและสะสมของสารเคมีในสิ่งแวดล้อม รวมถึงการตกค้างของสารเคมีในพืชผักหรือผลิตผลทางการเกษตรอีกด้วย ซึ่งท้ายที่สุดย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้บริโภค และการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น