ASTVผู้จัดการรายวัน- บล. ฟิลลิปเตรียมจับมือบริษัทกลุ่มขยายธุรกิจ -ฐานลูกค้าต่างประเทศ พร้อมพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ตใหม่ - สร้างแบรนด์ หวังสู้ศึกเปิดเสรีฯปีหน้า “ซีอีโอคนใหม่” หวังโปรโมชั่นลงทุนลุ้นเบนซ์ เพิ่มลูกค้าเทรดหุ้นมีค่าคอมมิชชั่นเกิน 1 หมื่นบาทต่อเดือนขึ้นอีก 300 รายต่อเดือน คาดมาร์เกตแชร์ปีนี้ 3.5%
นายปรัชญา กุลวณิชพิสิฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจ ว่า บริษัทจะมีการร่วมมือในการทำธุรกิจภายในกลุ่มบล.ฟิลลิป มากขึ้น ในเรื่องของการขยายฐานลูกค้า การส่งคำสั่งซื้อขายระหว่างกัน จากที่ทางกลุ่มบริษัทนั้นมีสาขาอยู่จำนวน 11ประเทศทั่วโลก ได้แก่ สิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, ศรีลังกา,อังกฤษ, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส และจีน ซึ่งทางบริษัทหวังว่าจะเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเป็น 10% ได้ภายในปีหน้า จากปัจจุบันที่มีไม่ถึง 5% เพราะฐานลกูค้าหลักของบริษัทเป็นนักลงทุนรายย่อย
ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะยื่นของใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจาก กลุ่มลูกค้าต่างประเทศของกลุ่มฟิลลิปในต่างประเทศสนใจที่จะเข้ามาลงทนุในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าของไทย และบริษัทมองว่าธุรกิจดังกล่าวสามารถที่จะทำให้บริษัทมีการเติบโตได้ในอนาคต ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจดังกล่าวได้ภายในปีนี้
นอกจากนี้กลุ่มของบล.ฟิลลิป เตรียมที่จะมีการการพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ตใหม่ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่นักลงทุนจะต้องมีการเข้าระบบและทำตามขั้นตอนหลายขั้นตอนแต่ระบบใหม่นั้นสามารถที่จะเข้าไปดูข้อมูลในส่วนที่ต้องการได้ทันที และสามารถดูข้อมูลกระดานหุ้นได้หลายหน้าภายในหน้าจอเดียว ซึ่งทำให้ในปีหน้าที่ระบบอินเตอร์เน็ตของบริษัทจะเป็นรูปแบบใหม่ และจากการที่ในปีหน้าตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นในแถบเอเซียในการตั้งกระดานซื้อขายหุ้นอาเซียนนั้นก็จะทำให้นักลงทุนมีความสะดวกมากยิ่งขึ้นในการดูข้อมูลหรือส่งคำสั่งซื้อหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตามจากที่บริษัทมีสินค้าที่หลากหลาย หุ้น อนุพันธ์ กองทุนรวม การให้บริการลูกค้าในการลงทุนในต่างประเทศ และบริษัทอยู่ระหว่างทำธุรกิจใหม่ๆเพิ่มขึ้น รวมถึงจากการที่บริษัทจะมีการร่วมมือกับทางกลุ่มของบริษัทมากขึ้น และมีระบบในการซื้อขายที่มีความเสถียรมีความสะดวมรวดเร็ว ก็จะทำให้บริษัทสามารถที่จะแข่งขันกับบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆได้ จากที่ปีหน้า จะมีการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชั่น)
นายปรัชญา กล่าวว่า ส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เกตแชร์)ปีนี้บริษัทจะพยายามรักษาให้อยู่ที่ระดับ 3.5% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าปีก่อนที่มีอยู่ที่ 4% เนื่องจาก นักลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ขณะที่ฐานลูกค้าของบริษัทเป็นนักลงทุนรายย่อยถึง90% และประกอบกับบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน โดยพนักงานของบริษัทในส่วนที่ดูแลเกี่ยวกับพอร์ตการลงทุนได้มีการย้ายไปอยู่ที่ใหม่ 2-3 คน แต่ถือว่าไม่ค่อยมีผลกระทบมากนัก จากที่ปัจจุบันบริษัทมีเจ้าหน้าที่ดูแลพอร์ตการลงทุนอยู่จำนวน 9 คน แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง)ของบริษัทยังไม่ได้มีการย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ซึ่งบริษัทจะมีการดูแลพนักงานของบริษัทเป็นอย่างดี
ทั้งนี้บริษัทได้มีการออกโปรโมชั่น “ลงทุนลุ้นเบนซ์” สำหรับลูกค้าที่มีการซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์กับบริษัท โดยลูกค้าที่มีการลงทุนเป็นค่าคอมมิชชั่นที่บริษัทได้รับต่อรายทุก 10,000 บาท จะได้รับสิทธิ 1 สิทธิ ต่อ 1 ครั้งในการจับรางวัล โดยจะมีการจับรางวัลทุกเดือน ซึ่งเริ่มในเดือนสิงหาคมนี้ถึงเดือนธันวาคม แต่รางวัลที่ 1 และ 2 คือ รถเบนซ์ 1 รางวัล และรถยนต์ฟอร์ด จะจับวันที่ 16 มกราคม 2555 โดยมูลค่ารวมรางวัลทั้งหมด 5 ล้านบาท
บริษัทคาดว่าจากโปรโมชั่นดังกล่าวจะทำให้ลูกค้าของบริษัทที่มีการซื้อขายหุ้น(เทรด)เพื่อขึ้น จากปัจจุบันที่บริษัทมีลูกค้าจำนวนมากที่มีการเทรดแต่ละเดือน มีค่าคอมมิชชั่นให้กับบริษัทไม่ถึง 10,000 บาท โดยบริษัทหวังว่าจากโปรโมชั่นดังกล่าวจะทำให้กลุ่มลูกค้ามีการเทรดเพิ่มขึ้น 300 รายต่อเดือน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ และจากโปรโมชั่นดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนรู้จักบริษัทมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างแบรนด์อีกทางหนึ่ง
นายปรัชญา กุลวณิชพิสิฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจ ว่า บริษัทจะมีการร่วมมือในการทำธุรกิจภายในกลุ่มบล.ฟิลลิป มากขึ้น ในเรื่องของการขยายฐานลูกค้า การส่งคำสั่งซื้อขายระหว่างกัน จากที่ทางกลุ่มบริษัทนั้นมีสาขาอยู่จำนวน 11ประเทศทั่วโลก ได้แก่ สิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, ศรีลังกา,อังกฤษ, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส และจีน ซึ่งทางบริษัทหวังว่าจะเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเป็น 10% ได้ภายในปีหน้า จากปัจจุบันที่มีไม่ถึง 5% เพราะฐานลกูค้าหลักของบริษัทเป็นนักลงทุนรายย่อย
ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะยื่นของใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจาก กลุ่มลูกค้าต่างประเทศของกลุ่มฟิลลิปในต่างประเทศสนใจที่จะเข้ามาลงทนุในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าของไทย และบริษัทมองว่าธุรกิจดังกล่าวสามารถที่จะทำให้บริษัทมีการเติบโตได้ในอนาคต ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจดังกล่าวได้ภายในปีนี้
นอกจากนี้กลุ่มของบล.ฟิลลิป เตรียมที่จะมีการการพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ตใหม่ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่นักลงทุนจะต้องมีการเข้าระบบและทำตามขั้นตอนหลายขั้นตอนแต่ระบบใหม่นั้นสามารถที่จะเข้าไปดูข้อมูลในส่วนที่ต้องการได้ทันที และสามารถดูข้อมูลกระดานหุ้นได้หลายหน้าภายในหน้าจอเดียว ซึ่งทำให้ในปีหน้าที่ระบบอินเตอร์เน็ตของบริษัทจะเป็นรูปแบบใหม่ และจากการที่ในปีหน้าตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นในแถบเอเซียในการตั้งกระดานซื้อขายหุ้นอาเซียนนั้นก็จะทำให้นักลงทุนมีความสะดวกมากยิ่งขึ้นในการดูข้อมูลหรือส่งคำสั่งซื้อหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตามจากที่บริษัทมีสินค้าที่หลากหลาย หุ้น อนุพันธ์ กองทุนรวม การให้บริการลูกค้าในการลงทุนในต่างประเทศ และบริษัทอยู่ระหว่างทำธุรกิจใหม่ๆเพิ่มขึ้น รวมถึงจากการที่บริษัทจะมีการร่วมมือกับทางกลุ่มของบริษัทมากขึ้น และมีระบบในการซื้อขายที่มีความเสถียรมีความสะดวมรวดเร็ว ก็จะทำให้บริษัทสามารถที่จะแข่งขันกับบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆได้ จากที่ปีหน้า จะมีการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชั่น)
นายปรัชญา กล่าวว่า ส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เกตแชร์)ปีนี้บริษัทจะพยายามรักษาให้อยู่ที่ระดับ 3.5% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าปีก่อนที่มีอยู่ที่ 4% เนื่องจาก นักลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ขณะที่ฐานลูกค้าของบริษัทเป็นนักลงทุนรายย่อยถึง90% และประกอบกับบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน โดยพนักงานของบริษัทในส่วนที่ดูแลเกี่ยวกับพอร์ตการลงทุนได้มีการย้ายไปอยู่ที่ใหม่ 2-3 คน แต่ถือว่าไม่ค่อยมีผลกระทบมากนัก จากที่ปัจจุบันบริษัทมีเจ้าหน้าที่ดูแลพอร์ตการลงทุนอยู่จำนวน 9 คน แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง)ของบริษัทยังไม่ได้มีการย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ซึ่งบริษัทจะมีการดูแลพนักงานของบริษัทเป็นอย่างดี
ทั้งนี้บริษัทได้มีการออกโปรโมชั่น “ลงทุนลุ้นเบนซ์” สำหรับลูกค้าที่มีการซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์กับบริษัท โดยลูกค้าที่มีการลงทุนเป็นค่าคอมมิชชั่นที่บริษัทได้รับต่อรายทุก 10,000 บาท จะได้รับสิทธิ 1 สิทธิ ต่อ 1 ครั้งในการจับรางวัล โดยจะมีการจับรางวัลทุกเดือน ซึ่งเริ่มในเดือนสิงหาคมนี้ถึงเดือนธันวาคม แต่รางวัลที่ 1 และ 2 คือ รถเบนซ์ 1 รางวัล และรถยนต์ฟอร์ด จะจับวันที่ 16 มกราคม 2555 โดยมูลค่ารวมรางวัลทั้งหมด 5 ล้านบาท
บริษัทคาดว่าจากโปรโมชั่นดังกล่าวจะทำให้ลูกค้าของบริษัทที่มีการซื้อขายหุ้น(เทรด)เพื่อขึ้น จากปัจจุบันที่บริษัทมีลูกค้าจำนวนมากที่มีการเทรดแต่ละเดือน มีค่าคอมมิชชั่นให้กับบริษัทไม่ถึง 10,000 บาท โดยบริษัทหวังว่าจากโปรโมชั่นดังกล่าวจะทำให้กลุ่มลูกค้ามีการเทรดเพิ่มขึ้น 300 รายต่อเดือน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ และจากโปรโมชั่นดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนรู้จักบริษัทมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างแบรนด์อีกทางหนึ่ง