"โสภาวดี" รับเศรษฐกิจโลกผันผวน ฉุดผลตอบแทนต่ำกว่าปีก่อน แต่ยังมั่นใจ ชนะเงินเฟ้อได้ ชูกลยุทธ์ลงทนแบบระมัดระวัง พร้อมจับตาสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา การลงทุนค่อนข้างมีความผันผวน และคาดว่าจะมีลักษณะเช่นนี้ตลอดปี 54 ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับ ช่วงนี้เป็นช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะผ่านไปได้ด้วยดี และถ้าหากการเลือกตั้งมีความชัดเจน และได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ การลงทุนต่างๆคงดีขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติน่าจะกลับมาลงทุนอีกครั้ง หลังจากช่วงที่ผ่านมา มีการเคลื่อนย้ายทุนออกจากตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้นไทย และมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้คาดว่าอัตราผลตอบแทนในปี 54 อาจไม่เท่าปีก่อนที่อยู่ที่ 8.9% เนื่องจากความผันผวนจากปัจจัยในประเทศและนอกประเทศ แต่ก็ยังคาดว่าผลตอบแทนเฉลี่ยจะสูงกว่าเงินเฟ้อ ซึ่งคาดว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยจะอยูที่ 3.5-4%
นางสาวโสภาวดี กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะมีการปรับพอร์ตให้เป็นไปตามสถานการณ์ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาได้ลดพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นลง โดยได้ขายทำกำไรเมื่อดัชนีปรับตัวขึ้น และหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อดัชนีปรับตัวลง ซึ่งในปีนี้ คาดว่าพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นจะลดลงเหลือประมาณ 9% จากปีก่อนมีอยู่ 10% ขณะเดียวกัน กบข. ได้เพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้โลกเป็น 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 5% เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้ กบข.จะลงทุนตลาดหุ้นและตราสารหนี้ในต่างประเทศ จากปัจจุบันที่ 15% โดยจะเน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และ สินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งที่ผ่านมา กบข.ได้ปรับรูปแบบการลงทุนในต่างประเทศให้มีความคล่องตัวมากขึ้น จากเดิมที่การลงทุนจะจ้างที่ปรึกษา เปลี่ยนเป็นแต่งตั้งผู้จัดการกองทุนเข้ามาบริหารโดยตรง ขณะนี้ระหว่างการดำเนินการ น่าจะเริ่มรูปแบบใหม่
ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ กบข. กล่าวว่าการลงทุนในปี 54 กบข.ได้ติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด และดำเนินการปรับกลยุทธ์ลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งในและนอกประเทศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยลดสัดส่วนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อลดระดับความเสี่ยงโดยรวมของกองทุน
ขณะเดียวกันก็มีการวางแผนกระจายความเสี่ยงโดยมีเป้าหมายจะไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ และโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจาก กบข.ประเมินสถานการณ์การลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ภาวะตลาดการเงินมีแนวโน้มผันผวนสูง จากหลายปัจจัยทั้งในและนอกประเทศที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดเงินตลาดทุน อาทิ การแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป การสิ้นสุดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 2 (QE2) ของสหรัฐฯ การเลือกตั้งและสถานการณ์ทางการเมืองของไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 มิ.ย.) กบข.ได้จัดงานประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกเป็นประจำทุกปี เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่กำหนดให้กองทุนต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อพิจารณารายงานผลการดำเนินงาน ฐานะการเงินและการรับจ่ายเงินของกองทุน ทั้งนี้ ในการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกประจำปี 2554 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2554 มีผู้แทนสมาชิกจากส่วนราชการทั้งส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมกว่า 500 คน
โดยในปี 2553 ผลการดำเนินงานของ กบข.มีรายได้จากการลงทุนรวม 37,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 45.69 โดยการลงทุนในตราสารทุนไทยได้รับผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 45.75 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวขึ้นสูง ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ไทยเมื่อปีที่ผ่านมาสร้างผลตอบแทนร้อยละ 4.11 ขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้โลกให้ผลตอบแทนร้อยละ 4.15
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา การลงทุนค่อนข้างมีความผันผวน และคาดว่าจะมีลักษณะเช่นนี้ตลอดปี 54 ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับ ช่วงนี้เป็นช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะผ่านไปได้ด้วยดี และถ้าหากการเลือกตั้งมีความชัดเจน และได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ การลงทุนต่างๆคงดีขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติน่าจะกลับมาลงทุนอีกครั้ง หลังจากช่วงที่ผ่านมา มีการเคลื่อนย้ายทุนออกจากตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้นไทย และมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้คาดว่าอัตราผลตอบแทนในปี 54 อาจไม่เท่าปีก่อนที่อยู่ที่ 8.9% เนื่องจากความผันผวนจากปัจจัยในประเทศและนอกประเทศ แต่ก็ยังคาดว่าผลตอบแทนเฉลี่ยจะสูงกว่าเงินเฟ้อ ซึ่งคาดว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยจะอยูที่ 3.5-4%
นางสาวโสภาวดี กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะมีการปรับพอร์ตให้เป็นไปตามสถานการณ์ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาได้ลดพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นลง โดยได้ขายทำกำไรเมื่อดัชนีปรับตัวขึ้น และหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อดัชนีปรับตัวลง ซึ่งในปีนี้ คาดว่าพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นจะลดลงเหลือประมาณ 9% จากปีก่อนมีอยู่ 10% ขณะเดียวกัน กบข. ได้เพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้โลกเป็น 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 5% เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้ กบข.จะลงทุนตลาดหุ้นและตราสารหนี้ในต่างประเทศ จากปัจจุบันที่ 15% โดยจะเน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และ สินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งที่ผ่านมา กบข.ได้ปรับรูปแบบการลงทุนในต่างประเทศให้มีความคล่องตัวมากขึ้น จากเดิมที่การลงทุนจะจ้างที่ปรึกษา เปลี่ยนเป็นแต่งตั้งผู้จัดการกองทุนเข้ามาบริหารโดยตรง ขณะนี้ระหว่างการดำเนินการ น่าจะเริ่มรูปแบบใหม่
ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ กบข. กล่าวว่าการลงทุนในปี 54 กบข.ได้ติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด และดำเนินการปรับกลยุทธ์ลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งในและนอกประเทศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยลดสัดส่วนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อลดระดับความเสี่ยงโดยรวมของกองทุน
ขณะเดียวกันก็มีการวางแผนกระจายความเสี่ยงโดยมีเป้าหมายจะไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ และโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจาก กบข.ประเมินสถานการณ์การลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ภาวะตลาดการเงินมีแนวโน้มผันผวนสูง จากหลายปัจจัยทั้งในและนอกประเทศที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดเงินตลาดทุน อาทิ การแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป การสิ้นสุดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 2 (QE2) ของสหรัฐฯ การเลือกตั้งและสถานการณ์ทางการเมืองของไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 มิ.ย.) กบข.ได้จัดงานประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกเป็นประจำทุกปี เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่กำหนดให้กองทุนต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อพิจารณารายงานผลการดำเนินงาน ฐานะการเงินและการรับจ่ายเงินของกองทุน ทั้งนี้ ในการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกประจำปี 2554 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2554 มีผู้แทนสมาชิกจากส่วนราชการทั้งส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมกว่า 500 คน
โดยในปี 2553 ผลการดำเนินงานของ กบข.มีรายได้จากการลงทุนรวม 37,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 45.69 โดยการลงทุนในตราสารทุนไทยได้รับผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 45.75 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวขึ้นสูง ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ไทยเมื่อปีที่ผ่านมาสร้างผลตอบแทนร้อยละ 4.11 ขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้โลกให้ผลตอบแทนร้อยละ 4.15