xs
xsm
sm
md
lg

สี “อึ” บอกสุขภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในกระบวนการดูแลสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงและเป็นปกตินั้น นอกจากจะต้องเอาใจใส่อาหารการกินว่าสิ่งที่จะกินเข้าไปนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายหรือไม่ และมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน รวมถึงการวางตารางชีวิตให้ออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน เพื่อความฟิตเฟิร์มแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนมองข้ามไป ทั้งที่ตัวมันเองอีกหนึ่ง “ลายแทงสุขภาพ” ที่เราสามารถสังเกตมันเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบสุขภาพของตนเองได้อีกทางหนึ่ง นั่นก็คือ “อึ” นั่นเอง

การเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายหนัก หรืออุจจาระ ถือเป็นกิจวัตรชีวิตในยามเช้าของมนุษย์แทบทุกคน แต่เชื่อแน่ยังคงมีอีกหลายๆ คนที่ละเลยการใส่ใจสิ่งที่ร่างกายของเราขับออกมา ทั้งที่มันก็เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการวัดสภาพปกติของระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายของเราเอง
นพ. รัชวิชญ์ เจริญกุล
นพ.รัชวิชญ์ เจริญกุล อายุรแพทย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลเวชธานี ให้ความรู้เกี่ยวกับการเช็คสุขภาพภายในของตัวเองง่ายๆ โดยการสังเกตอุจจาระที่เราขับถ่ายออกมาในแต่ละวัน ว่า อุจจาระของคนที่มีสุขภาพปกติส่วนใหญ่จะเป็นสีเหลืองอมเขียว ซึ่งเป็นสีของกากอาหารและน้ำดี แต่อย่างไรก็ตาม สีของอุจจาระ ก็อาจจะเปลี่ยนไปตามอาหารที่กินเข้าไปได้เช่นกัน

“เช่น หากกินอะไรที่มีสีดำ เช่น โคล่า เป๊ปซี่ หรือแม้กระทั่งเนื้อสัตว์ รวมถึงเลือดสัตว์ที่อยู่ในเนื้อสัตว์ มักจะส่งผลให้สีของอุจจาระคล้ำขึ้นได้เช่นกัน ส่วนหากเริ่มมีภาวะท้องเสีย ถ่ายท้อง อุจจาระจะมีสีเขียวกว่าปกติ ซึ่งนั่นเป็นเพราะเมื่อคนเราท้องเสีย ลำไส้จะบีบตัวมากกว่าปกติ อาหารจะไหลลงสู่ลำไส้ใหญ่เร็ว น้ำดีผลิตไม่ทัน อาหารเหล่านั้นไหลเร็วกว่าน้ำดี ทำให้การย่อยไม่สมบูรณ์ อาหารจำพวกไฟเบอร์ เส้นใย ที่ไหลผ่านลำไส้อย่างรวดเร็วโดยไม่ผ่านการย่อยจากน้ำดี จะทำให้อุจจาระมีสีเขียวกว่าปกติ”

นอกจากนี้ อายุรแพทย์ทางเดินและตับ รายนี้ ยังให้รายละเอียดต่อไปอีกว่า ในกรณีที่ไม่ได้กินอาหารที่มีสีดำ หรืออาหารประเภทเนื้อสัตว์ แต่ปรากฏว่า เมื่อถ่ายอุจจาระออกมา พบว่า มีสีดำ เหลว และมีกลิ่นคาว มีลักษณะคล้ายยางมะตอย สันนิษฐานได้ว่าอาจมีแผลในกระเพาะอาหารส่วนต้น และอาจพบได้ในกรณีผู้ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออก และมีภาวะเลือดไปออกที่กระเพาะอาหาร รวมถึงผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารก็มีโอกาสที่จะถ่ายออกมาเป็นอุจจาระในลักษณะนี้ได้

“สีดำของอุจจาระประเภทนี้มักเกิดจากความผิดปกติที่เลือดออกและเลือดดังกล่าวถูกย่อยก่อนที่จะถ่ายออกมา ทำให้มีสีดำ แต่ถ้าถ่ายออกมาแล้วอุจจาระเป็นสีดำแดง สันนิษฐานว่า มีบาดแผลหรือมีเลือดออกที่บริเวณทางเดินอาหารส่วนล่าง เลือดจึงยังไม่ถูกย่อยและมีสีแดงปนมาในอุจจาระ”

นพ.รัชวิชญ์ ยังได้กล่าวถึงสีที่ผิดปกติของอุจจาระอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นก็คือ “สีซีด” ซึ่งเกิดจากภาวะการอุดตันของท่อน้ำดี มักเจอในผู้ที่เป็นมะเร็งตับอ่อนหรือมะเร็งท่อน้ำดี วิธีสังเกตความซีดนั้นคือต้องซีดจนสีคล้ายสีของ “เผือก”

“เราสามารถสังเกตสุขภาพร่างกายของเราได้อย่างคร่าวๆ อีกทางผ่านการสังเกตอุจจาระ ซึ่งหากพบความผิดปกติ เช่น มีสีดำเหลวเหมือนยางมะตอย หรือซีดเหมือนเผือก แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย หากพบอาการผิดปกติจะได้รักษาได้ทันท่วงทีครับ”

นพ.รัชวิชญ์ ทิ้งท้ายด้วยว่า ในแต่ละวันควรดื่มน้ำให้ได้ 1-1.5 ลิตร จะช่วยให้ท้องไม่ผูก ถ่ายอุจจาระได้ง่าย หากดื่มน้ำไม่พอ ร่างกายจะดึงน้ำในอุจจาระกลับเข้าสู่ร่างกาย ทำให้อุจจาระแข็ง และควรกินอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ควรฝึกร่างกายให้ถ่ายอุจจาระเป็นประจำทุกเช้า

“แนะนำว่าควรหาอะไรรับประทานสักนิดหนึ่งในตอนเช้า จากนั้นลองไปนั่งห้องน้ำดู เพราะช่วงเวลาที่ลำไส้บีบตัวได้ดีที่สุดของวันคือช่วงเช้าหลังจากรับประทานอาหารเช้าเข้าไป การรับประทานอาหารเช้าหรืออาหารรองท้องเล็กๆ น้อยๆ ก่อนเข้าห้องน้ำสัก 5-10 นาที จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้การบีบตัวของลำไส้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น” อายุรแพทย์หนุ่ม กล่าวสรุป
กำลังโหลดความคิดเห็น