นายกสมาคมโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชน แนะผู้บริหาร ศธ.ทบทวนการจัดการศึกษาใหม่ ชูเน้นคุณภาพ หยุดมุ่งปริมาณ พร้อมเร่งผลักดันให้มีการเรียนการสอนระดับปริญญาตรี
จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีนโยบายให้สถานศึกษาในสังกัดรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เพิ่มขึ้นกว่า 3 หมื่นคนนั้น ดร.วีรวัฒน์ วรรณศิริ นายกสมาคมโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อยากจะให้ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการได้หันมาทบทวนการจัดการศึกษาเสียใหม่โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการเรียนรู้ของคนไทยมากกว่าการมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายด้านปริมาณเพียงด้านเดียว เพราะได้ทำลายคุณภาพการศึกษาของประเทศมากว่า 20 ปีแล้ว แม้การปฏิรูปการศึกษารอบแรกจะผ่านไปแล้ว 10 ปี ซึ่งได้มีการสรุปและยอมรับความจริง ว่า “ล้มเหลว” ไปแล้ว เพราะว่าเราคิดดีแต่ปฏิบัติไม่จริงจัง ตนจึงไม่ทราบว่าสถานศึกษาหรือกระทรวงศึกษาธิการจะยังผลิตนักเรียนที่ไม่มีคุณภาพมีแต่ปริมาณตามเป้าหมายทำไม เพราะจะเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ด้อยคุณภาพ สร้างปัญหาให้กับสังคมไม่รู้จักจบสิ้น ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่เราได้รับการตำหนิจากภาคส่วนอื่นๆตลอดเวลา
ดร.วีรวัฒน์ กล่าวว่า สถานศึกษาอาชีวศึกษาในเขตเมืองจะรับนักเรียนได้เต็ม 100% ตั้งแต่รอบแรก หาก สอศ.ให้รับนักเรียนเพิ่มเข้าไปอีก ก็จะเกินขีดความสามารถในการจัดการเรียนการสอนด้านอาชีวศึกษาที่มีคุณภาพซึ่งต้องเน้นสมรรถนะทางความคิดและฝีมือควบคู่กันไป เนื่องจากมีเครื่องมืออุปกรณ์ และครูไม่เพียงพอ ผู้บริหารสถานศึกษาที่รับนโยบายไปปฏิบัติก็รู้สึกอึดอัดและไประบายกันเองอยู่เสมอ
“ผมอยากเห็น สอศ.เป็นต้นแบบของการจัดการอาชีวศึกษาของชาติมุ่งสู่คุณภาพตั้งแต่บัดนี้ ให้เปิดรับนักศึกษาเพียงรอบเดียว และครั้งเดียวเหมือนในอดีต แล้วสอนกันโดยเน้นที่คุณภาพ คือ สอนให้เป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดีและด้วยมือของตนเอง ซึ่งไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าใดก็ต้องทำ เพราะนั่นคือคุณค่าของการศึกษา หากทำได้อย่างนี้ในที่สุดปริมาณก็จะเพิ่มขึ้นเอง และคงไม่มีใครอยากเรียนจบปริญญาเพื่อตกงาน” นายกสมาคมโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชน กล่าว
ดร.วีรวัฒน์ กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้ ศธ.และคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (บอร์ด กอศ.) เร่งผลักดันให้มีการจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรีสายปฏิบัติการโดยเร็ว เพราะนักศึกษาอาชีวศึกษาทุกคนรอคอยสิ่งนี้ เพื่อจะได้มีอนาคตทางการศึกษาและมองเห็นหนทางการประกอบอาชีพเป็นของตนเองเสียที
จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีนโยบายให้สถานศึกษาในสังกัดรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เพิ่มขึ้นกว่า 3 หมื่นคนนั้น ดร.วีรวัฒน์ วรรณศิริ นายกสมาคมโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อยากจะให้ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการได้หันมาทบทวนการจัดการศึกษาเสียใหม่โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการเรียนรู้ของคนไทยมากกว่าการมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายด้านปริมาณเพียงด้านเดียว เพราะได้ทำลายคุณภาพการศึกษาของประเทศมากว่า 20 ปีแล้ว แม้การปฏิรูปการศึกษารอบแรกจะผ่านไปแล้ว 10 ปี ซึ่งได้มีการสรุปและยอมรับความจริง ว่า “ล้มเหลว” ไปแล้ว เพราะว่าเราคิดดีแต่ปฏิบัติไม่จริงจัง ตนจึงไม่ทราบว่าสถานศึกษาหรือกระทรวงศึกษาธิการจะยังผลิตนักเรียนที่ไม่มีคุณภาพมีแต่ปริมาณตามเป้าหมายทำไม เพราะจะเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ด้อยคุณภาพ สร้างปัญหาให้กับสังคมไม่รู้จักจบสิ้น ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่เราได้รับการตำหนิจากภาคส่วนอื่นๆตลอดเวลา
ดร.วีรวัฒน์ กล่าวว่า สถานศึกษาอาชีวศึกษาในเขตเมืองจะรับนักเรียนได้เต็ม 100% ตั้งแต่รอบแรก หาก สอศ.ให้รับนักเรียนเพิ่มเข้าไปอีก ก็จะเกินขีดความสามารถในการจัดการเรียนการสอนด้านอาชีวศึกษาที่มีคุณภาพซึ่งต้องเน้นสมรรถนะทางความคิดและฝีมือควบคู่กันไป เนื่องจากมีเครื่องมืออุปกรณ์ และครูไม่เพียงพอ ผู้บริหารสถานศึกษาที่รับนโยบายไปปฏิบัติก็รู้สึกอึดอัดและไประบายกันเองอยู่เสมอ
“ผมอยากเห็น สอศ.เป็นต้นแบบของการจัดการอาชีวศึกษาของชาติมุ่งสู่คุณภาพตั้งแต่บัดนี้ ให้เปิดรับนักศึกษาเพียงรอบเดียว และครั้งเดียวเหมือนในอดีต แล้วสอนกันโดยเน้นที่คุณภาพ คือ สอนให้เป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดีและด้วยมือของตนเอง ซึ่งไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าใดก็ต้องทำ เพราะนั่นคือคุณค่าของการศึกษา หากทำได้อย่างนี้ในที่สุดปริมาณก็จะเพิ่มขึ้นเอง และคงไม่มีใครอยากเรียนจบปริญญาเพื่อตกงาน” นายกสมาคมโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชน กล่าว
ดร.วีรวัฒน์ กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้ ศธ.และคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (บอร์ด กอศ.) เร่งผลักดันให้มีการจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรีสายปฏิบัติการโดยเร็ว เพราะนักศึกษาอาชีวศึกษาทุกคนรอคอยสิ่งนี้ เพื่อจะได้มีอนาคตทางการศึกษาและมองเห็นหนทางการประกอบอาชีพเป็นของตนเองเสียที
