xs
xsm
sm
md
lg

แง้มตำรา “อายุยืน” ฟื้นสุขภาพผู้สูงอายุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติเมื่อปี 2550 ระบุว่า ไทยมีจำนวนผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ประมาณ 7 ล้านคน ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลการคาดประมาณประชากรของประเทศไทยที่ว่า ไทยได้เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ตั้งแต่ พ.ศ.2547 และยังได้มีการคาดประมาณกันไว้อีกว่าไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในปี พ.ศ.2570 เมื่อทราบหลายฝ่ายอาจกังวลว่า จะมีการรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุในบ้าน เพราะยิ่งก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุเท่าไหร่ปัญหาเรื่องสุขภาพทั้งร่างกายและจิต ใจย่อมตามมาเป็นเงาตามตัวและจำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาดูแล

เมื่อไม่นานมานี้ จึงมีการเปิดตัวหนังสือ “14 เคล็ดลับทำให้อายุยืน” ที่จะเป็นคู่มือในการดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อคุณภาพชีวิตที่สดใสและยืนยาว โดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ซึ่ง ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล บอกว่า การจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้เพื่อที่ จะให้ผู้สูงอายุและบุตรหลานได้นำสาระประโยชน์จากเคล็ดลับดีๆ เหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและไม่ต้องกังวลว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะดูแล สุขภาพผู้สูงอายุที่เรารัก

ผู้สูงอายุเป็นวัยมีความเสื่อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ คือ ในด้านร่างกายก็จะเป็นโรคต่างๆ มากขึ้น เช่น ปวดข้อ ปวดเอว ปวดหลัง หรือโรคภัยต่างๆ ที่ต้องได้รับการตรวจหรือรักษา หรือโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุอย่าง โรคความดันโลหิตสูง ซึมเศร้า สมองเสื่อม โรคเกี่ยวกับตา หู ข้อเสื่อม หลอดเลือดหัวใจตีบ ต่อมลูกหมาก การหกล้ม ขณะที่ด้านจิตใจของผู้สูงอายุมักจะว้าเหว่ เหงา ซึมเศร้า ดังนั้น ลูกหลานหรือบุคคลที่ใกล้ชิดก็ควรที่จะเอาใจใส่ดูแลให้มากขึ้นเพื่อไม่ ให้ท่านคิดว่าตนเองอยู่คนเดียวไม่มีใครดูแล

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล อธิบายเพิ่มเติมว่า ในด้านร่างกาย บุตรหลานควรพาไปตรวจร่างกายประจำปี ชวนไปบริหารร่างกายแบบง่ายๆ ไม่หักโหมนัก หมั่นพูดคุยเรื่องสนุกๆ ให้ท่านหายเครียดคลายเหงา ซึ่งการที่ลูกๆ หลานๆ ปฏิบัติเช่นนี้ก็จะช่วยยืดอายุของท่านได้

ขณะที่ผศ.นพ.รุ่งนิรันดร์ ประดิษฐสุวรรณ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ก็ได้เปิดเผยเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุว่า อยากให้ผู้สูงอายุระวังในเรื่องของโรคภัยหรืออุบัติเหตุที่มักจะเกิดขึ้นโดย ไม่รู้ตัว เช่น ความดันโลหิตสูง จึงอยากให้ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปตรวจสุขภาพวัดความดันโลหิตอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อที่จะให้รู้ตั้งแต่เนิ่นๆ ลดความเสี่ยงที่จะส่งผลต่ออวัยวะอื่นๆ อย่าง สมอง หัวใจ หรือลดการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ได้

ขณะที่การหกล้มก็มักจะเกิดที่ผู้สูงอายุไม่รู้ตัวเช่นกัน เมื่อเกิดแล้วก็ส่งผลให้เสียความมั่นใจไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่กล้าเดินหรือไม่กล้าทำอะไร ดังนั้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ไม่ควรคิดว่าไม่เป็นอะไรเดี๋ยวก็หาย เพราะจากการหกล้มเราก็ไม่รู้ว่ามีอวัยวะภายในใดที่ได้รับการกระทบกระเทือนหรือเสียหายบ้าง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจโดยด่วน”

ผศ.นพ.รุ่งนิรันดร์ ยังได้ให้หลักง่ายๆ ในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุว่า หลักที่ว่าคือ หลัก 3 อ.ได้แก่ อาหาร ออกกำลังกาย และอนามัย โดยอาหารควรกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ 3 มื้อ ต่อวัน ให้เน้นในมื้อเช้า และกลางวันส่วนมื้อเย็นให้ทานอาหารเบาๆย่อยง่าย เพื่อให้กระเพาะ ลำไส้ได้พัก และควรกินอาหารระหว่างมื้อด้วย โดยยึดหลักว่ากินอาหารแต่ละมื้อให้น้อย แต่กินบ่อย เลี่ยงอาหารเค็ม มัน หวานและรสจัด อ.ที่สอง คือ ออกกำลังกาย เช่น ออกกำลังกายแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้ข้อต่อต่างๆ มากนักอย่าง การเดินเร็ว อาทิตย์ละ3-4ครั้งครั้งละ 20-30 นาที เท่านี้สุขภาพก็แข็งแรงได้แล้ว หรือใครอยากทำกายบริการแบบรำมวยจีน โยคะ การฝึกกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน การเล่นกีฬาที่ชอบก็ทำได้แต่ก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนไม่ควรฝืน สภาพร่างกายจนเกินไป อ.ที่สาม คือ อนามัยลด ละ เลิกการบริโภคหรือเสพสารพิษต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายเลย

“อยากให้ทั้งผู้สูงอายุเองดูแลเอาใจใส่ในการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพของตนเอง ไปตรวจร่างกายโดยไม่ต้องรอให้มีอาการก่อน โรคบางอย่างที่พบบ่อย เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เมื่อตรวจพบแล้วสามารถรักษาได้ ขณะที่ลูกหลานก็ควรที่จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ใหญ่ในบ้านไปตรวจสุขภาพ ให้ทานยา ชวนท่านทำกิจกรรมที่ชอบ ให้ความรัก เคารพยกย่องซึ่งการกระทำเช่นนี้ก็จะส่งผลต่อจิตใจและผลดีต่อสุขภาพตามมา ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะทำเพื่อคนที่เรารัก”

ด้านนักแสดงอาวุโสอย่าง “รอง เค้ามูลคดี” ก็ได้บอกเล่าการรักษาสุขภาพแบบฉบับตนเอง ว่า เมื่ออายุมากขึ้นก็ระมัดระวังเอาใจใส่สุขภาพเพิ่มขึ้น เช่น การกินอาหารก็จะเลือกกินของที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ข้าวขาหมูที่ชอบและกินเป็นประจำก็เลี่ยงทานน้อยลง อยู่ในสถานที่อากาศดี มีอารมณ์แจ่มใสอยู่เสมอ ขณะที่ความเครียดก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อจิตใจและสุขภาพของทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุยิ่งน่ากลัว ยิ่งเครียดมากๆ ก็จะทำให้เส้นโลหิตในสมองแตกได้ และส่งผลต่อการเกิดอัมพฤกษ์อัมพาตและโรคอื่นๆ ได้

อย่างผมเองก็มีความเครียดเช่นกัน แต่จะเครียดเฉพาะบางเรื่องเท่านั้น หลังจากนั้นจะมองทุกอย่างแบบปล่อยวาง เดินทางสายกลางไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป ทำใจให้สบาย ยิ้มสู้กับปัญหา และหาวิธีระบายออกมา เช่น การสวดมนต์ อ่านหนังสือ เดินเล่น เดินซื้อของหรือใครที่มีหลานก็เลี้ยง เล่นกับหลาน เพราะหลานเล็กๆ นี่คือยาชูกำลังทำให้ปู่ ย่า ตา ยายชื่นใจหายเครียดได้” นักแสดงอารมณ์ดีกล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น