กลุ่มสภาการศึกษาทางเลือกฯ ค้านยุบควบรวม ร.ร.ขนาดเล็ก ล็อตแรก 2,500 โรง ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ ศธ.ยุตินโยบายและตั้งกรรมการฯกลางมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ มาร่วมให้ความเห็น ขู่ให้เวลา 30 วันหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะเดินหน้าหาพรรคการเมืองที่หนุนแนวคิดของกลุ่ม
วันนี้ (11 พ.ค.) นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ เลขาธิการสภาการศึกษาทางเลือก พร้อมคณะ จำนวน 10 คน เดินทางยื่นหนังสือต่อนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอคัดค้านนโยบายยุบควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก แต่นายชินวรณ์ ติดภารกิจ ตัวแทนสำนักงานรัฐมนตรีจึงรับเรื่องแทน
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า สภาการศึกษาทางเลือกไม่เห็นด้วย และขอคัดค้านนโยบายที่จะยุบควบรวมโรงเรียนของ ศธ. เพราะเป็นนโยบายที่ขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ในเรื่องสิทธิและเสรีภาพในการศึกษา รวมทั้งยังขัดเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2554 มาตรา 29 ที่ระบุให้แนวทางจัดการศึกษามุ่งส่งเสริมให้สถานศึกษาร่วมมือกับครอบครัว องค์กรหรือชุมชนเพื่อความเข้มแข็งของชุมชนด้วยการจัดกระบวนการเรียนรู้ภายในชุมชน แต่ขณะนี้วิธีการของ ศธ.โดย สพฐ.เป็นการผูกขาดอำนาจ และใช้การสั่งการมากกว่าส่งเสริมการมีส่วนร่วมการจัดการศึกษาของภาคประชาสังคม ทั้งยังขัดกับข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษา ทศวรรษที่ 2 ที่ต้องการลดบทบาทของรัฐในการจัดการศึกษาเป็นหลักมาเป็นผู้กำกับนโยบาย แผน มาตรฐานการศึกษา ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ชุมชน และภาคเอกชน เป็นต้น ซึ่งในประเด็นนี้ ได้รับการผลักดันจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีด้วย
สภาการศึกษาทางเลือกจึงมีข้อเสนอต่อ ศธ.ดังนี้ 1.ให้ ศธ.ยุติการดำเนินนโยบาย และการสั่งการให้เขตพื้นที่การศึกษายุบควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก 2.ให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคม ทำหน้าที่ประสานงานรับฟังและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยขอให้จัดเวทีประชาสังคม ประกอบด้วยครู ผู้แทนสำนักงานเขตพื้นที่ ผู้ปกครอง ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ ซึ่งทางสภาการศึกษาทางเลือกพร้อมจะให้ความร่วมมือเต็มที่และจะรอฟังคำตอบภายใน 30 วัน
“โรงเรียนขนาดเล็กมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับชุมชน และการจัดการศึกษาขนาดเล็กนั้นจะช่วยส่งเสริมคุณภาพได้ดีกว่าจัดการศึกษาขนาดใหญ่ อีกทั้งเป็นการสนับสนุนครูภูมิปัญญาชาวบ้านที่จะช่วยถ่ายทอดความรู้สู่เด็ก ก่อนหน้านี้ ผมเคยเข้าพบ นายชินวรณ์ มาแล้วครั้งหนึ่งครั้งนั้นท่านบอกชัดเจนว่า หากสมัยหน้าท่านมาเป็นรัฐมนตรีอีกก็จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กทั้ง 7 พันโรงแน่นอน พวกผมจะรอฟังคำตอบภายใน 30 วันหากไม่มีอะไรคืบหน้าพวกเราจะเคลื่อนไหวโดยจะเข้าไปเสนอแนวคิดนี้ต่อพรรคการเมืองที่มีแนวคิดนโยบายที่จะไม่ยุบควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก แต่มีแนวคิดจะสนับสนุนนโยบายจัดการศึกษาชุมชน พร้อมกันนี้จะจัดเวทีสาธารณะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 4 ภาคต่อไป” นายชัชวาลย์ กล่าว
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือครั้งนี้ เพราะทราบว่าพรุ่งนี้ (11 พ.ค.) สพฐ.จะมีการประชุมผู้อำนวยการเขตพื้นที่ เพื่อยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก ล็อตแรก 2,500 โรง และมีแผนจะยุบไปโรงเรียนไปเรื่อยๆ จนถึงปี 2560 ยุบถึง 14,000 โรง ถ้ายุบโรงเรียนขนาดเล็กจำนวนดังกล่าว เด็กจะได้รับผลกระทบถึง 1 ล้านคน
วันนี้ (11 พ.ค.) นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ เลขาธิการสภาการศึกษาทางเลือก พร้อมคณะ จำนวน 10 คน เดินทางยื่นหนังสือต่อนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอคัดค้านนโยบายยุบควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก แต่นายชินวรณ์ ติดภารกิจ ตัวแทนสำนักงานรัฐมนตรีจึงรับเรื่องแทน
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า สภาการศึกษาทางเลือกไม่เห็นด้วย และขอคัดค้านนโยบายที่จะยุบควบรวมโรงเรียนของ ศธ. เพราะเป็นนโยบายที่ขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ในเรื่องสิทธิและเสรีภาพในการศึกษา รวมทั้งยังขัดเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2554 มาตรา 29 ที่ระบุให้แนวทางจัดการศึกษามุ่งส่งเสริมให้สถานศึกษาร่วมมือกับครอบครัว องค์กรหรือชุมชนเพื่อความเข้มแข็งของชุมชนด้วยการจัดกระบวนการเรียนรู้ภายในชุมชน แต่ขณะนี้วิธีการของ ศธ.โดย สพฐ.เป็นการผูกขาดอำนาจ และใช้การสั่งการมากกว่าส่งเสริมการมีส่วนร่วมการจัดการศึกษาของภาคประชาสังคม ทั้งยังขัดกับข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษา ทศวรรษที่ 2 ที่ต้องการลดบทบาทของรัฐในการจัดการศึกษาเป็นหลักมาเป็นผู้กำกับนโยบาย แผน มาตรฐานการศึกษา ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ชุมชน และภาคเอกชน เป็นต้น ซึ่งในประเด็นนี้ ได้รับการผลักดันจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีด้วย
สภาการศึกษาทางเลือกจึงมีข้อเสนอต่อ ศธ.ดังนี้ 1.ให้ ศธ.ยุติการดำเนินนโยบาย และการสั่งการให้เขตพื้นที่การศึกษายุบควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก 2.ให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคม ทำหน้าที่ประสานงานรับฟังและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยขอให้จัดเวทีประชาสังคม ประกอบด้วยครู ผู้แทนสำนักงานเขตพื้นที่ ผู้ปกครอง ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ ซึ่งทางสภาการศึกษาทางเลือกพร้อมจะให้ความร่วมมือเต็มที่และจะรอฟังคำตอบภายใน 30 วัน
“โรงเรียนขนาดเล็กมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับชุมชน และการจัดการศึกษาขนาดเล็กนั้นจะช่วยส่งเสริมคุณภาพได้ดีกว่าจัดการศึกษาขนาดใหญ่ อีกทั้งเป็นการสนับสนุนครูภูมิปัญญาชาวบ้านที่จะช่วยถ่ายทอดความรู้สู่เด็ก ก่อนหน้านี้ ผมเคยเข้าพบ นายชินวรณ์ มาแล้วครั้งหนึ่งครั้งนั้นท่านบอกชัดเจนว่า หากสมัยหน้าท่านมาเป็นรัฐมนตรีอีกก็จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กทั้ง 7 พันโรงแน่นอน พวกผมจะรอฟังคำตอบภายใน 30 วันหากไม่มีอะไรคืบหน้าพวกเราจะเคลื่อนไหวโดยจะเข้าไปเสนอแนวคิดนี้ต่อพรรคการเมืองที่มีแนวคิดนโยบายที่จะไม่ยุบควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก แต่มีแนวคิดจะสนับสนุนนโยบายจัดการศึกษาชุมชน พร้อมกันนี้จะจัดเวทีสาธารณะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 4 ภาคต่อไป” นายชัชวาลย์ กล่าว
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือครั้งนี้ เพราะทราบว่าพรุ่งนี้ (11 พ.ค.) สพฐ.จะมีการประชุมผู้อำนวยการเขตพื้นที่ เพื่อยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก ล็อตแรก 2,500 โรง และมีแผนจะยุบไปโรงเรียนไปเรื่อยๆ จนถึงปี 2560 ยุบถึง 14,000 โรง ถ้ายุบโรงเรียนขนาดเล็กจำนวนดังกล่าว เด็กจะได้รับผลกระทบถึง 1 ล้านคน
