หนุนรัฐปรับภาษีรถยนต์ใหม่ เน้นผลิตเครื่องยนต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นักวิชาการสิ่งแวดล้อม หนุนรัฐบาลปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ เน้นปรับปรุงเครื่องยนต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เชื่อช่วยลด “ภาวะโลกร้อน” พร้อมจับตาภาคอุตสาหกรรม ล็อบบี้ ครม.คัดค้านเต็มที่

นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ ผู้อำนวยการสถาบันธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ ว่า เห็นด้วยในหลักการการขึ้นภาษีรถยนต์ใหม่ แต่ควรมีความชัดเจนว่าจะปรับเพื่อเป้าหมายใด และมีฐานคิดอย่างไร ซึ่งการปรับฐานภาษีใหม่ควรพิจารณา 2 เกณฑ์ในการคำนวณ คือ 1.มีมาตรการจูงใจให้ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยดูจากความสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อลดปัญหาก๊าซเรือนกระจก โดยหากมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ น้อยกว่า 150 กรัมต่อกิโลเมตร อาจลดภาษีลง 5% หากปล่อยเกิน 150 กรัมแต่ไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร เสียภาษีในอัตราปกติ แต่หากมีการปล่อยเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอีก 5% และ 2.คำนวณภาษีจากร้อยละของราคาจำหน่ายหรือราคาต้นทุน เช่น พวกรถหรู หรือรถนำเข้าต่างๆ และควรเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้าตามราคาที่สูงขึ้น เพราะคนที่ใช้รถเหล่านี้ มีความสามารถพอที่จะจ่ายภาษีได้สูงกว่าประชาชนกลุ่มที่มีรายได้น้อย

“เข้าใจว่า รัฐบาลชุดนี้พยายามเร่งผลักดันให้โครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่นี้ออกมาให้ทันก่อนประกาศยุบสภา ซึ่งหากผ่านคงมีการนำร่องเรื่องการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก่อน และหลังจากนั้น ต้องรอดูพรรคการเมืองต่างๆ ว่าจะนำเอาเรื่องการปฏิรูปสังคมมาชูเป็นนโยบายหาเสียงต่อหรือไม่ เพราะต้องใช้ทั้งมาตรการภาษีจูงใจเพื่อรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และมาตรการด้านราคา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมตามนโยบายการปฏิรูปประเทศด้วย ซึ่งข้อเสนอเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่ดี หากมีการพิจารณาทั้งสองประเด็นให้ครอบคลุม เชื่อว่า จะได้แรงหนุนจากสังคมมากขึ้นแน่นอน” นายบัณฑูร กล่าว

น.ส.เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะมีการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ แต่ไม่แน่ใจว่าการเก็บภาษีใหม่จะพิจารณาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอน จากท่อไอเสียรถยนต์ หรือพิจารณาทั้งระบบตั้งแต่ระบบเชื้อเพลิงที่ใช้ จึงอยากเสนอให้ควรจัดเก็บภาษีเพิ่มในส่วนของระบบเชื้อเพลิงที่ไม่ได้มาตรฐานด้วย เพราะภาคการขนส่งเป็นส่วนที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากเป็นอันดับ 2 รองจากภาคอุตสาหกรรมและพลังงาน รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 พ.ค.นี้ มีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ เพื่อเป็นมาตรการสนับสนุนให้กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ผลิตรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ได้มีกระแสคัดค้านจากกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างหนัก และล็อบบี้ไม่ให้มาตรการนี้มีผลบังคับใช้ ซึ่งต้องจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด