“นิพิฏฐ์” ทวงงบ 100 ล้านบาทบูรณะโบราณสถานน้ำท่วมเมื่อปี 2553 หลังสำนักงบประมาณตีกลับคืนคลัง อ้างแบบบูรณะโบราณสถานที่กรมศิลป์ส่งมาไม่มีความสมบูรณ์จึงทำให้ต้องตัดงบบูรณะที่เหลือ พร้อมติดตามเรื่องนี้ด้วยตนเอง สั่งกรมศิลป์เร่งบูรณะเจดีย์พระธาตุภาคเหนือเสียหายกว่า 20 แห่ง
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการที่ วธ. เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณ 66.4 ล้านบาท เพื่อบูรณะโบราณสถานจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศพม่าเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และแรงสั่นสะเทือนส่งผลกระทบโบราณสถานทางภาคเหนือของประเทศไทยได้รับความเสียหายกว่า 20 แห่ง โดยเฉพาะ จ.เชียงราย ได้รับความเสียหายมากที่สุดถึง 10 แห่ง เช่น เจดีย์วัดพระธาตุจอมกิตติ องค์พระธาตุเจดีย์หลวง เจดีย์วัดป่าสัก เจดีย์วัดปราสาทคุ้ม วิหารวัดพระธาตุภูเข้า ขณะที่ จ.น่าน 6 แห่ง เช่น วัดพระธาตุแช่แห้ง วิหารจัตุรมุข วัดภูมินทร์ ที่ จ. พะเยา 4 แห่งเช่น วิหารเจดีย์วัดสี วัดพระธาตุขิงแกง วัดศรีโคมคำ นอกจากนี้ มี 1 ถึง 2 แห่งที่ จ.เชียงใหม่ จ.ลำปาง จ.ลำพูน และ จ. แพร่ เป็นต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ หากได้รับการอนุมัติจะเร่งให้กรมศิลปากรรีบดำเนินการบูรณะและเสริมความมั่นคงแข็งแรงโดยเร็วที่สุด
นายนิพิฏฐ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีงบบูรณะโบราณสถานจากเหตุการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมปี พ.ศ.2553 ที่ทางสำนักงบประมาณได้อนุมัติจำนวน 234 ล้านบาท แต่กลับได้รับงบประมาณเพียง 134 ล้านบาท เนื่องจากสำนักงบฯ อ้างว่างแบบบูรณะโบราณสถานที่ส่งมาไม่มีความสมบูรณ์จึงต้องขอตัดงบบูรณะที่เหลืออีก 100 ล้านบาทไว้ และขอให้กรมศิลปากรนำแบบไปแก้ให้เรียบร้อย ซึ่งทาง วธ.จึงได้ส่งเรื่องให้กรมศิลปากรดำเนินการแก้แบบให้แล้วเสร็จนำเสนออีกครั้ง แต่ขณะนี้ตนเกรงว่างบบูรณะที่เหลืออีก 100 ล้านบาทถูกนำเข้าคลังไปแล้ว จะไม่ได้รับการจัดสรรออกมา เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ทางวธ.ต้องเจรจากับสำนักงบฯ คืนงบส่วนนี้ให้กับกรมศิลปากรตามที่รับอนุมัติมาก่อนหน้านี้
“กังวลเรื่องงบบูรณะโบราณสถานของกรมศิลปากรมาก ทั้งงบบูรณะโบราณสถานจากแผ่นดินไหว 66.4 ล้านบาท และงบบูรณะโบราสถานจากน้ำท่วมปี 2553 ที่ตกค้างอีก 100 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ หากไม่ได้รับงบ หรือ ได้รับล่าช้า ไม่ได้บูรณะเพิ่มเติม เมื่อโบราณสถานมีปัญหาและได้รับความเสียหายจากการเกิดแผ่นดินไหวหรือน้ำท่วมขึ้นมาจะโทษกรมศิลปากรไม่ได้ เพราะงบประมาณที่อนุมัติแล้วควรจะได้ดำเนินการเต็มที่ และงบนี้ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับการซ่อมแซมถนนและกำแพงโรงเรียนบางแห่ง อย่างไรก็ตาม จะติดตามเรื่องงบนี้กับสำนักงบฯ ด้วยตนเอง ทั้งจะทำหนังสือถึงผู้แทนราษฎรและผู้ว่าราชการจังหวัดที่โบราณสถานได้รับผลกระทบให้เข้าใจ หากทางสำนักงบฯ ดึง 100 ล้านบาทกลับเข้าคลัง เป็นเรื่องที่ประชาชนในท้องถิ่นต้องทวงถามถึงด้วย” รมว.วธ.กล่าว
