เชียงราย - รมว.วัฒนธรรม นำทีมเจ้าหน้าที่กรมศิลป์ ตรวจความเสียหายโบรณาณสถานสำคัญของเชียงแสน หลังได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวใหญ่ในพม่า ชี้ ต้องใช้หลักวิศวกรรมบูรณะให้คงทน พร้อมสั่งสำรวจโบราณสถานทั่วประเทศ วางแผนรับมือภัยธรรมชาติในอนาคต
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า จากกรณีโบราณสถานหลายแห่งใน อ.เชียงแสน ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 24 มี.ค.54 ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.วัฒนธรรม พร้อมคณะจากกรมศิลปากร ได้เดินทางไปตรวจสภาพความเสียหายหลายแห่งคือ ที่วัดพระธาตุเจดีย์หลวงในเขตเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน วัดพระธาตุจอมกิตติ และวัดพระธาตุปูเข้าในเขต ต.เวียง ซึ่งพบว่าแต่ละแห่งได้รับความเสียหายแตกต่างกันไป
ที่วัดพระธาตุเจดีย์หลวงได้รับความเสียหายมากที่สุด คือ ส่วนยอดของพระธาตุ หักโค่นลงมาและยังตกใส่เจดีย์บริวารจนเสียหาย องค์พระธาตุที่เหลืออยู่มีรอยอิฐตกลงมาเป็นโพลงใหญ่และยอดเอียง ซึ่งพระธาตุแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าแสนภู พระราชนัดดาของพ่อขุนเม็งมหาราชทรง เมื่อปี พ.ศ.1887 หรือประมาณ 667 ปี เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่มีฐานกว้าง 24 เมตร และสูง 88 เมตร ส่วนพระธาตุจอมกิตติส่วนยอดเอียงลงอย่างมาก รวมทั้งพระธาตุปูเข้าที่วิหารเก่าแก่พังลงบางส่วน
หลังการตรวจสอบ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า โบราณสถานในเขตเมืองเชียงแสน ส่วนใหญ่มีอายุที่เก่าแก่อย่างมาก จึงเสียหายง่ายเมื่อมีเหตุแผ่นดินไหว ดังนั้นการบูรณะคงไม่ได้อยู่ที่การใช้งบประมาณเข้าไปซ่อมแซมบูรณะแล้วจะได้ผลเลยทีเดียว แต่จะต้องวางแผนด้วยวิศกรรมอย่างละเอียด โดยมีกระบวนการวิเคราะห์ เพื่อให้สามารถคงทนอยู่ได้อย่างยั่งยืน
นายนิพิฏฐ์ กล่าวอีกว่า หลังการตรวจสอบและหารือกับฝ่ายบริหารกรมศิลปากรแล้วได้มีคำสั่งให้ดำเนินการตามแนวทางนี้ รวมทั้งยังให้หน่วยงานสังกัดกรมศิลปากรทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้ทำการสำรวจโบราณสถานในเขตรับผิดชอบ เพื่อให้เฝ้าระวังโดยเฉพาะกรณีที่เสี่ยงต่อการเสียหายได้ง่ายเหมือนที่ อ.เชียงแสน เพื่อจะได้ดูแลเพื่อลดความเสียหายให้น้อยลงในอนาคตแล้ว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังการตรวจสอบครั้งนี้นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาและวางแผนรองรับผลกระทบที่จะมีต่อโบราณสถานอันมาจากภัยธรรมชาติต่างๆ ทั้งแผ่นดินไหว น้ำท่วม ดินถล่ม ฯลฯ เพื่อจัดลำดับพื้นที่ความเสี่ยงสำหรับการบูรณะและดูแลในระยะยาวด้วย
ขณะที่ นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักโบราณคดีจากกรมศิลปากร กล่าวว่า โบราณสถานที่ อ.เชียงแสน ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้มากกว่าเหตุแผ่นไหวเมื่อเดือน พ.ค.2550 สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะมีอายุที่เก่าแก่มาก ดังนั้น จึงจะมีการใช้หลักวิศวกรรมมากกว่าการบูรณะตามปกติ เพื่อดูแลความคงทนให้มากที่สุดต่อไป
