ผู้ว่าฯ จ.น่าน จับมือเครือข่ายงดเหล้าภาคเหนือ สั่งลุย “พื้นที่เล่นน้ำปลอดภัย หาดริมน้ำน่านปลอดเหล้า” ต้อนรับเทศกาลหยุดยาวสงกรานต์ เชื่อ มาตรการนี้ช่วยสกัดขี้เมา ลดทะเลาะวิวาท ลามกอนาจาร อุบัติเหตุ-เสียชีวิต
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่บริเวณหาดทรายขาว ริมแม่น้ำน่าน บ้านท่าช้างจ.น่าน นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีประกาศเจตนารมณ์ “หาดหินขาว หาดรวมใจ สนุก ปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์” ทั้งนี้ มีหน่วยงานที่ร่วมประกาศเจตนารมณ์ ประกอบด้วย คณะกรรมการชุมชนท่าช้างและพระเนตร เทศบาลเมืองน่าน โรงพยาบาลน่าน สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมีมติร่วมกันให้บริเวณหาดหินขาวและหาดรวมใจ เป็นพื้นที่ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในช่วงเทศกาลระหว่างวันที่ 20 มีนาคม - 20 เมษายน2554
นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาว หรือช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ใกล้เข้ามาถึงนี้ ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาและเฉลิมฉลองในวันพักผ่อน และถือเป็นช่วงอันตราย เพราะมักเกิดอุบัติเหตุจากการเดินทางและการเล่นน้ำที่ไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองน่าน จะมีชุมชนที่มีพื้นที่ติดลำน้ำน่านและมีหาดทรายสาธารณะ ได้แก่ หาดหินขาวในชุมชนท่าช้างและหาดรวมใจในชุมชนพระเนตร โดยทุกปีจะมีประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงไปเล่นน้ำเพื่อผ่อนคลายและพักผ่อนหย่อนใจเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน จะมีพ่อค้าแม่ค้านำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปขายในบริเวณหาด เพราะจากข้อมูลที่ภาคประชาชนสำรวจจะพบว่า บริเวณหาดมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบางร้านได้จำหน่ายให้แก่เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งถือว่าผิดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 นอกจากนี้ ยังพบว่าในแต่ละปีจะเกิดปัญหาวัยรุ่นยกพวกตีกันจากการเมาสุรา ส่งเสียงโวยวายรบกวนผู้อื่น ขาดความยับยั้งชั่งใจ ก่อให้เกิดพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสมได้ ที่สำคัญ เกิดปัญหาอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ
“ผมยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และเชื่อว่า มาตรการห้ามนำเหล้า เบียร์ เข้ามาดื่ม จำหน่าย ในบริเวณหาดทรายขาวและหาดรวมใจ จะเป็นการตัดวงจรช่วยลดอุบัติเหตุ และความไม่ปลอดภัยต่างๆ ลดลง โดยเฉพาะความคึกคะนองของกลุ่มวัยรุ่น นอกจากนี้ยังสามารถเป็นแบบอย่างกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ให้มีพื้นที่สร้างสรรค์ สนุก ปลอดภัย เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยที่เข้าไปพักผ่อน” นายเสนีย์ กล่าว
ดต.ประเทือง ปานะ หัวหน้าบ้านท่าช้าง ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.)ระบุว่าจังหวัดน่าน ติดอันดับ 4 ที่มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุด และมีผู้ที่ดื่มเป็นประจำทุกสัปดาห์สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ หรือ 86,811ราย จากประชากรอายุมากกว่า 15 ปี จำนวน 364,752 ราย นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรจำนวน 221 ราย และเสียชีวิต 5 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากเมาแล้วขับ ดังนั้น เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาล ภาคประชาชน ต้องสร้างค่านิยมใหม่ ให้ความตระหนักถึงพิษภัยจากวัฒนธรรมการดื่มสุรา โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ที่อาจกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่ในช่วงสงกรานต์
ด้าน นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาล จ.น่าน ในฐานะที่ปรึกษาเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคเหนือ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของ จ.น่าน ในปีที่ผ่านมา สอบสวนพบว่า 1 ราย พาครอบครัวมาเล่นน้ำที่หาดริมน้ำน่าน ส่วนผู้ขับนั่งดื่มสุราจนมึนเมา และเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำขณะเดินทางกลับ ทำให้เด็กที่นั่งบริเวณท้ายกระบะหลังของรถเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ดื่มสุราจนมึนเมา แล้วลงไปเล่นน้ำเป็นเหตุให้จมน้ำ รวมถึงผู้ปกครองที่นั่งดื่มสุราอยู่ริมหาด และปล่อยให้บุตรหลานอายุ 6-7 ขวบ เล่นน้ำ จนเกิดเหตุจมน้ำเกือบเสียชีวิตและต้องนอนรักษาในห้องไอซียูกว่า 1 เดือน เสียค่าใช้จ่ายกว่า 2 แสนบาท จึงเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่ชุมชนและทุกฝ่ายร่วมใจกันจัดงานดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ลดการเสียชีวิตจากการจมน้ำและอุบัติเหตุลงได้
“ช่วงเทศกาลนี้นี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกระตุ้นเตือนให้รู้ว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินอย่างไร และต้องขอชื่นชมที่ชุมชนและทุกฝ่ายร่วมใจกันจัดงานดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ลดการเสียชีวิตจากการจมน้ำและอุบัติเหตุลงได้” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
