วงเสวนาถกปัญหารับวันเด็กปี 54 ชี้ผู้ใหญ่สอบตกดูแลเด็กไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จี้ต่อมสำนึกสิ่งที่เด็กอยากได้คือความรัก ความเข้าใจและอบอุ่น เผยของขวัญที่เด็กเมินแต่โดนผู้ใหญ่ยัดเยียด คือพฤติกรรมผีพนัน ร้ายสุดใช้ลูกหลานซื้อหวย-ให้ลูกบอกใบ้แล้วสุ่มซื้อ-มีส่วนแบ่งเมื่อถูก ชี้ทำเด็กเลียนแบบมองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ มีพฤติกรรมอยากรวยทางลัด เกิดภูมิคุ้มกันบกพร่อง ระบุวันเด็กกว่า 40 ปี ได้แต่ท่องจำไม่ต่างจากนกแก้วนกขุนทอง
ที่สวนโมกข์ วันนี้ (7 ม.ค.) เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับ เครือข่ายมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเสวนาเนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2554 หัวข้อ “ของขวัญที่เด็กไทยไม่อยากได้” โดย นพ.สุริยเดว ทรีปาตรี ผู้อำนวยการ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว กล่าวว่า จริงๆ แล้วเด็กกับของขวัญถือว่าเป็นของคู่กัน แต่ธรรมชาติของเด็ก อะไรก็ตามที่ผู้ใหญ่ให้หรือใช้คำว่ายัดเยียด เด็กก็จะรับและซึมซับสิ่งนั้นไป ดังนั้นการเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ใหญ่ถือว่ายังไม่เพียงพอ เพราะพฤติกรรมต่างๆ มักเกิดจากการเรียนรู้สิ่งรอบข้างที่เขามองเห็น การได้ยิน การได้ฟัง สัมผัสได้ และได้ลงมือปฏิบัติ เช่น ผู้ใหญ่ที่เล่นการพนัน เล่นหวย ทำเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้เด็กเห็น ยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้นคือฝากเด็กไปซื้อหวย ซึ่งเด็กจะเรียนรู้ทันทีว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง สุดท้ายจะเคยชินจนกลายเป็นวัฒนธรรม ทำให้เด็กอยากรวยทางลัด คิดแต่เรื่องโชคลาภ ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย บางรายถึงขั้นกลายเป็นเจ้ามือรับแทงหวย ซึ่งข้อมูลวิจัยพบว่าเด็กที่ขายหวย เดินโพยหวย จัดว่าเป็นเด็กที่มีความเสี่ยง เพราะมีต้นทุนชีวิตที่ต่ำ
“ผู้ใหญ่ต้องมีจิตสำนึกว่าของขวัญในวันเด็กที่เด็กต้องการ ควรเป็นอะไร และทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กเห็น หากผู้ใหญ่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ทะเลาะเบาะแว้ง ยกพวกตีกัน การใช้ความรุนแรง ปัญหาอาชญากรรมต่างๆ การเล่นการพนัน การติดยาเสพติด สิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กลอกเลียนแบบได้ง่าย ทั้งนี้ สิ่งที่ผมอดเป็นห่วงไม่ได้คือ ทัศนคติของผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูเด็กในปัจจุบัน ถือว่าไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กเลย การดูแลเด็กให้มีคุณภาพเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ ทำให้ต้องเผชิญกับภูมิคุ้มกันบกพร่องทางสังคม ดังนั้นหากผู้ใหญ่ต้องการทำเพื่อเด็กจริงๆ ควรจะต้องเติมเต็มเรื่องการใช้ชีวิตให้กับเด็กมากนี้ เพราะจากข้อมูลในปีที่ผ่านๆมาพบว่า ต้นทุนชีวิตของเด็กมีเรื่องที่อ่อนแอมาก คือ การแบ่งบันน้ำใจแก่ผู้อื่น และการทำความดี”นพ.สุริยเดวกล่าว
สำหรับของขวัญที่เด็กทุกคนต้องการจากผู้ใหญ่จริงๆคือ ความรัก ความเข้าใจ และความอบอุ่น และของขวัญชิ้นที่ถัดไปที่เด็กอยากได้ คือการรับฟังความคิดเห็นของเด็ก เพราะที่ผ่านมาของขวัญสำหรับเด็กส่วนใหญ่เป็นพียงของนอกกายที่ทำด้วยวัตถุ เช่น จัดงานรื่นเริงสนุกสนาน มอบของขวัญ ตุ๊กตา พาเด็กไปเที่ยว อย่างไรก็ตามวันเด็กที่มีมากว่า 40 ปี แต่เด็กก็ได้เพียงการท่องจำคำขวัญ เหมือนนกแก้วนกขุนทองเท่านั้น ดังนั้น ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีต่อหากิจกรรมสร้างสรรค์ มากว่ากิจกรรมที่มอมเมาเด็ก
ด้าน นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวถึงสิ่งที่ผู้ใหญ่ปลูกฝังค่านิยมทำให้เด็กซึมซับในการเล่นการพนันว่า จากผลสำรวจเรื่องการชิงโชคและเสี่ยงโชค ในกลุ่มประชาชนอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป สะท้อนชัดเจนว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้ที่มากกว่า 1 หมื่นบาทต่อเดือน อีกทั้งยังประกอบอาชีพพนักงานและลูกจ้าง โดยมีพฤติกรรมและความสนใจต้องการร่วมชิงโชคเพื่อรับของรางวัล เช่น ส่งฉลาก ฝา ไปรษณีย์ ส่งเอสเอ็มเอส ซึ่งลักษณะที่พบเห็นบ่อยที่สุด คือ การใช้ชื่อลูกหลานร่วมสนุก และทุ่มเงินเพื่อซื้อรางวัล อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจระบุด้วยว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความสนใจในการซื้อล๊อตเตอรี่และหวยใต้ดิน ซึ่งลักษณะการเสี่ยงโชคที่พบเห็นคือ ใช้ลูกหลานซื้อให้ ให้ลูกหลานบอกใบ้แล้วสุ่มซื้อ มีส่วนแบ่งให้เมื่อถูก และลูกหลานแทงหวยตามพ่อแม่ ทั้งนี้ข้อกังวลที่ตนเป็นห่วง คือ ครอบครัวไทยกำลังบ่มเพาะให้เด็กกลายเป็นผีพนันโดยที่ไม่รู้ตัว
ที่สวนโมกข์ วันนี้ (7 ม.ค.) เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับ เครือข่ายมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเสวนาเนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2554 หัวข้อ “ของขวัญที่เด็กไทยไม่อยากได้” โดย นพ.สุริยเดว ทรีปาตรี ผู้อำนวยการ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว กล่าวว่า จริงๆ แล้วเด็กกับของขวัญถือว่าเป็นของคู่กัน แต่ธรรมชาติของเด็ก อะไรก็ตามที่ผู้ใหญ่ให้หรือใช้คำว่ายัดเยียด เด็กก็จะรับและซึมซับสิ่งนั้นไป ดังนั้นการเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ใหญ่ถือว่ายังไม่เพียงพอ เพราะพฤติกรรมต่างๆ มักเกิดจากการเรียนรู้สิ่งรอบข้างที่เขามองเห็น การได้ยิน การได้ฟัง สัมผัสได้ และได้ลงมือปฏิบัติ เช่น ผู้ใหญ่ที่เล่นการพนัน เล่นหวย ทำเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้เด็กเห็น ยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้นคือฝากเด็กไปซื้อหวย ซึ่งเด็กจะเรียนรู้ทันทีว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง สุดท้ายจะเคยชินจนกลายเป็นวัฒนธรรม ทำให้เด็กอยากรวยทางลัด คิดแต่เรื่องโชคลาภ ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย บางรายถึงขั้นกลายเป็นเจ้ามือรับแทงหวย ซึ่งข้อมูลวิจัยพบว่าเด็กที่ขายหวย เดินโพยหวย จัดว่าเป็นเด็กที่มีความเสี่ยง เพราะมีต้นทุนชีวิตที่ต่ำ
“ผู้ใหญ่ต้องมีจิตสำนึกว่าของขวัญในวันเด็กที่เด็กต้องการ ควรเป็นอะไร และทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กเห็น หากผู้ใหญ่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ทะเลาะเบาะแว้ง ยกพวกตีกัน การใช้ความรุนแรง ปัญหาอาชญากรรมต่างๆ การเล่นการพนัน การติดยาเสพติด สิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กลอกเลียนแบบได้ง่าย ทั้งนี้ สิ่งที่ผมอดเป็นห่วงไม่ได้คือ ทัศนคติของผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูเด็กในปัจจุบัน ถือว่าไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กเลย การดูแลเด็กให้มีคุณภาพเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ ทำให้ต้องเผชิญกับภูมิคุ้มกันบกพร่องทางสังคม ดังนั้นหากผู้ใหญ่ต้องการทำเพื่อเด็กจริงๆ ควรจะต้องเติมเต็มเรื่องการใช้ชีวิตให้กับเด็กมากนี้ เพราะจากข้อมูลในปีที่ผ่านๆมาพบว่า ต้นทุนชีวิตของเด็กมีเรื่องที่อ่อนแอมาก คือ การแบ่งบันน้ำใจแก่ผู้อื่น และการทำความดี”นพ.สุริยเดวกล่าว
สำหรับของขวัญที่เด็กทุกคนต้องการจากผู้ใหญ่จริงๆคือ ความรัก ความเข้าใจ และความอบอุ่น และของขวัญชิ้นที่ถัดไปที่เด็กอยากได้ คือการรับฟังความคิดเห็นของเด็ก เพราะที่ผ่านมาของขวัญสำหรับเด็กส่วนใหญ่เป็นพียงของนอกกายที่ทำด้วยวัตถุ เช่น จัดงานรื่นเริงสนุกสนาน มอบของขวัญ ตุ๊กตา พาเด็กไปเที่ยว อย่างไรก็ตามวันเด็กที่มีมากว่า 40 ปี แต่เด็กก็ได้เพียงการท่องจำคำขวัญ เหมือนนกแก้วนกขุนทองเท่านั้น ดังนั้น ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีต่อหากิจกรรมสร้างสรรค์ มากว่ากิจกรรมที่มอมเมาเด็ก
ด้าน นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวถึงสิ่งที่ผู้ใหญ่ปลูกฝังค่านิยมทำให้เด็กซึมซับในการเล่นการพนันว่า จากผลสำรวจเรื่องการชิงโชคและเสี่ยงโชค ในกลุ่มประชาชนอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป สะท้อนชัดเจนว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้ที่มากกว่า 1 หมื่นบาทต่อเดือน อีกทั้งยังประกอบอาชีพพนักงานและลูกจ้าง โดยมีพฤติกรรมและความสนใจต้องการร่วมชิงโชคเพื่อรับของรางวัล เช่น ส่งฉลาก ฝา ไปรษณีย์ ส่งเอสเอ็มเอส ซึ่งลักษณะที่พบเห็นบ่อยที่สุด คือ การใช้ชื่อลูกหลานร่วมสนุก และทุ่มเงินเพื่อซื้อรางวัล อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจระบุด้วยว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความสนใจในการซื้อล๊อตเตอรี่และหวยใต้ดิน ซึ่งลักษณะการเสี่ยงโชคที่พบเห็นคือ ใช้ลูกหลานซื้อให้ ให้ลูกหลานบอกใบ้แล้วสุ่มซื้อ มีส่วนแบ่งให้เมื่อถูก และลูกหลานแทงหวยตามพ่อแม่ ทั้งนี้ข้อกังวลที่ตนเป็นห่วง คือ ครอบครัวไทยกำลังบ่มเพาะให้เด็กกลายเป็นผีพนันโดยที่ไม่รู้ตัว
