xs
xsm
sm
md
lg

วธ.เลื่อนลงทะเบียนผู้แสวงบุญไปประกอบพิธีฮัจญ์ออกไปไม่มีกำหนด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“นิพิฏฐ์” เผย การประชุมร่วมกับผู้แทนผู้ประกอบการสมาคมฮัจญ์ ยังไร้ข้อสรุป นัดถกอีกครั้ง 15 มี.ค.นี้ ด้านนายกสมาคมผู้ประกอบการฮัจญ์ เชื่อ การประชุมครั้งนี้ทำให้ทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจกันมากขึ้น

วันนี้ (7 มี.ค.)นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับผู้แทนผู้ประกอบการสมาคมฮัจญ์แห่งประเทศไทย ซึ่งใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เสนอปัญหา และข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการเดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งปัญหาที่ผู้ประกอบการนำมาพูดมากที่สุดเกี่ยวกับมติของคณะกรรมการที่เห็นชอบให้ปรับเพิ่มวงเงินประกันการเดินทางของผู้แสวงบุญจากรายละ 12,000 บาท เป็นรายละ 50,000 บาท ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงเหตุผลเป็นที่พอใจ แต่ยังไม่มีข้อยุติ โดยผู้ประกอบการต้องการให้กลับมาเก็บในจำนวนเท่าเดิม 12,000 บาท ดังนั้น ตนจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ในวันที่ 15 มีนาคมนี้ เพื่อให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณา ว่า ควรจะมีการทบทวนมติดังกล่าวหรือไม่ หรือเห็นสมควรอย่างไร ซึ่งในที่ประชุมตนจะไม่ออกความเห็นและลงคะแนน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการเป็นผู้ตัดสิน

นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากปัญหาการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ยังไม่ได้ข้อยุติ และต้องรอความชัดเจนอีกหลายเรื่อง ดังนั้น จะเลื่อนการลงทะเบียนผู้แสวงบุญจากเดิมกำหนดในวันที่ 16-25 มีนาคมนี้ ออกไปก่อนโดยไม่มีกำหนด เพื่อให้ปัญหาทุกข้อได้รับการเห็นชอบจากทุกฝ่าย ทั้งนี้ ตนได้ฝากให้ผู้ประกอบการไปทำการแก้ปัญหา กรณีพบว่า ผู้ประกอบการฮัจญ์นำรายชื่อของผู้ที่ไม่ได้เดินทางจริงมาลงทะเบียนเพื่อทำให้มีจำนวนมาก เนื่องจากการจัดสรรโควตา กรมการศาสนาจะพิจารณาจากจำนวนผู้ลงทะเบียน ดังนั้น ปัญหานี้ต้องได้รับการแก้ไขเพื่อคัดกรองให้เหลือแต่ผู้ต้องการไปแสวงบุญตัวจริง ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้ทบทวนมติเกี่ยวกับการห้ามสายการบินอื่น และผู้ประกอบกิจการฮัจญ์จัดเที่ยวบินขนส่งแบบเหมาลำก็ยังยึดตามมติเดิม เพราะมติคณะรัฐมนตรีกำหนดไว้ว่าต้องเป็นสายการบินแห่งชาติเท่านั้น

รมว.วธ.กล่าวด้วยว่า ได้รับรายงานจาก นายจรูญ นราคร รองอธิบดีกรมการศาสนาและคณะผู้แทนฮัจญ์ที่เดินทางไปเจรจากับทางซาอุดีอาระเบีย แจ้งกลับมาว่า ในปีนี้ทางซาอุฯ อนุมัติให้โควต้าจำนวน 13,000 คน เท่ากับปีที่ผ่านมา จากที่ขอไป 15,000 คน แต่พร้อมที่จะจัดสรรโควตาเพิ่มให้กับประเทศไทยอีก 2,000 คน โดยให้จุฬาราชมนตรีทำหนังสือรับรองจำนวนประชากรที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศไทย และกระทรวงวัฒนธรรม ทำหนังสือขอโควตาอย่างเป็นทางการ ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นจะดำเนินการแจ้งผลการพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ที่ผ่านมา การจัดสรรโควตาจะได้รับการจัดสรรจากซาอุฯในเวลากระชั้นชิดก่อนการเดินทางเพียง 5-10 วัน ส่งผลให้ ศน.ไม่สามารถบริหารจัดการ หรือจัดส่งผู้แสวงบุญเดินทางไป ดังนั้น จึงมอบหมายให้ ศน.เตรียมการรับมือ หากซาอุฯอนุมัติเพิ่มโควตาให้อีก 2,000 คนเพื่อไม่ให้มีปัญหาในการบริหารจัดการ

ขณะที่นายอิบรอเหม อาดำ นายกสมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ภาคใต้ กล่าวว่า ปัญหาการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์เป็นปัญหาที่เกิดทุกปี ซึ่งก็เกิดจากกลไกของเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ประกอบการ จากการประชุมในวันนี้ รมว.วธ.ก็เปิดโอกาสให้ตัวแทนผู้ประกอบการเสนอความเห็นเพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งทางผู้ประกอบการ ก็ได้ยื่นเสนอ 9 ข้อที่เคยเสนอไปแล้ว แต่ทางที่ประชุมก็ยังไม่ได้ข้อสรุป และต้องมีการประชุมใหม่อีกครั้งในวันที่ 15 มี.ค.นี้ แต่ก็เชื่อว่าจากการประชุมในวันนี้ก็ทำให้ทุกคนทุกฝ่ายมีความเข้าใจกันมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น