“นิพิฏฐ์” เดินหน้าสางปัญหาผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ในภาคใต้ 7 มี.ค.นี้ พร้อมเสนอ 2 แนวทาง คือ ให้สายการบินอื่นเข้ามาบินได้-อุดหนุนเงินส่วนต่างค่าตั๋ว
วันนี้ (4 มี.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหากรณีผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ในพื้นที่ภาคใต้ และสมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ภาคใต้ เรียกร้องให้ยกเลิกมติคณะกรรมการกรณีการเก็บเงินค้ำประกันการเดินทางผู้แสวงบุญจากรายละ 12,000 บาท เพิ่มเป็น 50,000 บาท และกรณีการห้ามสายการบินอื่น และผู้ประกอบกิจการฮัจญ์จัดเที่ยวบินขนส่งแบบเหมาลำ ว่า วันที่ 7 มีนาคมนี้ ตนได้นัดผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ในพื้นที่ภาคใต้ และสมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ภาคใต้ มาหารือเพื่อทำความเข้าใจและรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น โดยให้ส่งเฉพาะตัวแทนมาเท่านั้น หากมาในลักษณะการชุมชนกดดันตนจะไม่เจรจาและหารือใดๆ ทั้งสิ้น
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า จนถึงขณะนี้คณะกรรมการกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย ก็ยังยืนมติเดิม เพราะตนได้หารือกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เห็นว่า ควรจะดำเนินการตามมติดังกล่าวต่อไป ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ในพื้นที่ภาคใต้ และสมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ภาคใต้จะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีนั้น ทราบว่า ขณะนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อเข้าพบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการแก้ปัญหาให้จบโดยไม่ต้องถึงมือนายกรัฐมนตรี
รมว.วธ.กล่าวอีกว่า ต้องรอดูว่าวันที่ 7 มีนาคม ผู้ประกอบการกิจการฮัจญ์ในพื้นที่ภาคใต้จะมีข้อเรียกร้องและปัญหาที่ต้องการให้ วธ.ช่วยเหลือมีอะไรบ้าง ซึ่งหากเห็นว่าข้อเรียกร้องดังกล่าว วธ.สามารถช่วยเหลือได้ก็พร้อมช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามจะสรุปข้อเรียกร้องทั้งหมดเสนอนายอภิสิทธิ์ รับทราบด้วย รวมทั้งเรื่องที่ได้รับร้องเรียนจากผู้แสวงบุญในภาคใต้มาว่าราคาค่าตั๋วเครื่องบินของสายการบินไทยในการขนส่งผู้แสวงบุญมีราคาสูงกว่าสายการบินอื่น เฉลี่ยประมาณ 1 หมื่นบาทต่อคน โดยทาง วธ.ได้มีการเสนอ 2 แนวทางการแก้ปัญหามาด้วย 1.แก้ไขมติคณะกรรมส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย เรื่องสายการบิน โดยให้มีสายการบินอื่นเข้ามาบินได้ ก็จะทำให้ราคาตั๋วลดลง เพราะเกิดการแข่งขัน 2.ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณอุดหนุนราคาค่าส่วนต่างราคาตั๋วให้ผู้แสวงบุญในภาคใต้
“ต้องหารือกับนายอภิสิทธิ์ ว่า จะเลือกแนวทางใดในการแก้ปัญหา ทั้งนี้ หากรัฐบาลเลือกช่วยเหลือ โดยการจัดสรรงบอุดหนุนค่าตั๋วส่วนต่างให้ผู้แสวงบุญทั้ง 8,000 คนในภาคใต้ ต้องใช้งบประมาณ 80 ล้านบาท สาเหตุที่ราคาตั๋วเครื่องบินสายการบินไทยที่เรียกเก็บกับผู้แสวงบุญภาคใต้แพงกว่าปกติ เนื่องจากการขนส่งผู้แสวงบุญไปยังประเทศซาอุดีอาระเบียนั้น เมื่อส่งผู้แสวงบุญถึงซาอุดีอาระเบียแล้ว เครื่องบินของสายการบินไทยต้องบินเครื่องเปล่ากลับมาสุวรรณภูมิ รวมทั้งต้องบินเครื่องบินเปล่าไปรับผู้แสวงบุญจากซาอุดีอาระเบียกลับมาสุวรรณภูมิ ดังนั้น ทำให้สายการบินไทยต้องเรียกเก็บค่าตั๋วเครื่องบินแพงกว่าเที่ยวบินปกติ” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
