ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์ฯ อยุธยา เผย การแต่งกายไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยว, การเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุเอาอิฐมาก่อเป็นรูปเจดีย์ และการเคลื่อนย้ายป้ายแสดงคำเตือนเป็น 3 ปัญหาหลักที่มักเกิดขึ้นในโบราณสถาน จ.อยุธยา พร้อมเร่งหาทางออกขอความร่วมมือ ไกด์ ครู อาจารย์ช่วยตักเตือน
นายเมธาดล วิจักขณะ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในโบราณสถานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า ปัญหาหลักๆ ก็จะมีเรื่องการแต่งกายของนักท่องเที่ยวที่มักจะแต่งไม่เหมาะสม การเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุ หรือการเอาอิฐมาก่อเป็นรูปเจดีย์ รวมทั้งเรื่องป้ายการแสดงเตือนห้ามปีนป่าย ห้ามเคลื่อนย้ายว่า ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว ซึ่งก็พยายามหาทางแก้ไขตลอดเวลา เช่น การแต่งกายถ้ามีการเข้มงวดกับนักท่องเที่ยวมากเกินไปก็จะเกิดการต่อต้านจากไกด์นำเที่ยวและจากนักท่องเที่ยวแบบแบคแพคที่มักจะไม่คุ้นชินกับอากาศเมืองไทย ตอนนี้ตนกำลังจะรีแบรนด์เรื่องการแต่งกาย ซึ่งอาจจะทำในลักษณะเดียวกับพระบรมมหาราชวังหรือไม่ก็ต้องดูอีกครั้งหนึ่ง
“เรากำลังขอความคิดเห็นในส่วนของนักเที่ยวทั่วไป และจะมีการทำแบบสอบถามกับไกด์ถ้าไกด์ส่วนหนึ่งประมาณ60-70เปอร์เซ็นต์เห็นด้วยก็จะมีการวางแผนการควบคุมการแต่งกายของนักท่องเที่ยวต่อไป เช่น ถ้านุ่งสั้นมาเที่ยวโบราณสถานก็จะมีผ้าถุงไว้ให้บริการเหมือนที่วัดพระแก้ว” ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์ฯ อยุธยา กล่าว
นายเมธาดล กล่าวต่อว่า การนำอิฐมาก่อเป็นรูปเจดีย์หรือการเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุในโบราณสถานก็เป็นการกระทำที่ผิดกฎระเบียบที่กรมศิลปากรได้กำหนดไว้ว่าห้ามเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุในอุทยานประวัติศาสตร์ มิฉะนั้น จะถูกดำเนินคดี ซึ่งในส่วนนี้ก็จะเร่งทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษาที่มักกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งจะขอความร่วมมือไปยังไกด์นำเที่ยว ครู อาจารย์ให้ช่วยบอกกล่าวตักเตือน รวมทั้งขอความร่วมมือไปยังกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาหรือกรมการท่องเที่ยวที่ดูแลเรื่องเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ ที่ไกด์นำเที่ยวควรปฏิบัติ และยังจะมีการประสานกับตำรวจท่องเที่ยวอีกด้วย
ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์ฯ อยุธยา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องป้ายการแสดงเตือนที่ถูกเคลื่อนย้ายบ่อยๆ นั้น ก็เกิดจากการที่ไกด์ต้องการให้นักท่องเที่ยวที่ตนพามาได้ขึ้นไปถ่ายรูปเยี่ยมชมโบราณสถานข้างบน เช่น ที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งมีพระเจดีย์ใหญ่ 3 องค์มีส่วนของมณฑปที่มีบันไดขึ้นไป ซึ่งตรงส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่ห้ามขึ้นและได้มีการเอาป้ายไปตั้งไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังแล้ว แต่ก็ยังถูกเคลื่อนย้าย ซึ่งก็คิดไว้ว่าจะทำอย่างไรที่จะให้ป้ายเตือนเหล่านี้ติดอยู่กับที่เอาออก หรือเคลื่อนย้ายได้ยาก
