“ชินภัทร” ระบุ ปรับเรียนฟรี ปี 54 เน้นการมีส่วนร่วม ยืดหยุ่นบริหารจัดการศึกษา นักเรียนได้หนังสือเรียนฟรีทุกระดับ ผ่อนผันถัวเฉลี่ยเงินเหลือจากซื้ออุปกรณ์การเรียน ซื้อเครื่องแบบเพิ่มเติมจากที่ได้แจกฟรี
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้เตรียมความพร้อมในการกำหนดระเบียบวิธีและแนวทางการดำเนินการตามนโยบายเรียนดี เรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ โดยในปีการศึกษา 2554 โดยรายการเรียนฟรีฯ ยังคงประกอบด้วย 5 รายการ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียน และ กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน แต่การดำเนินการจะแตกต่างจากปีที่ผ่านมา โดยจะเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการบริหารและจัดการศึกษา ทั้งนี้ มาตรการและแนวทางดังกล่าวจะเสนอต่อ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เพื่อพิจารณาต่อไป ขณะเดียวกัน จะมีการนำเสนอข้อมูลการวิเคราะห์ตัวเลขเกี่ยวกับการลดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครองในแต่ละระดับชั้นด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปกครองเกิดความเข้าใจว่านโยบายเรียนฟรีฯ เป็นนโยบายที่ฟรีจริง
“จากข้อมูลการวิเคราะห์ดังกล่าว พบว่า นักเรียนทั่วไปชั้นอนุบาลถึง ม.6 ในภาคเรียนที่ 1/2554 จะช่วยประหยัดเงินตั้งแต่ 1,665-4,320 บาท ภาคเรียนที่ 2/2554 จะช่วยประหยัดเงินตั้งแต่ 1,665 - 2,605 บาท ส่วนนักเรียนยากจน ชั้น ป.1-6 ในภาคเรียนที่ 1/2554 จะช่วยประหยัดเงินตั้งแต่ 2,516-2,944 บาท ภาคเรียนที่ 2/2554 จะช่วยประหยัดเงินได้ 1,885 บาท และนักเรียนยากจน ชั้น ม.1-3 ในภาคเรียนที่ 1/2554 จะช่วยประหยัดเงินตั้งแต่ 4,560-5,193 บาท ภาคเรียนที่ 2/2554 จะช่วยประหยัดเงินได้ 3,900 บาท” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
นายชินภัทร กล่าวด้วยว่า สำหรับระเบียบวิธีการและแนวทางการดำเนินการใหม่นั้น ในส่วนของค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าหนังสือเรียนจะจัดสรรงบประมาณให้กับโรงเรียนเหมือนเดิม แต่การพิจารณาเลือกหนังสือเรียนจะเน้นการมีส่วนร่วมของภาคี 4 ฝ่าย และในปีการศึกษา 2554 จะยืดหยุ่นในการใช้งบเกี่ยวกับการจัดซื้อหนังสือเรียนเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ได้หนังสือเรียนที่เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง และในกรณีที่โรงเรียนมีงบในส่วนนี้เหลือก็สามารถจัดหาหนังสือเรียนเพิ่มเติมได้ด้วย นอกจากนี้ ในปี 2554 นักเรียนทุกคนทุกระดับชั้นจะได้รับหนังสือเรียนฟรีโดยไม่ต้องคืนด้วย ขณะเดียวกัน งบค่าหนังสือเรียนที่จัดสรรให้แก่โรงเรียนนั้น ก็สามารถนำไปดำเนินการจัดซื้อตามสภาพความเป็นจริงได้ โดยสามารถถัวเฉลี่ยระหว่างกลุ่มสาระวิชา และถัวเฉลี่ยระหว่างชั้นได้ แต่จะต้องอยู่ในกรอบวงเงินที่จัดสรรให้ไป
“จากการประเมินผลของการให้นักเรียนยืมหนังสือเรียน พบว่า มีอุปสรรคหลายประการ โดยนักเรียนจะไม่ชอบใช้หนังสือเก่า แม้จะมีการรณรงค์ให้รุ่นพี่ช่วยรักษาไม่ให้หนังสือชำรุดและเปรอะเปื้อนมากเกินไปแล้วก็ตาม อีกทั้งก็พบว่าบางสำนักพิมพ์ใช้กระดาษปรู๊ฟ จึงทำให้อมความชื้น และเก็บสะสมฝุ่นละอองมาก ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพของนักเรียน จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนนโยบายในการมอบหนังสือเรียนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของนักเรียนไปเลย ส่วนค่าอุปกรณ์การเรียนและเครื่องแบบนักเรียนนั้น จะจัดสรรเป็นเงินสดให้แก่ผู้ปกครองเหมือนเดิม แต่การบริหารจัดการจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยสามารถใช้เงิน 2 ส่วนนี้ถัวเฉลี่ยกันได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น หากนักเรียนคนใดมีอุปกรณ์การเรียนอยู่แล้วและไม่ต้องการซื้อ และต้องการนำเงินในส่วนนี้ไปจัดซื้อเครื่องแบบนักเรียนเพิ่มเติมจากที่ได้รับ ก็น่าจะมีการผ่อนผันให้ได้ เป็นต้น ขณะที่กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนนั้น ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของทางโรงเรียน” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว