ระยะหลังมานี้จะเห็นว่าบรรดาแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องปริ้นเตอร์ ต่างหันมาพัฒนาและสนใจเรื่องของ EcoPrint หรือระบบการพิมพ์รูปแบบใหม่ที่จะช่วยประหยัดค่าน้ำหมึกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างแบรนด์ เอชพี ที่ในครั้งนี้ได้คลอดออลอินวันเดสก์เจ็ตรุ่น ADVANTAGE 2060 ที่มาพร้อมจุดเด่นในเรื่องของราคาตัวเครื่องและตลับหมึกราคาประหยัด เหมาะแก่สภาวะเศรษฐกิจยุคนี้อย่างมาก
Design of HP Deskjet Ink Advantage 2060
HP Deskjet Ink Advantage 2060 เป็นออลอินวันเดสก์เจ็ตปริ้นเตอร์ รองรับการพิมพ์สี-ขาวดำ และเป็นสแกนเนอร์ในตัว โดยในส่วนของความเร็วในการพิมพ์เอกสาร สำหรับเอกสาร A4 ขาว-ดำ จะมีความเร็วอยู่ที่ 20 แผ่นต่อนาที ส่วนสีจะอยู่ที่ 16 แผ่นต่อนาที ที่ความละเอียดของงานพิมพ์สูงสุด 4,800x1,200 dpi ในส่วนของระบบสแกนเนอร์จะรองรับความละเอียดสูงสุดที่ 1,200x1,200 dpi 24 bit 600dpi และใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ HP Thermal Inkjet
ในส่วนของตลับหมึก ที่ถือเป็นไม้ตายสำคัญของรุ่นนี้ จะใช้รหัส No.703 (ดำ) และ No.704 (สี) ซึ่งตลับ No.704 จะเป็นลักษณะ Tri-Color ได้แก่ สีเหลือง ม่วงและฟ้า ซึ่งทั้ง 2 ตลับจะสามารถพิมพ์หน้าเอกสารได้ประมาณ 500-600 แผ่น โดยราคาของตลับหมึกต่อหน่วยจะอยู่เพียงแค่ 320 บาท เท่านั้น
สุดท้ายในส่วนของระบบป้อนกระดาษและถาดใส่กระดาษจะเป็นลักษณะดึงกระดาษจากบนลงล่าง (Sheetfed) โดยถาดรับกระดาษด้านบนจะรองรับกระดาษได้สูงสุด 60 แผ่น ส่วนช่องกระดาษออกด้านล่างจะรับกระดาษได้ 25 แผ่น บนขนาดกระดาษที่รองรับได้แก่ A4, B5, A5, A6 และซองจดหมาย
ซอฟท์แวร์และระบบปรับแต่งปริ้นเตอร์
สำหรับในส่วนของซอฟท์แวร์ที่แถมมาให้กับตัวออลอินวันเดสก์เจ็ต หน้าตาของซอฟท์แวร์ปรับแต่งหลักๆ จะคล้ายคลึงกับซอฟท์แวร์ที่แถมมาให้กับปริ้นเตอร์เอชพีทุกรุ่น เพียงแต่ในรุ่นดังกล่าว ออปชันปรับแต่งคุณภาพงานพิมพ์ต่างๆ จะมีมาให้ไม่มากนัก เนื่องจากเป็นปริ้นเตอร์รุ่นเล็กและระบบส่วนใหญ่ของ Advantage 2060 จะเน้นไปที่การตั้งค่าแบบอัตโนมัติเพื่อระบบจะได้สามารถใช้งาน EcoPrint ได้
ทดสอบประสิทธิภาพ
ในส่วนการทดสอบประสิทธิภาพ HP Deskjet Ink Advantage 2060 ด้วยการทดลองพิมพ์เอกสารขาวดำและรูปภาพสี โดยการทดสอบแรกตั้งระบบทุกอย่างเป็นอัตโนมัติทั้งหมด พบว่า คุณภาพอยู่ในเกณฑ์พอใช้ การพิมพ์เอกสารตัวอักษรขาว-ดำ พิมพ์ได้รวดเร็วและคมชัด ส่วนภาพถ่ายสี เม็ดสีที่แสดงออกมาอาจจะไม่สดใสและชัดเจนเหมือนเครื่องอิงก์เจ็ตที่ออกแบบมาพิมพ์รูปภาพโดยเฉพาะ แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้
ส่วนถ้าตั้งค่าความละเอียดให้สูงถึง 4,800x1,200 dpi งานพิมพ์ที่ได้จะคมชัดมากขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับความเร็วที่ตกลงไปพอสมควร
สำหรับในส่วนของระบบสแกนภาพ สำหรับทีมงานผู้จัดการไซเบอร์แล้ว ค่อนข้างพอใจกับระบบสแกนของ HP Deskjet Ink Advantage 2060 พอสมควร โดยเฉพาะสแกนโหมดขาว-ดำ ที่ความละเอียดสูงสุด สามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดีดังตัวอย่างที่ Photo Gallery ด้านล่าง
สรุป
ถึงแม้ว่า ออลอินวันเดสก์เจ็ตปริ้นเตอร์ HP Deskjet Ink Advantage 2060 จะเป็นเครื่องพิมพ์รุ่นเล็ก แต่ถ้าพูดถึงประสิทธิภาพ การตอบโจทย์และเป้าหมายของเครื่องพิมพ์รุ่นนี้ ถือว่างานนี้เอชพีสอบผ่านในเรื่องของประสิทธิภาพเทียบกับราคาและความคุ้มค่า เพราะแน่นอนว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่งบจำกัดและต้องการเดสก์เจ็ตปริ้นเตอร์สักเครื่อง เรื่องของราคาหมึกถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้มักมองเป็นอันดับแรก ซึ่ง Advantage 2060 สามารถตอบโจทย์เรื่องดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นในเรื่องของระบบประหยัดพลังงานที่ตัวปริ้นเตอร์กินไฟสูงสุดเพียง 9 วัตต์ ในขณะที่โหมด Stand by จะอยู่ที่ประมาณ 2-2.5 วัตต์ ก็นับว่าเป็นข้อดีอีกหนึ่งข้อของปริ้นเตอร์รุ่นนี้ก็ไม่ผิดนัก
แต่ทั้งนี้ข้อสังเกตหลักๆ ของ HP Deskjet Ink Advantage 2060 คงตกไปอยู่ที่วัสดุที่ใช้ผลิตที่เป็นพลาสติกมันวาว ซึ่งเมื่อใช้งานนานๆ ผมเชื่อว่าทุกท่านจะต้องประสบปัญหาเรื่องรอยขีดข่วนหรือขนแมวเกิดขึ้นมากมายแน่นอน อีกทั้งในเรื่องของตัวปรับช่องใส่กระดาษด้านบนที่ค่อนข้างเปราะบาง ซึ่งถ้าผู้ใช้เป็นคนมือหนักดันตัวปรับขนาดกระดาษแรงๆ ตัวปรับขนาดกระดาษอาจได้รับความเสียหายได้
ราคาประมาณ 2,800 บาท
ราคาหมึก HP No.703-704 หน่วยละประมาณ 320 บาท
Company Related Links :
HP