สสพ.เผยประเทศไทยอยู่ในระดับต้นของเอเชียที่มีกฎหมายสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุดี แต่การบังคับใช้ยังไม่เข้มข้นเพียงพอ โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ด้าน “สวนดุสิตโพล” เผยคนพิการ-ผู้สูงอายุมีโรครุมทั้งเบาหวาน-ความดันสูง-หัวใจ
พญ.วัชรา ริ้วไพบูลย์ ผู้อำนวยการสถาบันสร้างเสริมสุขภาพคนพิการ (สสพ.) กล่าวถึงสถานการณ์ของคนพิการและผู้สูงอายุของประเทศไทยว่า ขณะนี้จำนวนคนพิการในประเทศไทยมีประมาณ 2 ล้านคนในขณะที่ผู้สูงอายุมีอยู่ประมาณ 8 ล้านคนที่สำคัญคนพิการส่วนใหญ่ร้อยละ 90 พิการเพราะมีความผิดปกติทางด้านร่างกายและมีโรคภัยไข้เจ็บร่วมอยู่ด้วยทำให้คนเหล่านี้ไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลยถึงร้อยละ 40 สถิติที่น่าสนใจสำหรับผู้สูงอายุในประเทศไทยพบว่า ขณะนี้การเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุหรือคนไทยมีอายุยืนมากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมาเพราะเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจึงจำเป็นต้องมีการวางแผนเพื่อดูแลแก้ไขปัญหาที่จะตามมาให้มากขึ้น
สำหรับปัญหาสำคัญของคนพิการและผู้สูงอายุในขณะนี้ ไม่ได้อยู่ที่การขาดนโยบายหรือกฎหมายไม่ดีเพียงพอเพราะเราเป็นประเทศที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของเอเชียที่ได้รับการยอมรับว่ามีมาตรการเชิงกฎหมายดีมาก แต่ปัญหาคือการบังคับใช้กฎหมายและการตัดสินใจในการบังคับใช้ยังไม่เข้มข้นเพียงพอโดยเฉพาะเรื่องการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เช่น ทางเท้า จุดเชื่อมต่อต่างๆ ยังได้รับความสนใจน้อยซึ่งเป็นเรื่องที่สถาบันและเครือข่ายต่างๆ จะต้องรณรงค์เรียกร้องกันต่อไป ส่วนปัญหาอื่นๆ เช่น โรคภัยไข้เจ็บของผู้สูงอายุและคนพิการก็เป็นสิ่งที่จะต้องรณรงค์ให้ดูแลกันมากเช่นกัน เพราะคนไทยไม่ค่อยตระหนักในเรื่องนี้
ด้านนายสุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานดำเนินการ “สวนดุสิตโพล” เปิดเผยผลการสำรวจสถานการณ์คนพิการและผู้สูงอายุไทยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ปัจจุบันในครอบครัวไทยมีคนพิการและผู้สูงอายุ อยู่ถึงร้อยละ 62.5 ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง แต่สิ่งที่ดีก็คือคนพิการและผู้สูงอายุร้อยละ 75.86 อาศัยอยู่กับคนในครอบครัว ที่เหลืออาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์คนชราของภาครัฐและเอกชน ในขณะที่ภาวะด้านโรคภัยไข้เจ็บพบว่าร้อยละ 21 เป็นโรคเบาหวาน ร้อยละ 20 เป็นโรคความดันโลหิตสูงและร้อยละ 15 เป็นโรคหัวใจ ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตของคนพิการและผู้สูงอายุคนไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 61.76 อยากให้ออกมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ