xs
xsm
sm
md
lg

ห่วงช้างเสี่ยงติดวัณโรคจากคน เศร้ารอวันตาย-ปล่อยป่าหวั่นแพร่สูญพันธุ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ช้างไทยเสี่ยงติดวัณโรคจากคน ติดแล้วตายอย่างเดียว หลังสำรวจพบควาญช้างสุรินทร์เป็นวัณโรคร้อยละ 10 อัตราสูงน่าห่วง หวั่นปล่อยช้างบ้านเข้าป่าไม่ตรวจโรคหากแพร่ระบาดอาจทำช้างสูญพันธุ์ สธ.เผยคนไทยเป็นวัณโรครายใหม่ราว 9 หมื่นรายต่อปี ติดลำดับ 1 ใน 22 ประเทศมีปัญหาวัณโรคร้ายแรง

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนวิจัยวัณโรคดื้อยา ศิริราชมูลนิธิในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า จากการเข้าร่วมโครงการ “ควาญช้างรุ่นใหม่ ใส่ใจสุขภาพช้าง” ขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งได้เข้าไปช่วยเหลือในการตรวจสุขภาพควาญช้างเพื่อหาเชื้อวัณโรค ซึ่งถือเป็นโรคสำคัญของคนที่สามารถติดต่อสู่ช้างได้ จากการเอ๊กซเรย์ปอดของควาญช้างในจังหวัดสุรินทร์ 140 คน พบรอยโรคที่ปอดจำนวน 13 หรือประมาณเกือบร้อยละ 10 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงกว่าปกติที่ไม่ควรสูงกว่าร้อยละ 1 จึงถือว่าสถานการณ์อยู่ในภาวะน่าเป็นห่วงในการถ่ายทอดเชื้อสู่ทั้งคน และสัตว์

นพ.มนูญ กล่าวต่อว่า หากช้างติดวัณโรคจะสามารถรักษาได้ยากกว่าคน เพราะไม่สามารถใช้ยากินได้ โดยช้างจะมีอาการไม่กินอาหาร ผอม ไอคล้ายๆคน และจะเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งในต่างประเทศจำเป็นต้องใช้วิธีการุณฆาตเพื่อให้สัตว์พ้นความทรมาน เมื่อช้างติดวัณโรคแล้วจะสามารถนำเชื้อไปติดในสัตว์ด้วยกันได้แต่ยังไม่เคยพบรายงานการติดเชื้อจากช้างกลับมาสู่คน ซึ่งที่ผ่านมาไทยไม่เคยมีการเก็บข้อมูลดังกล่าว แต่พบว่าในประเทศเนปาลมีช้างร้อยละ 15 ติดวัณโรคจากคน นอกจากนี้พบสัตว์บางชนิดที่สามารถติดวัณโรคจากคนได้ เช่น ยีราฟ สมเส็จ แรด เสือ เป็นต้น

“ประเทศไทยมีโครงการคืนช้างกลับป่า จึงจำเป็นต้องมีการตรวจและหาโรคในช้างอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดโรคของคนที่ติดสู่ช้างเลี้ยงไปแพร่ระบาดในช้างป่า ซึ่งจะทำให้ช้างไทยที่มีอยู่ 4 พันกว่าเชือกสูญพันธุ์ได้ ดังนั้น ก่อนจะนำช้างคืนสู่ธรรมชาติ ควรจะมีการตรวจโรคที่สำคัญก่อน สำหรับค่าใช้จ่ายในการตรวจเชื้อวัณโรคในช้างมีขั้นตอนยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรพิจารณาหาแนวทางการช่วยเหลืออย่างจริงจัง ทั้งคนและสัตว์เพราะสุขภาพของควาญช้าง ไม่ค่อยได้รับการดูแลเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ห่างไกล”นพ.มนูญ กล่าว

ด้านนพ.ยุทธิชัย เกษตรเจริญ ผู้อำนวยการสำนักวัณโรค กรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกหรือฮู(WHO)ประมาณการว่าคนไทยป่วยเป็นวัณโรครายใหม่ราว 9 หมื่นรายต่อปี ในจำนวนนี้ 4 หมื่นรายเป็นวัณโรคที่ตรวจพบเชื้อในเสมหะและอีก 5 หมื่นราย ตรวจไม่พบเชื้อแต่มีเชื้ออยู่ในร่างกายถือเป็นผู้ป่วยวัณโรคเช่นเดียวกัน ซึ่งรายงานตัวเลขผู้ป่วยวัณโรคในแต่ละปีที่เข้ามายังกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)มีจำนวน 5.8 หมื่นราย อีกราว 3 หมื่นรายน่าจะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลของโรงเรียนแพทย์ต่างๆ โดยไม่ได้รายงานมายังสธ. และส่วนหนึ่งไม่ได้รับการรักษาแต่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมทั่วไป

ทั้งนี้ ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 22 ของประเทศทั่วโลกที่มีปัญหาวัณโรครุนแรง โดยอยู่ในลำดับที่ 18 ขณะที่อินเดียพบมากเป็นอันดับ 1 มีผู้ป่วยกว่าล้านคน รองลงมาเป็นจีนและอินโดนีเซีย ส่วนประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มีรายงานผู้ป่วยโรคนี้มากเช่นกัน ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชาและพม่า

“จำนวนคนไทยที่ป่วยเป็นวัณโรคถือว่าสูง เป็นผลจากการที่โรคเอดส์ระบาดในประเทศไทย ทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อวัณโรคได้ง่ายเพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง รวมถึง การขาดวินัยในการรับประทานยา ผู้ป่วยมักรับประทานยาไม่ครบ 6 เดือนตามที่แพทย์กำหนด จึงไม่หายขาดจากโรค แต่สธ.มีระบบการกินยาต่อหน้า มีพยานรู้เห็น จึงช่วยให้ผู้ป่วยรับประทานยาและคนไทยเข้ารับการรักษามากขึ้น”นพ.ยุทธิชัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น