กลุ่มชุมชนท้องสนามหลวงทั้งหมอนวด คนเร่ร่อน ผู้ค้าหาบเร่กว่า 100 คนยกพลบุกศาลาว่าการกทม.เรียกร้องให้”สุขุมพันธุ์” เมตตาให้ใช้พื้นที่สนามหลวงหากินต่อโดยต่อรองขอให้ปรับปรุงพื้นที่ครั้งละครึ่งสนาม พร้อมขอมีส่วนร่วมในการปรับปรุงภูมิทัศน์
เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ได้มีกลุ่มตัวแทนคนชุมชนท้องสนามหลวงประกอบด้วยคนเร่ร่อน หมอนวด และผู้ค้าหาบเร่แผงลอยประมาณ 150 คน ได้มารวมตัวกันบริเวณประตูทางออกด้านข้างศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.)ฝั่งถนนศิริพงษ์ เพื่อยื่นหนังสือถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เพื่อขอให้กทม.อนุญาตให้ใช้พื้นที่สนามหลวงต่อไปได้โดยมีนายธงชัย ชัยพิจารณ์ เป็นแกนนำ ขณะที่กทม.ได้ส่งนายพูลพันธ์ ไกรเสริม ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ มาเป็นผู้รับเรื่อง
นายธงชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมากทม.ไม่เคยเรียกพวกตนเข้าไปพูดคุยเรื่องการปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวงและพื้นที่โดยรอบเลย ดังนั้นมาวันนี้จึงอยากเรียกร้องให้พวกตนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดระเบียบสนามหลวงซึ่งพวกตนยินดีให้ความร่วมมือในการจัดระเบียบทุกอย่าง จะช่วยกันรักษาความสะอาดในพื้นที่ทำการค้าขาย รวมทั้งขอให้กทม.ปรับปรุงสนามหลวงที่ละครึ่งสนามเพื่อที่ให้พวกตนสามารถใช้อีกครึ่งสนามเป็นที่พักอาศัยได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุยระหว่างกทม.และกลุ่มชุมชนท้องสนามหลวง ซึ่งใช้เวลาหารือประมาณ 20 นาที จากนั้นนายนายธงชัย ได้กล่าวกับผู้ร่วมชุมชนว่า ผู้ที่มารับเรื่องไม่มีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรได้ เนื่องจากอำนาจสูงสุดอยู่ที่ผู้ว่าฯกทม.ซึ่งกทม.ได้ชี้แจงว่าในวันที่ 1 มีนาคมนี้ กทม.จะส่งพื้นที่ให้ทหารช่างเข้ามาปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวงอย่างแน่นอนและเมื่อปรับปรุงเสร็จก็จะไม่ให้มีการทำการค้าในพื้นที่สนามหลวงและโดยรอบซึ่งพวกตนยินดีให้ปรับปรุง ทำความสะอาด ดูแลความปลอดภัยแต่ยกเว้นนโยบายที่จะให้พวกตนออกไปจากสนามหลวงเท่านั้น โดยภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์จะมีการประสานงานว่าจะมีการเจรจากับพวกตนเมื่อไหร่ หรือจะมีคำตอบด้านใดให้พวกตนได้บ้าง
ด้านนายพูลพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้กทม.ยังไม่ได้ลงพื้นที่จัดระเบียบและปรับภูมิทัศน์ เนื่องจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแจ้งว่าต้องการใช้พื้นที่สนามหลวงจัดงานสัปดาห์พระพุทธศาสนา ในวันมาฆบูชา วันที่ 28 ก.พ.2553 เพียงแต่ปิดกั้นทางเข้า-ออกสนามหลวงห้ามรถทุกชนิดเข้ามาจอดมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2553 เท่านั้น ส่วนการจัดพื้นที่ค้าขายให้กับผู้ค้า กทม.เตรียมพื้นที่ริมคลองหลอดช่วงจากสนามหลวง จนถึงปากคลองตลาด สามารถรองรับผู้ค้าได้ทั้งหมดกว่า 1,500 แผง โดยหลังจากกำหนดพื้นที่สำหรับทำการค้าแล้ว จะเปิดให้ลงทะเบียนผู้ค้าเพื่อจัดแผงค้าให้ โดยพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นการอนุญาติให้ขายชั่วคราวเท่านั้นจนกว่าการปรับปรุงสนามหลวงแล้วเสร็จ สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวจะมีการประสานกับสำนักงานตลาดกทม.จัดหาพื้นที่ทำการค้าในจุดอื่นให้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านมิตรไมตรี เขตดินแดง เมื่อเวลา 13.00 น. ด้วยว่า ได้มีการจัดเสวนาคนไร้บ้านเพื่อหามาตรการรองรับหลังจากที่กทม.เตรียมปิดพื้นที่สนามหลวงไม่ให้เป็นที่พักอาศัย ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้ โดยนายนที สรวารี นายกสมาคมสร้างสรรกิจกรรมอิสรชน เปิดเผยว่าในเวทีดังกล่าวได้ข้อสรุป 5 ประเด็น
ได้แก่ 1.กทม. ต้องเป็นแม่งานในการตั้งศูนย์คัดกรองผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะให้เข้าระบบดูแลของหน่วยงานรัฐ เนื่องจากกลุ่มคนดังกล่าวในสนามหลวงมีจำนวนมากและจำแนกได้เป็นหลายกลุ่ม อาทิ คนเร่ร่อนที่พิการทางสมอง เด็กเร่ร่อน ครอบครัว เป็นต้น
หากกทม.เร่งผลักดันกลุ่มคนไร้บ้านเข้าสู่ระบบดูแลของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เชื่อว่าสถานที่จะไม่สามารถรองรับได้เพียงพอ และระบบการดูแลของ พม. ปัจจุบันเน้นการดูแลให้มีคุณภาพ มากกว่าดูแลคนในปริมาณเยอะๆ เบื้องต้นบุคคลที่ไม่ได้รับเลือก กทม.ต้องหาอาคาร หรือพื้นที่เพื่อรองรับชั่วคราว ก่อนที่จะถูกคัดให้เข้าระบบดูแล
2. หน่วยงานรัฐต้องเข้าไปดูแลกลุ่มคนไร้บ้านที่พิการทางสมองอย่างเร่งด่วน 3. คณะทำงานของกทม.ต้องเน้นการทำงานที่คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของคนไร้บ้านให้มากขึ้น 4.การทำงานของภาครัฐต้องเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตมากกว่าการสังคมสงเคราะห์ และ 5.หน่วยงานรัฐต้องเร่งผลักดันพระราชบัญญัติคนไร้ที่พึ่งให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวตนจะยื่นให้กับนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม.ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ด้วย