เอเอฟพี - พื้นที่สี่เหลี่ยมในเมลเบิร์นที่มีเงาอพาร์ตเมนท์ทาบทับ ห่างไกลลิบลับจากสนามฟุตบอลดังของยุโรป ไม่ว่าจะเป็นในแง่ภูมิศาสตร์หรือเสน่ห์เย้ายวนของเกมฟุตบอล
กระนั้น ผู้เล่นในสนามแห่งนี้ที่แฝงตัวอยู่ในย่านฟิตซ์รอย แสดงให้เห็นถึงพลังและความกระตือรือร้นไม่ต่างไปจากนักฟุตบอลที่อยู่ห่างออกไปครึ่งโลกที่กำลังเตรียมตัวสำหรับพรีเมียร์ลีก และกัลโชเซรีอาฤดูกาลใหม่
ผู้เล่นเหล่านี้ที่ต้องต่อสู้กับปัญหา อาทิ โรคติดเหล้า อาการป่วยทางจิต และการติดยา กำลังเตรียมพร้อมสำหรับฟุตบอลโลกคนไร้บ้าน หรือโฮมเลสส์ เวิลด์คัพที่จะมีขึ้นในเมลเบิร์นเดือนธันวาคมนี้ และเป็นสนามสำหรับการฟาดแข้งระหว่างทีมฟุตบอลจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
ในการฝึกซ้อมประจำสัปดาห์ที่ฟิตซ์รอย จอร์จ ฮัลเคียส โค้ชบอลรูหนูหรือสตรีทซอกเกอร์ บอกว่าการแข่งขันประจำปีขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ นับจากจัดกันครั้งแรกที่ออสเตรเลียในปี 2003
ฮัลเคียสยังบอกอีกว่า การสวมรองเท้าผ้าใบลงสนามร่วมกับเพื่อนในทีมเป็นปฏิกิริยาทางสังคมแง่บวกอย่างแรกที่ผู้เล่นได้มีส่วนร่วมในรอบหลายๆ ปี และเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้คนเหล่านี้สามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นนอกสนามได้ดียิ่งขึ้น
“ฟุตบอลเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงชีวิตและช่วยเหลือพวกเขา” ฮัลเคียสที่นอกจากจะเป็นโค้ชฟุตบอลแล้ว ยังสวมหมวกอีกใบในหน้าที่นักจิตวิทยา สำทับ
“สำหรับหลายคน การมาที่นี่เป็นหนึ่งในความมั่นคงในชีวิต เป็นที่ที่พวกเขารู้สึกปลอดภัย พวกเขาสามารถมาที่นี่และรับความช่วยเหลือโดยที่ไม่ต้องมีใครมาวิพากษ์วิจารณ์หรือตัดสิน
“พวกเขาสร้างมิตรภาพกับผู้เล่นคนอื่นๆ ดูแลกันและกัน”
หนึ่งในผู้เล่นที่ใครๆ เรียกว่า ‘บุชชี’ บอกว่าการมีส่วนร่วมในเกมทำให้ชีวิตกลับมาอยู่กับร่องกับรอยอีกครั้ง หลังจากเร่ร่อนอยู่ตามถนนในเมืองแล้วเมืองเล่ามาหลายปี
“สิ่งสำคัญคือการได้รู้ว่าเรามีค่าเท่ากับคนอื่นๆ จากตอนกินนอนอยู่ตามถนน คนมักมองคุณเหมือนเศษขยะ แต่การมาอยู่ที่นี่เหมือนเราได้เปิดโลกกว้าง”
คณะกรรมการจัดการแข่งขันที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเอดินเบิร์ก สก็อตแลนด์ จะโยกย้ายสถานที่จัดการแข่งขันไปตามเมืองต่างๆ และจัดสรรเงินทุน สนาม และที่พักสำหรับนักกีฬา
การแข่งขันที่เมลเบิร์นในวันที่ 1-7 ธันวาคมดำเนินการโดยนิตยสารคนไร้บ้าน ‘เดอะ บิ๊ก อิชชู’ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐวิกตอเรียและภาคธุรกิจ
สนามแข่งจะรวมถึงเฟเดอเรชัน สแควร์ที่อยู่ใจกลางเมืองเมลเบิร์น ซึ่งจะมีการสร้างอัฒจรรย์ขนาดใหญ่ชั่วคราวรองรับผู้ชม 100,000 คนตลอดทั้งสัปดาห์ของการแข่งขัน
“การเปิดโอกาสให้ตัวแทนจากประเทศต่างๆ และผู้ชมมาร่วมเชียร์ในสนาม จะเป็นกำลังใจท่วมท้นให้นักเตะ” ฮัลเคียสบอก
กติกาของสตรีทซอกเกอร์ต่างจากฟุตบอลทั่วไปโดยสิ้นเชิง แต่ละทีมจะประกอบด้วยผู้เล่น 8 คนบนม้านั่งข้างสนาม และคัดลงสนามครั้งละ 4 คนเท่านั้น
การแข่งขันแบ่งออกเป็นสองช่วงๆ ละ 7 นาที หากผู้เล่นทำฟาล์วและได้ใบน้ำเงิน จะต้องออกไปนั่งข้างสนาม 2 นาที แต่ถ้าทำฟาล์วชนิดร้ายแรงจะได้ใบแดง
“นี่ไม่ใช่เรื่องของความสามารถ แต่เป็นการมีส่วนร่วม แม้เราพยายามเสริมสร้างทักษะให้นักเตะก็ตาม” ฮัลเคียสสำทับ
นักกีฬาบางคนที่เข้าร่วมการแข่งขันโฮมเลส เวิลด์คัพปี 2004 มีโอกาสได้ไปเล่นฟุตบอลกึ่งอาชีพ รวมถึงได้รับการรับรองความสามารถในการเป็นโค้ช
หนึ่งในนั้นคือสตีวี มาโลนีย์ ที่ได้ใบประกาศเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลหลังจากเข้าโปรแกรมสตรีทซอกเกอรูส์นาน 12 เดือน
มาโลนีย์เป็นอดีตจ็อกกี้ที่เคยมีรายได้งามและภายหลังเป็นแอลกอฮอลิซึม ตกงานและบ้านแตก ต้องพรากจากวิลเลียม ลูกชายที่ขณะนี้อายุสี่ขวบ
เขาเลิกเหล้าได้หลังจากร่วมทีมสตรีทซอกเกอร์ และต่อมาได้เป็นโค้ชฟุตบอลให้นักเรียน แต่ที่น่าชื่นใจคือมาโลนีย์มีโอกาสได้พบหน้าลูกชายอีกครั้ง
“ตอนนี้ผมไม่กินเหล้าแล้ว ผมมีภูมิคุ้มกันและได้ลูกชายกลับมาอยู่ในชีวิต
ฮัลเคียสยังเปิดรับผู้เล่นหญิง อาทิ ชารอน วัย 41 ปี ที่เคยมีปัญหาป่วยทางจิต
เธอยอมรับว่า แรกทีเดียวยังไม่แน่ใจกับทางเลือกนี้นัก แต่สุดท้ายเธอได้เป็นตัวแทนของออสเตรเลียในทัวร์นาเมนท์ปี 2006 ที่เคปทาวน์
“นั่นเป็นประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง ฉันไม่เคยไปเมืองนอกมาก่อน”
เช่นเดียวกัน บุชชีเป็นหนึ่งในทีมของออสเตรเลียที่ไปฟาดแข้งในเซาท์แอฟริกา และโคเปนเฮเก้นเมื่อปีที่แล้ว ที่ๆ เขาบอกว่าไม่มีวันไปถึงถ้าไม่ได้เข้าร่วมชิงถ้วยโฮมเลส เวิลด์คัพ
เมื่อถามว่าการเล่นฟุตบอลทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปอย่างไร บุชชีหยุดคิดนิดหนึ่งก่อนจะตอบพร้อมรอยยิ้มพราย “สัปดาห์หน้าผมจะมีที่อยู่ของตัวเอง นี่พอจะเป็นคำตอบสำหรับคำถามของคุณได้ไหม”
กระนั้น ผู้เล่นในสนามแห่งนี้ที่แฝงตัวอยู่ในย่านฟิตซ์รอย แสดงให้เห็นถึงพลังและความกระตือรือร้นไม่ต่างไปจากนักฟุตบอลที่อยู่ห่างออกไปครึ่งโลกที่กำลังเตรียมตัวสำหรับพรีเมียร์ลีก และกัลโชเซรีอาฤดูกาลใหม่
ผู้เล่นเหล่านี้ที่ต้องต่อสู้กับปัญหา อาทิ โรคติดเหล้า อาการป่วยทางจิต และการติดยา กำลังเตรียมพร้อมสำหรับฟุตบอลโลกคนไร้บ้าน หรือโฮมเลสส์ เวิลด์คัพที่จะมีขึ้นในเมลเบิร์นเดือนธันวาคมนี้ และเป็นสนามสำหรับการฟาดแข้งระหว่างทีมฟุตบอลจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
ในการฝึกซ้อมประจำสัปดาห์ที่ฟิตซ์รอย จอร์จ ฮัลเคียส โค้ชบอลรูหนูหรือสตรีทซอกเกอร์ บอกว่าการแข่งขันประจำปีขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ นับจากจัดกันครั้งแรกที่ออสเตรเลียในปี 2003
ฮัลเคียสยังบอกอีกว่า การสวมรองเท้าผ้าใบลงสนามร่วมกับเพื่อนในทีมเป็นปฏิกิริยาทางสังคมแง่บวกอย่างแรกที่ผู้เล่นได้มีส่วนร่วมในรอบหลายๆ ปี และเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้คนเหล่านี้สามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นนอกสนามได้ดียิ่งขึ้น
“ฟุตบอลเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงชีวิตและช่วยเหลือพวกเขา” ฮัลเคียสที่นอกจากจะเป็นโค้ชฟุตบอลแล้ว ยังสวมหมวกอีกใบในหน้าที่นักจิตวิทยา สำทับ
“สำหรับหลายคน การมาที่นี่เป็นหนึ่งในความมั่นคงในชีวิต เป็นที่ที่พวกเขารู้สึกปลอดภัย พวกเขาสามารถมาที่นี่และรับความช่วยเหลือโดยที่ไม่ต้องมีใครมาวิพากษ์วิจารณ์หรือตัดสิน
“พวกเขาสร้างมิตรภาพกับผู้เล่นคนอื่นๆ ดูแลกันและกัน”
หนึ่งในผู้เล่นที่ใครๆ เรียกว่า ‘บุชชี’ บอกว่าการมีส่วนร่วมในเกมทำให้ชีวิตกลับมาอยู่กับร่องกับรอยอีกครั้ง หลังจากเร่ร่อนอยู่ตามถนนในเมืองแล้วเมืองเล่ามาหลายปี
“สิ่งสำคัญคือการได้รู้ว่าเรามีค่าเท่ากับคนอื่นๆ จากตอนกินนอนอยู่ตามถนน คนมักมองคุณเหมือนเศษขยะ แต่การมาอยู่ที่นี่เหมือนเราได้เปิดโลกกว้าง”
คณะกรรมการจัดการแข่งขันที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเอดินเบิร์ก สก็อตแลนด์ จะโยกย้ายสถานที่จัดการแข่งขันไปตามเมืองต่างๆ และจัดสรรเงินทุน สนาม และที่พักสำหรับนักกีฬา
การแข่งขันที่เมลเบิร์นในวันที่ 1-7 ธันวาคมดำเนินการโดยนิตยสารคนไร้บ้าน ‘เดอะ บิ๊ก อิชชู’ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐวิกตอเรียและภาคธุรกิจ
สนามแข่งจะรวมถึงเฟเดอเรชัน สแควร์ที่อยู่ใจกลางเมืองเมลเบิร์น ซึ่งจะมีการสร้างอัฒจรรย์ขนาดใหญ่ชั่วคราวรองรับผู้ชม 100,000 คนตลอดทั้งสัปดาห์ของการแข่งขัน
“การเปิดโอกาสให้ตัวแทนจากประเทศต่างๆ และผู้ชมมาร่วมเชียร์ในสนาม จะเป็นกำลังใจท่วมท้นให้นักเตะ” ฮัลเคียสบอก
กติกาของสตรีทซอกเกอร์ต่างจากฟุตบอลทั่วไปโดยสิ้นเชิง แต่ละทีมจะประกอบด้วยผู้เล่น 8 คนบนม้านั่งข้างสนาม และคัดลงสนามครั้งละ 4 คนเท่านั้น
การแข่งขันแบ่งออกเป็นสองช่วงๆ ละ 7 นาที หากผู้เล่นทำฟาล์วและได้ใบน้ำเงิน จะต้องออกไปนั่งข้างสนาม 2 นาที แต่ถ้าทำฟาล์วชนิดร้ายแรงจะได้ใบแดง
“นี่ไม่ใช่เรื่องของความสามารถ แต่เป็นการมีส่วนร่วม แม้เราพยายามเสริมสร้างทักษะให้นักเตะก็ตาม” ฮัลเคียสสำทับ
นักกีฬาบางคนที่เข้าร่วมการแข่งขันโฮมเลส เวิลด์คัพปี 2004 มีโอกาสได้ไปเล่นฟุตบอลกึ่งอาชีพ รวมถึงได้รับการรับรองความสามารถในการเป็นโค้ช
หนึ่งในนั้นคือสตีวี มาโลนีย์ ที่ได้ใบประกาศเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลหลังจากเข้าโปรแกรมสตรีทซอกเกอรูส์นาน 12 เดือน
มาโลนีย์เป็นอดีตจ็อกกี้ที่เคยมีรายได้งามและภายหลังเป็นแอลกอฮอลิซึม ตกงานและบ้านแตก ต้องพรากจากวิลเลียม ลูกชายที่ขณะนี้อายุสี่ขวบ
เขาเลิกเหล้าได้หลังจากร่วมทีมสตรีทซอกเกอร์ และต่อมาได้เป็นโค้ชฟุตบอลให้นักเรียน แต่ที่น่าชื่นใจคือมาโลนีย์มีโอกาสได้พบหน้าลูกชายอีกครั้ง
“ตอนนี้ผมไม่กินเหล้าแล้ว ผมมีภูมิคุ้มกันและได้ลูกชายกลับมาอยู่ในชีวิต
ฮัลเคียสยังเปิดรับผู้เล่นหญิง อาทิ ชารอน วัย 41 ปี ที่เคยมีปัญหาป่วยทางจิต
เธอยอมรับว่า แรกทีเดียวยังไม่แน่ใจกับทางเลือกนี้นัก แต่สุดท้ายเธอได้เป็นตัวแทนของออสเตรเลียในทัวร์นาเมนท์ปี 2006 ที่เคปทาวน์
“นั่นเป็นประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง ฉันไม่เคยไปเมืองนอกมาก่อน”
เช่นเดียวกัน บุชชีเป็นหนึ่งในทีมของออสเตรเลียที่ไปฟาดแข้งในเซาท์แอฟริกา และโคเปนเฮเก้นเมื่อปีที่แล้ว ที่ๆ เขาบอกว่าไม่มีวันไปถึงถ้าไม่ได้เข้าร่วมชิงถ้วยโฮมเลส เวิลด์คัพ
เมื่อถามว่าการเล่นฟุตบอลทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปอย่างไร บุชชีหยุดคิดนิดหนึ่งก่อนจะตอบพร้อมรอยยิ้มพราย “สัปดาห์หน้าผมจะมีที่อยู่ของตัวเอง นี่พอจะเป็นคำตอบสำหรับคำถามของคุณได้ไหม”