“ธีระชน” ตรวจสถานที่กักโรคนกพิราบและที่พักชั่วคราวสำหรับคนเร่ร่อนย่านลาดพร้าว 101 เล็งจับนกล็อตแรก 15 ก.พ.นี้ ส่วนคนให้อยู่เต็นท์ชั่วคราวก่อนสร้างที่อยู่ถาวรให้ย่านสายไหม
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่บริเวณมนตรีสตูดิโอ ซ.ลาดพร้าว 101 นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตรวจสถานที่สำหรับนำนกพิราบไปกักโรคหลังจากที่กทม.ได้ดำเนินการปิดสนามหลวงเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ พร้อมกล่าวว่า กรงนกที่จะใช้เป็นกรงขนาดใหญ่สำหรับเลี้ยงนกพิราบแข่งขันของนายเนติ ตันติมนตรี นายกสมาคมมิตรภาพกีฬาแข่งนกแห่งประเทศไทย ซึ่งกรงนกดังกล่าวเป็นพื้นที่ปิดมีการจัดการสาธารณสุขอย่างดี สามารถรองรับนกพิราบจากสนามหลวงได้กว่า 2,000 ตัว เพื่อนำมากำจัดไร พยาธิ และตรวจหาพร้อมกำจัดเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะเชื้อไข้หวัดนก เมื่อนำนกมาตรวจแล้วจะให้กรมปศุสัตว์ตรวจสอบอีกครั้ง หากไม่มีโรคแล้วจะนำไปเลี้ยงต่อยังปลายทางที่กำหนด ซึ่งจะเป็นสถานที่ใดนั้นจะมีการหารือกันในคราวประชุมคณะกรรมการปรับภูมิทัศน์พื้นที่สนามหลวงก่อน
นายธีระชนกล่าวด้วยว่า ด้านกระบวนการจับนกพิราบที่สนามหลวงนั้น จากการปิดกั้นพื้นที่บริเวณกลางสนามหลวงแล้วทำกรงขนาดใหญ่เพื่อล่อจับนั้น นับถึงวันนี้นกพิราบมีความคุ้นเคยและพร้อมที่จะจับแล้ว ซึ่งในระหว่างจับเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่าเป็นพ่อแม่ของลูกนกหรือไม่ หากเป็นพ่อแม่นกที่กำลังให้อาหารจะมีคราบอาหารติดปาก และปากจะช้ำก็จะปล่อยให้ไปเลี้ยงลูกก่อน จนกว่าลูกจะแข็งแรงสามารถบินได้ค่อยจับในคราวต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจับได้วันที่ 15 ก.พ.นี้
ส่วนการหาพื้นที่ให้คนเร่ร่อนอาศัยนั้น นายธีระชนกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายเนติยังมอบที่ดินบริเวณซอยลาดพร้าว 101 จำนวน 5 ไร่ ให้กทม. เพื่อจัดทำโครงการให้คนเร่ร่อนได้พักอาศัยดังกล่าวซึ่งหาก กทม. เลือกที่ดินนี้ก็จะมีการกั้นรั้วแยกออกจากที่ดินผืนอื่นเพื่อป้องกันผลกระทบกับประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง โดยจะกั้นด้วยกำแพงสามารถเข้า-ออกได้ทางเดียว ส่วนพื้นจะปูด้วยแอสฟัลต์เป็นลานคล้ายสนามหลวง และมีห้องสุขา ห้องอาบน้ำ โรงทาน พร้อมระบบประปา ไฟฟ้าแสงสว่าง ซึ่งหากปรับพื้นที่แล้วจะมีเต็นท์ชั่วคราวสำหรับเป็นที่พักนอน และเป็นที่รับลงทะเบียนสำหรับคนเร่ร่อนที่ประสงค์จะเข้าพัก หากมีความประสงค์จะใช้หลักฐานทางทะเบียนราษฎรจะจัดหาทะเบียนบ้านให้ และจัดให้ฝึกอาชีพ จัดหาอาชีพ พร้อมกับให้มีแหล่งรับซื้อขยะรีไซเคิลเพื่อเป็นแหล่งรายได้ ทั้งนี้ เหตุผลที่ไม่ก่อสร้างอาคารถาวรได้นั้น เนื่องจากระเบียบราชการของ กทม.จะเกิดปัญหาเรื่องการนำทรัพย์สินถาวรปลูกสร้างในที่เอกชน จึงต้องเป็นเต็นท์ชั่วคราวเท่านั้น
นายธีระชน กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือในระยะยาว กทม. จัดเตรียมพื้นที่สำหรับก่อสร้างอาคารถาวร 3 ชั้น บริเวณเขตสายไหม พื้นที่ขนาด 2 ไร่ ซึ่งจะดำเนินการเช่นเดียวกับสถานแรกรับ หรือศูนย์คนไร้บ้าน โดยมีที่นอนเป็นสัดส่วน ห้องสุขา ห้องอาบน้ำ และศูนย์รับซื้อขยะรีไซเคิล การเดินทางสะดวก มีรถโดยสารผ่าน หากนำคนเร่ร่อนไปอยู่แล้วจะประสานให้มีการฝึกอาชีพ ส่งเสริมอาชีพเก็บขยะรีไซเคิล และพัฒนาคุณภาพชีวิตไม่ให้กลับมาเร่ร่อนอีก
โดย นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แจ้งว่า ยินดีให้ความช่วยเหลือ กทม.ในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ กทม. ชจะนำรายละเอียดทั้งหมดนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สนามหลวงในวันที่ 15 ก.พ.นี้
