“องคมนตรี” ฝากนักวิจัยร่วมหาทางรักษาวัฒนธรรมไทยซึ่งหมายถึงการรักษาชาติ และสิ่งที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ไว้ให้อยู่ยั่งยืน
คณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาปรัชญา สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จัดสัมมนาวิชาการ เรื่อง “กะเทาะเปลือกวัฒนธรรม : การปรับเปลี่ยนท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์” เพื่อระดมความเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ทางวัฒนธรรม ในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่ยังคงอยู่ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ นวัตกรรมทางวัฒนธรรมที่เกิดจากการผสมผสานเชิงบูรณาการ และการนำเข้าองค์ประกอบทางวัฒนธรรมที่แต่เดิมก็ไม่มีแต่เป็นสิ่งใหม่ โดยมี พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดการสัมมนา
พล.อ.อ.กำธน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาอันยาวนานในประวัติศาสตร์ของชาติ มีทุนทางวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง สืบเนื่องมาจากบรรพบุรุษของไทย มีอัจฉริยภาพและปรีชาสามารถในการสร้างสรรค์ด้านศิลปวัฒนธรรมต่างๆ อย่างสูง แต่ในยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีผลต่อวัฒนธรรมของไทย ปรับเปลี่ยนไปจนบางกรณีถึงจุดที่เกิดความเสื่อม หรือเกือบจะสูญหาย ซึ่งนับว่าเป็นเครื่องหมายสำคัญของความเป็นชาติ การรักษาวัฒนธรรมก็คือการรักษาชาติ การที่คณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาปรัชญา ได้ร่วมจัดการสัมมนาในครั้งนี้เชื่อว่าเป็นโอกาสดีที่นักวิชาการจะได้ร่วมกันพิจารณาปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรม และนำความรู้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการสัมมนาไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาวิจัย รวมทั้งจัดการด้านวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษของไทยได้อุตสาหะสร้างสรรค์ไว้ให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน
จากนั้นมีการบรรยายในหัวข้อต่างๆ อาทิ เรื่อง สังสารวัฏแห่งวัฒนธรรมไทย โดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช จากสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม กล่าวบรรยาย โดยสรุปว่า เรื่องวัฒนธรรมไม่ควรปล่อยให้เปลี่ยนแปลงแบบล่องลอย เลื่อนลอยตามบุญตามกรรม แต่ควรดูแล หาวิธีส่งเสริมด้านบวก ลดด้านลบ ซึ่งวิธีเชิงบวกเรียกว่าเอาเป้าหมายเชิงคุณค่ามาร่วมกันตีความ ลงมือทำและเอาความสำเร็จมาชื่นชม ซึ่งการวิจัยและพัฒนาสาขาปรัชญา มนุษยศาสตร์ จะสามารถเชื่อมโยงกับชีวิตมนุษย์ในปัจจุบันและขับเคลื่อนให้ไปในทางดี รวมทั้งลดกระแสหรือแรงขับเคลื่อนที่ดีเฉพาะส่วน แต่ไม่ดีในภาพรวมลงไปได้ จากนั้นเป็นหัวข้อ วัฒนธรรมสุขภาพไทย กินแบบไหนเล่นแบบไหนไทยหรือฝรั่ง โดย รศ.ดร.เอมอร วสันตวิสุทธิ์ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และนายสมบัติ ครุภัณฑ์ สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการซึ่งสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมการกินของคนไทยที่เปลี่ยนไปอาหารยอดนิยมของคนไทยคือของทอด ของมัน ขณะที่ชาวตะวันตกที่เป็นต้นตำรับอาหารเหล่านั้น กลับแสวงหาการรับประทานของธรรมชาติ เพื่อสุขภาพ สำหรับการสัมมนาครั้งนี้จะจัดต่อเนื่อง 2 วัน คือวันนี้และวันพรุ่งนี้ และจะมีการสรุปผลการสัมมนาอย่างเป็นทางการ
คณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาปรัชญา สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จัดสัมมนาวิชาการ เรื่อง “กะเทาะเปลือกวัฒนธรรม : การปรับเปลี่ยนท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์” เพื่อระดมความเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ทางวัฒนธรรม ในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่ยังคงอยู่ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ นวัตกรรมทางวัฒนธรรมที่เกิดจากการผสมผสานเชิงบูรณาการ และการนำเข้าองค์ประกอบทางวัฒนธรรมที่แต่เดิมก็ไม่มีแต่เป็นสิ่งใหม่ โดยมี พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดการสัมมนา
พล.อ.อ.กำธน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาอันยาวนานในประวัติศาสตร์ของชาติ มีทุนทางวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง สืบเนื่องมาจากบรรพบุรุษของไทย มีอัจฉริยภาพและปรีชาสามารถในการสร้างสรรค์ด้านศิลปวัฒนธรรมต่างๆ อย่างสูง แต่ในยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีผลต่อวัฒนธรรมของไทย ปรับเปลี่ยนไปจนบางกรณีถึงจุดที่เกิดความเสื่อม หรือเกือบจะสูญหาย ซึ่งนับว่าเป็นเครื่องหมายสำคัญของความเป็นชาติ การรักษาวัฒนธรรมก็คือการรักษาชาติ การที่คณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาปรัชญา ได้ร่วมจัดการสัมมนาในครั้งนี้เชื่อว่าเป็นโอกาสดีที่นักวิชาการจะได้ร่วมกันพิจารณาปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรม และนำความรู้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการสัมมนาไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาวิจัย รวมทั้งจัดการด้านวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษของไทยได้อุตสาหะสร้างสรรค์ไว้ให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน
จากนั้นมีการบรรยายในหัวข้อต่างๆ อาทิ เรื่อง สังสารวัฏแห่งวัฒนธรรมไทย โดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช จากสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม กล่าวบรรยาย โดยสรุปว่า เรื่องวัฒนธรรมไม่ควรปล่อยให้เปลี่ยนแปลงแบบล่องลอย เลื่อนลอยตามบุญตามกรรม แต่ควรดูแล หาวิธีส่งเสริมด้านบวก ลดด้านลบ ซึ่งวิธีเชิงบวกเรียกว่าเอาเป้าหมายเชิงคุณค่ามาร่วมกันตีความ ลงมือทำและเอาความสำเร็จมาชื่นชม ซึ่งการวิจัยและพัฒนาสาขาปรัชญา มนุษยศาสตร์ จะสามารถเชื่อมโยงกับชีวิตมนุษย์ในปัจจุบันและขับเคลื่อนให้ไปในทางดี รวมทั้งลดกระแสหรือแรงขับเคลื่อนที่ดีเฉพาะส่วน แต่ไม่ดีในภาพรวมลงไปได้ จากนั้นเป็นหัวข้อ วัฒนธรรมสุขภาพไทย กินแบบไหนเล่นแบบไหนไทยหรือฝรั่ง โดย รศ.ดร.เอมอร วสันตวิสุทธิ์ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และนายสมบัติ ครุภัณฑ์ สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการซึ่งสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมการกินของคนไทยที่เปลี่ยนไปอาหารยอดนิยมของคนไทยคือของทอด ของมัน ขณะที่ชาวตะวันตกที่เป็นต้นตำรับอาหารเหล่านั้น กลับแสวงหาการรับประทานของธรรมชาติ เพื่อสุขภาพ สำหรับการสัมมนาครั้งนี้จะจัดต่อเนื่อง 2 วัน คือวันนี้และวันพรุ่งนี้ และจะมีการสรุปผลการสัมมนาอย่างเป็นทางการ