"จุรินทร์" เห็นชอบนโยบายรับนักเรียน เพียงปรับการรับเด็ก ม.4 ให้โรงเรียนทุกแห่งที่เปิด ม.ปลายรับเด็กเต็มที่นั่ง ด้วยใช้วิธีเรียงคะแนน ระบุวิธีนี้จะกระตุ้นให้เด็กตั้งใจเรียน
วันนี้ (6 ม.ค.) เวลา 10.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ตนเห็นชอบร่าง ประกาศ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เรื่องนโยบายและแนวปฏิบัติรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2553 ที่เสนอมา แล้วจะส่งกลับไปให้นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขา กพฐ.) ลงนามในประกาศการรับนักเรียนอย่างเป็นทางการต่อไป
ส่วนนโยบายการรับนักเรียนปี 2553 ในระดับก่อนประถม, ป.1 และม. 1 ยังใช้เกณฑ์เดิมกับปีการศึกษา 2552 คือ ในระดับก่อนประถมศึกษา และ ป. 1 ให้โรงเรียนรับเด็กในพื้นที่บริการที่สมัครเข้าเรียน โดยไม่มีการสอบวัดความสามารถทางวิชาการ หากเด็กเกินจำนวนที่นั่งให้ใช้วิธีจับฉลาก ส่วนม. 1 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มโรงเรียนทั่วไป จำนวน 9,170 โรง ให้โรงเรียนรับนักเรียนเขตพื้นที่บริการที่มาสมัครเรียนทุกคน หากยังมีที่นั่งว่า ให้เปิดรับเด็กนอกเขตพื้นที่บริการได้ หากโรงเรียนแห่งไหนมีเด็กมาสมัครเกินให้ใช้วิธีการจับฉลาก สำหรับกลุ่มโรงเรียนยอดนิยม จำนวน 369 โรงนั้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดย 50% รับนักเรียนเขตพื้นที่บริการ ถ้ามีที่นั่งเหลือให้มีการจับฉลากได้ ส่วนที่เหลืออีก 50% เป็นการสอบคัดเลือกนักเรียนที่มาสมัครเรียนจากนอกพื้นที่
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนแนวทางการรับเด็ก ม. 4 จะมีการเปลี่ยนแปลงโดยให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งที่เปิดสอน ม.1-ม.6 เลื่อนชั้นเรียนเต็มจำนวนตามที่ประกาศรับ โดยให้โรงเรียนใช้วิธีคัดเลือกนักเรียนโดยพิจารณาจากผลการเรียนเด็กไล่ตามลำดับจนกว่าจะครบ ส่วนกรณีโรงเรียนที่เปิดห้องเรียนพิเศษจะมีระบบการคัดเลือกที่โรงเรียนกำหนดไว้
“การรับเด็ก ม.4 ปีจะต่างจากเดิมปีที่ผ่านมา เดิมโรงเรียนใช้วิธีกำหนดเกรดเพื่อคัดเด็กทิ้ง โดยให้เหตุผลว่าเด็กทำเกรดไม่ถึงที่กำหนด การทำลักษณะนี้ไม่เป็นธรรมแก่เด็ก โรงเรียนควรมีส่วนร่วมรับผิดชอบเช่นกันเพราะเป็นผู้สอนให้ความรู้เด็ก สำหรับปีนี้จะเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนได้เรียน โดยใช้วิธีการเรียงลำดับคะแนนจะกระตุ้นให้นักเรียนนั้นมีความกระตือรือร้น ตั้งใจเรียนตั้งแต่มัธยมต้นเพิ่มขึ้น ส่วนโรงเรียนที่มีที่นั่งม.ปลายไม่พอกับจำนวนเด็ก ๆ ส่วนที่เหลืออาจจะเรียนต่อในสายอาชีพได้ ทั้งนี้ สพฐ.จะนำข้อมูลการรับนักเรียนปีการศึกษา 2553 ขึ้นเว็บไซต์ www.obec.go.th ”นายจุรินทร์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การให้โรงเรียนรับนักเรียนม.3 ทุกคนจะสวนทางกับนโยบายที่ต้องการส่งเสริมให้นักเรียนเรียนสายอาชีพหรือไม่ นายจุรินทร์ ตอบว่า ไม่สวนทางแน่นอน ตนยังยืนยันเรื่องการส่งเสริมการเรียนในสายอาชีพ การพัฒนาเข้าสู่วิชาชีพชั้นสูง ขณะเดียวกันอาชีวะและ สพฐ.ก็ได้มีการลงนามร่วมกันเปิดสอนสามัญควบคู่การเรียนสายอาชีพ เมื่อเด็กเรียนจบแล้วจะได้ประกาศนียบัตร 2 ใบทั้งสายสามัญและวิชาชีพ อีกทั้งเมื่อสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เปิดสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพก็จะเป็นแรงจูงใจอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้เด็กที่ต้องการเรียนสายอาชีพมาเรียนและยังได้วุฒิปริญญาตรีด้วย ส่วนใหญ่แล้วนักเรียนของ สพฐ.ในโรงเรียนทั่วไป 9,170 โรงมีค่านิยมเรียนต่อสายอาชีพอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่เป็นปัญหาแน่นอน
ปฏิทินรับนักเรียน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขา กพฐ.) ได้ลงนามในประกาศ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่องนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2553 ลงวันที่ 6 ม.ค. 2553 ขณะเดียวกันประกาศแจ้งรายละเอียดวันและเวลาการรับนักเรียนของโรงเรียนทั่วประเทศ ดังนี้ ระดับชั้นก่อนประถมศึกษา รับสมัครวันที่ 30 ม.ค.- 1 ก.พ. จับฉลาก ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 7 ก.พ. มอบตัววันที่ 14 ก.พ. ,ชั้นป. 1 ประกาศชื่อโรงเรียนที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจัดส่งเด็กเข้าเรียนในวันที่ 1 ก.พ. รับสมัคร 6-10 ก.พ. จับฉลาก ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 14 ก.พ. มอบตัว วันที่ 21 ก.พ. ระดับชั้นม.1 ประกาศผลการจัดสรรที่เรียนวันที่ 10 มี.ค. จำแนกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1.นักเรียนในเขตพื้นที่บริการ แบ่งเป็น โรงเรียนจัดสอบคัดเลือก (ถ้ามี) รับสมัครวันที่ 13-17 มี.ค. สอบคัดเลือก วันที่ 20 มี.ค. ประกาศผลและรายงานตัว 23 มี.ค. มอบตัว วันที่ 3 เม.ย. และโรงเรียนจับฉลาก รับสมัคร 13-17 มี.ค. จับฉลาก ประกาศผลและรายงานตัว 28 มี.ค. มอบตัววันที่ 3 เม.ย.สำหรับนักเรียนทั่วไปที่ใช้คะแนนทดสอบความพร้อมพื้นฐานทางการเรียนหรือผลการประเมินผู้เรียนด้วยวิธีอื่น ๆ ตามที่โรงเรียนกำหนด รับสมัครวันที่ 13-17 มี.ค. สอบคัดเลือก 20 มี.ค. ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 23 มี.ค. มอบตัว วันที่ 3 เม.ย.ส่วนนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) รับสมัคร วันที่ 13-14 มี.ค. คัดเลือก 15 มี.ค. ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 16 มี.ค. มอบตัว 3 เม.ย. และนักเรียนที่มีความประสงค์จะให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาและ สพท.จัดหาที่เรียนให้รอบสอง รับสมัคร วันที่ 4-5 เม.ย. ประกาศผลวันที่ 8 เม.ย. รายงานตัว วันที่ 9 เม.ย. ประกาศการจัดหาที่เรียนให้นักเรียนเขตพื้นที่การศึกษาทุกคน (อีกครั้ง)ในวันที่ 16 พ.ค. ที่ สพท. ระดับชั้นม. 4 โรงเรียนที่เปิดสอนทั้งระดับม.ต้นและม.ปลาย นักเรียนที่จบชั้นม. 3 เดิม การรับสมัครและประกาศผลให้เป็นไปตามกำหนดของโรงเรียน รายงานตัววันที่ 28 มี.ค. มอบตัว วันที่ 4 เม.ย. โรงเรียนที่เปิดสอนเฉพาะระดับม.ปลาย แบ่งเป็น 1.นักเรียนสอบคัดเลือก รับสมัคร (นักเรียนที่มีความประสงค์สมัครเข้าเรียน) วันที่ 13-17 มี.ค. สอบคัดเลือก (แบบทดสอบวัดความสามารถทางวิชาการของโรงเรียน) วันที่ 21 มี.ค. ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 24 มี.ค. มอบตัว 4 เม.ย.,2. นักเรียนความสามารถพิเศษ รับสมัคร 13-14 มี.ค. คัดเลือก วันที่ 15 มี.ค. ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 16 มี.ค. มอบตัววันที่ 4 เม.ย. โรงเรียนที่มีลักษณะพิเศษ แบ่งเป็น โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับเด็กพิการ รับสมัคร วันที่ 13 มี.ค.- 30 เม.ย. ประกาศผล วันที่ 1 พ.ค. รายงานตัว ภายในวันที่ 9 พ.ค. ,โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส รับสมัคร วันที่ 13-22 ก.พ. คัดเลือก 23-27 ก.พ. ประกาศผล 28 ก.พ. รายงานตัว ภายใน 14 มี.ค., โรงเรียนที่จัดการศึกษาด้วยวัตถุประสงค์พิเศษ รับสมัคร วันที่ 13-17 ก.พ. สอบคัดเลือก ชั้น ป.5 และชั้น ม.1 วันที่ 27 ก.พ. ชั้นม.4 วันที่ 28 ก.พ. ประกาศผล วันที่ 3 มี.ค. รายงานตัว วันที่ 5 มี.ค. โรงเรียนที่จัดห้องเรียนพิเศษ (ห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ ระดับม.ปลาย ตามโครงการเสริมสร้างศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม และห้องเรียนพิเศษอื่น ๆ) รับสมัคร ชั้นก่อนประถมศึกษา และชั้น ป.1 วันที่ 23-27 ม.ค. สอบคัดเลือก วันที่ 31 ม.ค. ประกาศผล 7 ก.พ. รายงานตัวภายในวันที่ 9 ก.พ. ชั้นม.1 และม.4 รับสมัคร วันที่ 13-17 ก.พ. สอบคัดเลือก ม.1 วันที่ 27 ก.พ. ม. 4 วันที่ 28 ก.พ. ประกาศผล วันที่ 3 มี.ค. รายงานตัวภายในวันที่ 5 มี.ค. |
