xs
xsm
sm
md
lg

กกต.รื้อโผงานด้านสืบสวน แฉอนุฯ ชุดจับฉลาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กกต.แจงการใช้งบประมาณปี 52 วอนอย่าร้องเรียนไร้สาระ เปลืองงบประมาณ แฉอนุกรรมการชุดจับฉลากกระทบงาน รื้อโผงานสืบสวนและการมีส่วนร่วม

วันนี้ (3 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงต้นปี 2553 นี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงในด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย โดยจะเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งรองเลขาธิการ ซึ่งเดิมตำแหน่งนี้เป็นของ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา ซึ่งจะถูกเลื่อนขึ้นไปเป็นผู้ชำนาญการ ซึ่งในขณะนี้มีผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อสองคน คือ พ.ต.อ.ผดุงศักดิ์ อุเบกขานนท์ ซึ่งเสนอโดยนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย และนายภูมิพิทักษ์ กองแก้ว ซึ่งเสนอชื่อโดยนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม อย่างไรก็ตาม การคัดเลือกนั้น กกต.ทั้ง 5 คนจะต้องลงมติอีกครั้งว่าจะเลือกใคร

รายงานข่าวจาก กกต.แจ้งว่า ปี 2552 ที่ผ่านมานั้นมีการสรุปค่าใช้จ่ายในการสืบสวนสอบสวนของคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน โดยคณะอนุฯ ที่ใช้จ่ายมากที่สุด คือ ชุดที่พิจารณาคดีเงินบริจาค 258 ล้านของพรรคประชาธิปัตย์ ซี่งใช้เงินไปกว่า 4 แสนบาท ส่วนรองลงมาคือ คณะอนุกรรมการชุดที่สืบสวนกรณีความขัดแย้งของพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งใช้เงินไปกว่า 2 แสนบาท ทั้งนี้ ในการประชุมแต่ละครั้งนั้น ประธานอนุกรรมการจะได้เบี้ยประชุม 2,000 บาทต่อครั้ง ขณะที่อนุกรรมการจะได้เบี้ยประชุม 1,800 บาทต่อครั้ง

ทั้งนี้ กกต.บางคนมองว่าการที่มีผู้มาร้องแบบพร่ำเพรื่อนั้น เป็นการทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ ดังนั้นหากใครจะมาร้องก็ควรมีหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้เป็นการสิ้นเปลืองภาษีของประชาชน ทั้งนี้ กกต.เองก็มีการปรับปรุงรูปแบบการทำงานเพื่อให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีการเพิ่มอนุกรรมการจาก เดิม 13 คณะ เป็น 20 คณะ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็มี กกต.บางคนไม่พอใจ

เนื่องจากเมื่อ กกต.แต่ละคนเสนอรายชื่ออนุกรรมการมาแล้ว แทนที่จะคัดเลือกอนุกรรมการแต่ละคน ตามความสามารถและความเชี่ยวชาญ แต่กลับใช้วิธีการจับสลากว่าใครควรจะอยู่ในชุดใด ทำให้บางคณะมีคนเก่งไปรวมตัวกันอยู่ แต่บางคณะนั้นกลับไม่เชี่ยวชาญเท่าที่ควร ซึ่งอาจจะทำให้การสืบสวนสอบสวนมีจุดอ่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น