xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ไม่หวั่นพยานปากเอกคดีเงินบริจาค ปชป.258 ล.หาย มั่นใจมีหลักฐานอื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สมชัย” มั่นใจหาหลักฐานแวดล้อมคดีเงินบริจาค ปชป.258 ล้านหายได้ หลังหาตัวพยานปากสำคัญไม่พบ เชื่อไม่กระทบสำนวนทำให้เอาผิดไม่ได้ ลั่นไม่ได้ตั้งธงจะยุบพรรคหรือเอาผิดใคร เร่งเดินหน้าสอบ “ประดิษฐ์-ประชัย” ต่อ

วันนี้ (9 ก.ค.) นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีไม่สามารถติดตามตัว นายประจวบ สังข์ขาว พยานคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท และการนำเงินกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองปี 2548 จำนวน 29 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ มาสอบปากคำได้ว่า เรื่องนี้แม้จะไม่สามารถติดตามตัวพยานปากสำคัญมาให้ข้อมูลได้ก็ไม่เป็นเหตุให้ กกต.ต้องยุติการสืบสวนสอบสวนแต่อย่างใด เพราะเราสามารถใช้พยานแวดล้อม หลักฐานอื่น เช่น หลักฐานการโอนเงิน หรือพยานปากอื่นมาประกอบการพิจารณาได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในชั้นคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน จึงไม่สามารถทราบได้ว่าในขณะนี้มีพยานแวดล้อมอะไรบ้าง

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่ไม่สามารถสอบพยานปากสำคัญอาจจะทำให้สำนวนอ่อนลงและไม่สามารถเอาผิดในชั้นศาลได้ นายสมชัยกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นดุลพินิจของศาล ไม่ขอก้าวล่วง แต่ก่อนหน้านี้ ก็เคยมีกรณีที่ กกต.ไม่สามารถเรียกพยานมาสอบให้ครบถ้วนได้ ซึ่ง กกต.ก็ไม่ได้ยุติการสอบสวนแต่อย่างใด และในกรณีนี้ กกต.ก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะแกล้งใครหรือให้ใครถูกยุบพรรค แต่เป็นการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามที่มีผู้ร้องเข้ามาเท่านั้น

ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวในกรณีเดียวกันว่า ตนได้ตรวจสอบกับทางคณะอนุกรรมการ ทราบว่า สอบพยานปากสำคัญไปแล้ว 10 ปาก และได้นัดสอบปากคำ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ในสมัยนั้น และ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารบริษัท ทีพีไอ ส่วนกรณีของ นายประจวบ สังข์ขาว กรรมการบริษัท แมซไซอะ นั้น ทางคณะอนุกรรมการ ชี้แจงว่า ติดต่อไปตามที่อยู่ที่ปรากฏหลายครั้งแต่ไม่สามารถติดต่อได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พยานปากสำคัญไม่มาให้การจะมีผลต่อการสู้คดีในศาลหรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าอนุกรรมการไม่สามารถนำพยานปากสำคัญมาสอบได้ หากเป็นเช่นนั้นจริงก็สามารถใช้พยานอื่นรวมถึงพยานเอกสารในการพิจารณาได้ ซึ่งขั้นตอนการสรุปสำนวน คณะอนุกรรมการคงใช้ดุลพินิจ พิจารณาว่าหากหลักฐานที่มีอยู่ครบถ้วนพอจะสรุป เสนอต่อ กกต.ให้พิจารณาหรือไม่ หากมาถึงชั้น กกต.ที่ประชุมก็จะพิจารณาเช่นเดียวกัน และที่ผ่านมาก็มีหลายครั้งที่ที่ประชุม กกต.มีมติว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอก็ให้ไปสอบเพิ่มเติม ทั้งนี้ หากพยานคนใดไม่สะดวกมาให้ถ้อยคำด้วยตนเองก็สามารรถส่งเป็นหนังสือชี้แจงได้
กำลังโหลดความคิดเห็น