น่าห่วง! เด็กคอซอง-มหา’ลัย ติดเอดส์พุ่ง

อึ้ง! เยาวชน 32.4% มอง “อยู่ร่วมกัน คู่นอนชั่วคราว สวิงกิ้ง” เรื่องเล็ก โจ๋ต่ำกว่า 20 ปี ท้องไม่พร้อมสูงขึ้น พบเยาวชนกว่า 8 แสนคนสุขภาพจิตตก เครียดจัด น่าห่วงเด็กคอซอง-มหา’ลัย ติดเอดส์เพิ่มขึ้น

วันนี้ (5 ม.ค.) ที่โรงแรมแม็กซ์ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “เพศเพื่อเด็กและเยาวชน: รักใคร่และเรียนรู้” รุ่นที่ 2 โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)กรุงเทพมหานครเขต 2 ร่วมกว่า 100 คน

โดย นายอานัติ แย้มอยู่ ผู้อำนวยการกลุ่มการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิเด็ก สท.กล่าวในหัวข้อ “สถานการณ์เด็กและเยาวชนในปัจจุบัน” ว่า เยาวชน 32.4% มองการอยู่ร่วมกันก่อนแต่ง การมีคู่นอนชั่วคราว รวมถึงการสวิ้งกิ้ง การขายบริการทางเพศโดยเต็มใจเป็นเรื่องปกติและมีจำนวนมากขึ้น ทั้งยังพบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมมีแนวโน้มที่สูงขึ้น อีกทั้งการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเด็กและเยาวชนเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเหล้าปั่น

นอกจากนี้ยังพบเด็กอายุ 6-18 ปี เกือบ 8 แสนคนมีปัญหาทางสุขภาพจิต ตั้งแต่วิตกจริต เครียดจนถึงคิดฆ่าตัวตาย และที่น่าวิตกอย่างยิ่งคือการใช้สารเสพติดก็มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นทุกปี รวมไปถึงวัยรุ่นที่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ ก็มีเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ปัจจัยครอบครัวรวมถึงสิ่งแวดล้อมภายนอกกระตุ้นเร้าให้วัยรุ่นที่มีพฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น ส่วนทางการป้องกันต้องเริ่มจากการสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว สนับสนุนองค์กรชุมชนและการให้เด็กมีส่วนร่วมดูแลป้องกันปัญหาเยาวชน

นพ.วัชระ พุ่มประดิษฐ์ ที่ปรึกษาองค์การแพธ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีประมาณ 20,000 คนต่อปี ที่น่าห่วงคือพบเด็กเยาวชนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็นโรคเอดส์มากขึ้น โดยข้อมูลจากศูนย์รับบริจาคโลหิตพบ 5 ใน 1,000 คนที่มาบริจาคเลือดพบการติดเชื้อเอชไอวี ในจำนวนนี้มีกลุ่มเด็กและเยาวชนด้วย รวมทั้งองค์การสหประชาชาติด้านเอดส์ได้สำรวจพบเยาวชนไทยใช้ถุงยางแค่ 50% อีกทั้งยังสอบตกเรื่องความรู้ในการมีเพศสัมพันธ์ และจากการที่องค์การแพธและเครือข่ายต่างๆ จัดโครงการเลิฟแคร์ “กล้ารัก กล้าเช็ก” โดยเปิดเป็นคลินิกให้คำปรึกษาและบริการตรวจเช็กสุขภาพทางเพศแบบครบวงจรกับวัยรุ่น พบอัตราการติดเชื้อของวัยรุ่นในกรุงเทพฯ ที่อายุต่ำกว่า 25ปี ติดเชื้อเอชไอวี 1.6% ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมาก

“ปัจจัยที่ทำให้วัยรุ่นเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์นั้น เนื่องจากการค้าสมัยใหม่ที่สื่อและกระตุ้นเด็กให้มีเพศสัมพันธ์กันง่ายและมากขึ้น ทั้งผ่านทางโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต รวมถึงการที่เด็กในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอยู่กันเป็นคู่มากขึ้น ทั้งยังมีทัศนคติเดิมๆ ที่คิดว่าโรคเอดส์เป็นเรื่องของคนกลุ่มเสี่ยง แต่จริงๆ แล้วเอชไอวีอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด รวมทั้งยังมองเรื่องสุขภาพทางเพศเป็นเรื่องน่าอาย ทำให้ไม่กล้าเข้ารับบริการตรวจรักษา อย่างไรก็ตามจะพยายามขยายโครงการเลิฟแคร์ “กล้ารัก กล้าเช็ก” ให้ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยสามารถติดต่อผ่าน Call Center โทร. 08-5340-0043 หรือผ่านเว็บไซด์ www.lovecarestation.com

และสิ่งสำคัญคือ การทำให้สังคมมองเรื่องเอดส์และเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช่เชิงลบ เพื่อให้ทุกคนกล้าที่จะเข้ามาปรึกษาและรับบริการทางสาธารณสุข ให้เหมือนกับการตรวจสุขภาพประจำปี” ที่ปรึกษาองค์การแพธกล่าว