xs
xsm
sm
md
lg

“องค์กรงดเหล้า” แฉ บ.น้ำเมาโหม 1.6 พัน ล.โฆษณาถี่ยิบหวังดึงนักดื่มหน้าใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
“องค์กรงดเหล้า” ระดมพลังชาวน่านหยุดยั้งภัยน้ำเมา ชี้ บริษัทเหล้าเหลี่ยมจัด ทุ่มงบโปรโมตแบรนด์ 1,638.4 ล้านต่อปี โฆษณาถี่ยิบทั้งทางตรงทางอ้อม หวังดูดเยาวชนเข้าแก๊งนักดื่มหน้าใหม่ ชดเชยรายเก่า ยังน่าห่วงช่วง ธ.ค.หวั่นน้ำเมาบุกงาน ไทคัพ-กาชาดน่าน ขู่หากเจอโดนจำ-ปรับแน่

วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่โรงแรมเทวราช จังหวัดน่าน ประชาคมจังหวัดน่าน ร่วมกับเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดน่าน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน โรงพยาบาลน่าน และเทศบาลเมืองน่าน โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดสัมมนา “คนน่าน รักลูกหลาน รวมพลัง ลดภัยเหล้าเบียร์”
 
นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มาตรการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ที่มีผลบังคับใช้ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ได้แก่ มาตรา 32 การห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฝ่าฝืน มีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนมาตรา 27 และ31 สถานที่ห้ามดื่มห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ วัด สวนสาธารณะ สถานที่ราชการ สถานศึกษา ฝ่าฝืน มีโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 29 ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ฝ่าฝืน มีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวห้ามโฆษณาภาพผลิตภัณฑ์ แต่ก็ยังสามารถโฆษณาภาพตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์และตราบริษัทได้ จึงทำให้ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาด ทุ่มงบประมาณโฆษณาตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์และตราบริษัท อีกทั้งข้อมูลจาก AC Nielsen Media Research (ประเทศไทย) พบว่า ปี 2551 ธุรกิจแอลกอฮอล์ใช้งบประมาณโฆษณาสื่อต่างๆ เพิ่มขึ้นถึง 1,638.4 ล้านบาท จาก 1,495.5 ล้านบาทในปี 2550 ซึ่งเป้าหมายหลักของการโฆษณา คือ การเพิ่มนักดื่มหน้าใหม่มาทดแทนนักดื่มที่เสียชีวิต หรือเลิกดื่ม

นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ขณะนี้มีนักดื่มหน้าใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สาเหตุสำคัญคือการโฆษณาสุรา ทั้งทางตรงทางอ้อม เห็นได้จากสถานการณ์การดื่มสุราปี 2550 มีนักดื่มทั้งสิ้น 14.9 ล้านคน หรือคิดเป็น 29.3% โดยดื่มเพิ่มจาก 7.28 ลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ต่อคน ในปี 2550 เป็น 7.71 ในปี 2551 ที่น่าเป็นห่วง คือ นักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประมาณปีละ 2.6 แสนคน โดยเยาวชนเป็นนักดื่ม 669,662 คน คิดเป็น 12.9% ซึ่งนักดื่มเยาวชน อายุ 12-19 ปี ชายมีปริมาณการดื่มสูงถึง 1,118.35 กรัมต่อวัน ซึ่งสูงกว่าช่วงอายุอื่นที่ดื่มเพียง 85.72 กรัมต่อวัน ส่วนเยาวชนหญิงมีการดื่ม 61.95 กรัมต่อวัน ซึ่งก็สูงกว่าช่วงอายุอื่นที่ดื่มเพียง 51.99 กรัมต่อวัน ส่งผลกระทบจากการดื่มสุราในปี 2549 มีมูลค่าถึง 1.507 แสนล้านบาท หรือ 1.92% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) นอกจากนี้ยังพบว่าในปี 2549 เก็บภาษีสรรพสามิตได้ 72,871.5 ล้านบาท และปี 2551 ปรับขึ้นเป็น 90,186.1 ล้านบาท

นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า จากการออกสุ่มตรวจร้านขายเหล้าในจังหวัดน่าน ยังมีร้านค้า1-2แห่งทำผิดกฎหมายตาม ม.32 ของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยความเข้าใจผิดว่าสามารถทำได้ จึงแนะนำให้เอาป้ายโฆษณาออกซึ่งผู้ประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามคงต้องจับตาดูในช่วงเดือน ธ.ค.เนื่องจาก จ.น่าน จะมีการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ 2 งาน คือ งานไทคัพ หรือไทเกอร์คัพ ระหว่างวันที่ 6-13 ธ.ค.บริเวณสนามกีฬาจังหวัด ที่มีผู้สนับสนุน คือ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น มีภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงาน และงานกาชาด จ.น่าน ระหว่างวันที่ 11-20 ธ.ค.บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ หากมีการทำผิดกฎหมายหรือฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการจับกุมได้ทันที

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ เลขาธิการมูลนิธิแพทย์ชนบท และผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่า เยาวชนอายุ 10-19 ปีดื่มสุรามากขึ้น โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่พ่อแม่ส่งมาเรียนในตัวเมือง และเพื่อนชักชวนไปดื่มเหล้าในสถานบันเทิงและร้านเหล้าปั่น พบว่า มีการแจกนามบัตรนักศึกษาที่ขายบริการทางเพศแอบแฝงในร้านเหล้าปั่น และพบเด็กอายุน้อยกว่า 20 ปีประสบอุบัติเหตุจราจร เนื่องจากดื่มเหล้าปั่นด้วย ซึ่งจะได้นำเรียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านและนายกเทศมนตรีเมืองน่านดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น