“หมอสมาน” ยันทำตามหน้าที่เป็นไปตามกฎหมายปกป้องเยาวชนจากน้ำเมา เผยกำลังใจดีเยี่ยมมีคนโทร.มาให้กำลังใจทุก 5 นาที บริษัทเหล้าฟ้องส่งผลต่อครอบครัวกังวล แต่ไม่หนักใจ ด้าน “หมออำพล” ชื่นชม กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เตรียมนำแผนยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ เข้า คสช.วันที่ 28 ธ.ค.นี้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 ธันวาคม ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน อาทิ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ มูลนิธิเพื่อนหญิง ฯลฯ และ นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้เข้าให้กำลังใจ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรณีถูกบริษัทสิงห์ คอเปอเรชั่นจำกัด ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองว่าใช้อำนาจเกินหน้าที่นั้น
นพ.สมาน กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่โดยดำเนินการเฝ้าระวังและควบคุมการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งร่วมกับเจ้าหน้าที่ บุคลากร ลูกจ้างของสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือว่าเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและลูกหลาน ซึ่งก็มีผู้โทรศัพท์มาให้กำลังใจทุกๆ 5 นาที คงต้องขอขอบคุณเครือข่ายภาคประชาชนและ นพ.อำพล ที่มาให้กำลังใจ ตนเป็นข้าราชการที่ทำงานรับใช้พระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญไทย การที่ข้าราชการไม่ทำงานปกป้องลูกหลานเยาวชนไทย หรือไม่ทำอะไรเลยต่างหากที่เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ซึ่งนอกเหนือจากหน้าที่ตามกฎหมายแล้ว ยังเป็นการทำหน้าที่ในฐานะของมนุษย์ตามที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมบรมราชชนก มีพระราชดำรัสว่า ให้แพทย์มิใช่เพียงแค่รักษาพยาบาลเท่านั้นแต่ต้องมีหัวใจความเป็นมนุษย์ ซึ่งเท่ากับต้องป้องกันภัยคุกคามสุขภาพของประชาชนด้วย
“เมื่อตอนที่เครือข่ายนักธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีการแถลงข่าวว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผม พอลูกสาวคนเล็กรู้ก็ร้องไห้ทันทีเพราะเข้าใจว่า การถูกฟ้องคือการถูกจับติดคุก ก็อธิบายให้เข้าใจ ซึ่งครอบครัวกังวลว่า หากเกิดเหตุอะไรขึ้นมาแล้วใครจะช่วย วันนี้จึงอยากฝากถึงครอบครัวว่า สิ่งที่ได้ทำมาทั้งหมดเป็นการทำเพื่อชาติและเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เละเครือข่ายภาคประชาชน ช่วยเหลือปกป้องและเป็นกำลังใจอย่างดียิ่ง” นพ.สมานกล่าว
นพ.สมาน กล่าวต่อว่า ตนไม่รู้สึกหนักใจกรณีที่ถูกบริษัทยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพราะสามารถอธิบายทุกอย่างได้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งขอยืนยันว่า ตนปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักฯ เป็นตำแหน่งตามกฎหมายที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตั้งขึ้น และเป็นไปตามที่กฎหมายให้อำนาจ ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ลักษณะเดียวกัน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่า เป็นการกระทำผิด แต่ต้องรอศาลตัดสินว่าผิดหรือไม่ ประชาชนก็จะไม่ได้รับการคุ้มครองทันท่วงที ดังนั้น ครั้งนี้เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วเห็นว่า การกระทำผิดมีมูลก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ด้าน นพ.อำพล กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจนพ.สมาน เนื่องจากเป็นผู้หนึ่งที่ทำงานในส่วนของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ มาโดยตลอด ตั้งแต่ที่ร่วมกับผลักดันร่างกฎหมายจนออกมาบังคับใช้ได้สำเร็จในสมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี จนมาถึงการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้รู้สึกชื่นชมการทำงานที่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง มีความกล้าหาญในการทำหน้าที่สมกับเป็นข้าราชการที่ดี สมควรได้รับการยกย่องและให้กำลังใจ แม้ว่าจะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ จึงเป็นธรรมดาที่การทำงานต้องมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้น ดังนั้น การทำงานต้องอาศัยความเข้มแข็งและกำลังใจ
นพ.อำพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ธันวาคม จะนำเสนอแผนยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ ซึ่งเป็นมติจากที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ต่อคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมผลักดันให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)ให้ความเห็นชอบเพื่อมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ดำเนินการให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการทุกระดับที่สอดคล้องกับ แผนยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 ธันวาคม ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน อาทิ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ มูลนิธิเพื่อนหญิง ฯลฯ และ นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้เข้าให้กำลังใจ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรณีถูกบริษัทสิงห์ คอเปอเรชั่นจำกัด ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองว่าใช้อำนาจเกินหน้าที่นั้น
นพ.สมาน กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่โดยดำเนินการเฝ้าระวังและควบคุมการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งร่วมกับเจ้าหน้าที่ บุคลากร ลูกจ้างของสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือว่าเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและลูกหลาน ซึ่งก็มีผู้โทรศัพท์มาให้กำลังใจทุกๆ 5 นาที คงต้องขอขอบคุณเครือข่ายภาคประชาชนและ นพ.อำพล ที่มาให้กำลังใจ ตนเป็นข้าราชการที่ทำงานรับใช้พระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญไทย การที่ข้าราชการไม่ทำงานปกป้องลูกหลานเยาวชนไทย หรือไม่ทำอะไรเลยต่างหากที่เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ซึ่งนอกเหนือจากหน้าที่ตามกฎหมายแล้ว ยังเป็นการทำหน้าที่ในฐานะของมนุษย์ตามที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมบรมราชชนก มีพระราชดำรัสว่า ให้แพทย์มิใช่เพียงแค่รักษาพยาบาลเท่านั้นแต่ต้องมีหัวใจความเป็นมนุษย์ ซึ่งเท่ากับต้องป้องกันภัยคุกคามสุขภาพของประชาชนด้วย
“เมื่อตอนที่เครือข่ายนักธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีการแถลงข่าวว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผม พอลูกสาวคนเล็กรู้ก็ร้องไห้ทันทีเพราะเข้าใจว่า การถูกฟ้องคือการถูกจับติดคุก ก็อธิบายให้เข้าใจ ซึ่งครอบครัวกังวลว่า หากเกิดเหตุอะไรขึ้นมาแล้วใครจะช่วย วันนี้จึงอยากฝากถึงครอบครัวว่า สิ่งที่ได้ทำมาทั้งหมดเป็นการทำเพื่อชาติและเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เละเครือข่ายภาคประชาชน ช่วยเหลือปกป้องและเป็นกำลังใจอย่างดียิ่ง” นพ.สมานกล่าว
นพ.สมาน กล่าวต่อว่า ตนไม่รู้สึกหนักใจกรณีที่ถูกบริษัทยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพราะสามารถอธิบายทุกอย่างได้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งขอยืนยันว่า ตนปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักฯ เป็นตำแหน่งตามกฎหมายที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตั้งขึ้น และเป็นไปตามที่กฎหมายให้อำนาจ ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ลักษณะเดียวกัน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่า เป็นการกระทำผิด แต่ต้องรอศาลตัดสินว่าผิดหรือไม่ ประชาชนก็จะไม่ได้รับการคุ้มครองทันท่วงที ดังนั้น ครั้งนี้เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วเห็นว่า การกระทำผิดมีมูลก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ด้าน นพ.อำพล กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจนพ.สมาน เนื่องจากเป็นผู้หนึ่งที่ทำงานในส่วนของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ มาโดยตลอด ตั้งแต่ที่ร่วมกับผลักดันร่างกฎหมายจนออกมาบังคับใช้ได้สำเร็จในสมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี จนมาถึงการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้รู้สึกชื่นชมการทำงานที่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง มีความกล้าหาญในการทำหน้าที่สมกับเป็นข้าราชการที่ดี สมควรได้รับการยกย่องและให้กำลังใจ แม้ว่าจะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ จึงเป็นธรรมดาที่การทำงานต้องมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้น ดังนั้น การทำงานต้องอาศัยความเข้มแข็งและกำลังใจ
นพ.อำพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ธันวาคม จะนำเสนอแผนยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ ซึ่งเป็นมติจากที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ต่อคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมผลักดันให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)ให้ความเห็นชอบเพื่อมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ดำเนินการให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการทุกระดับที่สอดคล้องกับ แผนยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ