xs
xsm
sm
md
lg

“คุรุสภา” ปรี๊ดแตก!ห่วงวงการครูเสียหน้า สับ กมธ.ศึกษาฯ แฉโกงเลือกผู้แทนครูไม่เช็คข้อมูล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“คุรุสภา“ เต้นจวก กมธ.ศึกษาฯ ให้ข่าวพบโกงเลือกผู้แทนคุรุสภา โดยไม่เช็คข้อเท็จจริง ห่วงภาพพจน์วงการครูเสียหายหนัก โต้เปลี่ยนกรรมการสรรหาชุดใหม่ เหตุมีกรรมการบางคนไปลงสมัครเอง โบ้ยมีหนึ่งคนออกจอ ASTV อยากรู้ไปดูเอง ทำมึนเรื่องเงิน 10 ล้านโอนเข้าบัญชีกรรมการคุรุสภา พร้อมโยน กมธ.ตรวจสอบก่อน อ้างไม่มีอำนาจทำ

จากกรณีที่นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ออกมาระบุถึงปัญหาการร้องเรียนและการทุจริตการคัดเลือกสรรหาผู้แทนคุรุสภา ในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา และกมธ.การศึกษา สภาผู้แทนฯ ซึ่งมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการโอนเงินเกือบ 10 ล้านบาทให้กับกรรมการคุรุสภาคนหนึ่ง โดยกมธ.การศึกษา สภาผู้แทนฯ จะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในวันที่ 5 มกราคมนี้ พร้อมตั้งปมการตรวจสอบข้อเท็จจริงใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1.การขาดคุณสมบัติของผู้ได้รับการสรรหาเป็นผู้แทนคุรุสภา 2.การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการสรรหาคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาในอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ และ 3.พบหลักฐานการวิ่งเต้นจ่ายเงินเพื่อการรับรองผลโดยเร็วนั้น

วันนี้(23 ธ.ค.) นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยถึงกรณี ว่า ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในการสรรหาผู้แทนคุรุสภานั้นมาจาก 1. การแก้พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในสมัยนายวิจิตร ศรีสะอ้าน เป็น รมว.ศึกษาธิการ ที่ต้องการจะนำเอาคนนอกมาถ่วงดุล อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ซึ่งเดิมมีกรรมการเพียง 9 คนแต่ได้เพิ่มเป็น 12 คนและในจำนวนนี้จะมีคนนอกถึง 5 คน ได้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คนและผู้แทนก.ค.ศ.1 คน ส่วนผู้แทนคุรุสภานั้นได้แก้ไขระเบียบใหม่โดยจะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพด้วย ซึ่งเมื่อแก้ไขกฎหมายส่วนนี้ทำให้คนที่เคยสมัครผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนก.ค.ศ.ได้ต้องมาลงสมัครเป็นผู้แทนคุรุสภาทำให้เบียดพื้นที่แข่งขันกันมาก

2.หลักเกณฑ์การสรรหาผู้แทนคุรุสภาที่ออกมาทำให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติและเกิดการลักลั่นในการสรรหา เนื่องจากให้กรรมการคุรุสภามีสิทธิเสนอชื่อผู้สมัครเป็นผู้แทนคุรุสภาได้ไม่เกิน 3 คนและให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาประกาศรับสมัครข้าราชการครู ซึ่งการรับสมัครสองทางนี้เท่ากับโกหกครูจะให้เขามาสมัครทำไม เพราะยังไงกรรมการคุรุสภาก็ต้องเลือกคนที่เสนอชื่อไปอยู่แล้ว ดังนั้นหากให้กรรมการคุรุสภาเสนอชื่อและเลือกเองปัญหาก็น่าจะจบ หากต่อไปไม่แก้ไขเรื่องนี้ปัญหาก็คงไม่จบ

“การทำหน้าที่ของคณะกรรมการติดตามดูแลการสรรหาและการเลือกตั้งผู้แทนในคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และอ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการ กระทรวงศึกษาธิการ หรือ กกต.ศธ.นำข่าวร้องเรียนออกมาเผยแพร่กับผู้สื่อข่าวนั้นได้ประโยชน์อะไรหรือไม่กับการศึกษา เพราะเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้กลั่นกรองเลยจึง ทำให้การศึกษาเสียหายและ กมธ.การศึกษาฯ เองที่ออกมาให้ข้อมูลว่าได้ตรวจสอบข้อมูลหรือยังว่ามีการจ่ายเงิน 5 -10 ล้านบาท หากยังไมได้ตรวจสอบไม่น่าจะออกมาให้ข้อมูลและต้องตอบสังคมให้ได้ว่าทำไปเพื่ออะไรเป็นการทำลายสภาครูหรือไม่และหากตรวจสอบแล้วไม่มีอะไรใครจะรับผิดชอบ วันนี้กมธ.การศึกษาฯต้องการเล็งปากกระบอกปืนมาที่คุรุสภา หลังจากที่ 5 เดือนที่แล้วถล่มไปที่สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ผมคิดว่า กมธ.การศึกษา สภาผู้แทนฯ ต้องทำเรื่องใหญ่กว่านี้ไม่ใช่มาทะเลาะกับองค์กรครู กมธ.การศึกษาไม่พอใจหรือไม่ที่ส่งโผรายชื่อคนที่จะมาเป็นผู้แทนคุรุสภาแล้วไม่ได้ใช่ไหมถึงออกมาเปิดประเด็นเรื่องนี้ ผมมีโผหมดว่าใครส่งรายชื่อมาบ้างโดยเฉพาะกลุ่มการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายพรรคการเมืองพอไม่ได้ตามที่เสนอมาก็โกรธผม” เลขาฯ คุรุสภา กล่าว

นายองค์กร กล่าวต่อว่า ในส่วนกรณีที่ กมธ.การศึกษา สภาผู้แทนฯ ระบุว่ามีผู้ที่ได้รับการสรรหาบางคนขาดคุณสมบัตินั้นความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะแม้จะมีผู้ได้รับการสรรหาบางคนจะถูกดำเนินคดีทางวินัย ถูกตั้งกรรมการสอบ แต่ก็ได้รับการยกเว้นแล้ว จากพ.ร.บ.ล้างมลทิน ดังนั้นจึงถือว่าไม่ขาดคุณสมบัติ ขณะที่สาเหตุที่ต้องมีการเปลี่ยนกรรมการชุดที่ 2 ช่วงที่มีการประกาศรับสมัครนั้น เนื่องจากมีกรรมการสรรหาผู้แทนคุรุสภาไปลงสมัครเสียเอง จึงได้สั่งยุติการสรรหา เพื่อเอาข้อมูลเสนอบอร์ด จนนำไปสู่กรรมการเปลี่ยนแปลงกรรมการสรรหาชุดใหม่ ซึ่งตอนนั้น นายชินภัทร ภูมิรัตน ขณะที่ยังดำรงตำแหน่ง ปลัด ศธ. เห็นว่าเมื่อมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ก็เลยลาออกเพื่อสอนจิตสำนึกแก่ผู้สมัครที่ยังไม่ลาออกจากการเป็นคณะกรรมการสรรหา

“เราพบว่ามีกรรมการสรรหามาลงสมัครเอง 3 - 4 ราย พอตอนหลังรู้กฎระเบียบการสมัครจึงต้องลาออกไป แต่มีเพียงคนเดียวที่ไม่ยอมลาออก หากอยากรู้ว่าเป็นใครให้ไปเปิด ASTV ดู และเขาคนนี้ก็เคยพูดบนเวทีว่าไม่ยอมลาออกจาก อ.ก.ค.ศ. ขณะที่คนอื่นๆ ลาออกกันหมดแล้ว ตรงนี้อาจรู้ถึงที่มาที่ไปได้” นายองค์กร กล่าว

นายองค์กร กล่าวอีกว่า คุรุสภาต้องตรวจสอบเหมือนกันว่า มีบางสมาคม ชมรม ที่จะต้องมีโลโก้ มีที่ตั้งประธานอย่างชัดเจน ไม่ใช่ใช้ตราครุฑของราชการมาใช้ในหนังสือร้องเรียน วันนี้มีบางสมาคมใช้ตราครุฑ บางรายใช้ตราคุรุสภา ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีรายชื่ออยู่ในกรรมการสรรหา ดังนั้นตนจะตั้งกรรมการ เพื่อตรวจสอบกลุ่มป่วนเมืองเหล่านี้ พร้อมกับเช็คแหล่งที่มาเพราะใช้ความจริงแล้วในเอกสารร้องเรียนไม่ควรใช้ตราเหล่านี้

เมื่อถามถึงกระแสข่าวเงิน 10 ล้านบาท ที่ทาง กมธ.การศึกษาฯ อ้างว่าพบหลักฐานการโอนให้แก่กรรมการคุรุสภานั้น ทางคุรุสภาจะตรวจสอบอีกทางหรือไม่ นายองค์กร กล่าวว่า ต้องรอให้ กมธ.ตรวจสอบและพิสูจน์ออกมาก่อน เพราะเขามีข้อมูล ทางเราไม่มีข้อมูล และไม่มีอำนาจที่ไหนไปตรวจว่าใครโดนเงินเข้าบัญชีไหน ไม่รู้ว่ามีกี่บัญชี กรรมการมี ถึง 39 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น