“มานิต” ออกโรงจวกสิงห์เบี่ยงประเด็นผิดทั้งนั้น แถมไม่ใช่แค่ผิดกฎหมาย แต่ไม่เหมาะสม หารือ วธ.-ศธ.-พม.จัดการสิ่งยั่วยุอารมณ์ทางเพศ พร้อมสั่งหาข้อสรุปภายใน 1-2 วัน เล็งเอาผิดเสื้อยี่ห้อสิงห์ต่อ ชี้เจตนาส่งเสริมการขาย
วันที่ 16 ธันวาคม นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่ นางเมทินี เชพเพิร์ต กิ่งโพยม ผู้จัดทำปฏิทินวาบหวิวของบริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ลีโอ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การจัดทำปฏิทินลีโอครั้งนี้ถูกต้องตามกฎหมาย โดย สธ.ไม่สามารถดำเนินการเอาผิดได้ว่า ได้มอบหมายให้ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สธ.หารือกับทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายและที่ปรึกษาด้านนิเทศศาสตร์ว่าการทำปฏิทินครั้งนี้เป็นการทำผิดฝ่าฝืนกฎหมายข้อใดบ้าง โดยคาดว่าอีก 1-2 วัน จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
“บริษัท สิงห์ และคุณลูกเกด พยายามเบี่ยงเบนประเด็นว่าบริษัท สิงห์ฯ ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดทำปฏิทิน โดยเฉพาะคุณลูกเกด ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ทำปฏิทินเพื่อขาย ไม่ใช่เพื่อแจก และให้บริษัทอื่นเป็นผู้ขายหรือให้นางแบบเป็นคนขายปฏิทิน โดยที่บริษัท สิงห์ฯ ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้ภาคประชาชนคงจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร นางแบบจะมาทำปฏิทินเอง ถ่ายเอง ขายเอง ก็คงไม่ใช่เรื่อง และไม่ว่าจะขายหรือแจก ก็ถือว่าทำผิดกฎหมายทั้งนั้น เพราะปฏิทินมีรูปโลโก้ยี่ห้อเบียร์ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน และประชาชนเข้าใจได้ว่าเป็นเบียร์ยี่ห้อใด”นายมานิตกล่าว
นายมานิตกล่าวต่อว่า ที่สำคัญการทำปฏิทินหวาบหวิวครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการทำผิดกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความไม่เหมาะสม ไม่สมควรด้วย ไม่เป็นประโยชน์สร้างสรรค์สังคม เป็นการยั่งยุอารมณ์ทางเพศ ก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงต่อสตรี เยาวชนตามมมาอีกด้วย โดยในเร็วๆ นี้ สธ.จะหารือกับกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความเป็นมนุษย์ (พม.) เพื่อหามาตรการแก้ปัญหาและปกป้องเยาวชนไม่ให้เป็นเหยื่ออบายมุข ความรุนแรงในสังคมด้วย
ด้านนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวว่า ตามนโยบาย 3 D ของศธ.ระบุชัดในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ที่สถานศึกษาต่างๆ ต้องระมัดระวังและเร่งส่งเสริมเรื่องดังกล่าวให้เกิดขึ้น ทั้งนี้จากปัญหาดังกล่าวตนคิดว่าในส่วนของโรงเรียนน่าจะไม่มีปัญหา เพราะเข้าถึงได้ยาก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือระดับอุดมศึกษา ที่จะเข้าถึงเรื่องของอบายมุขต่างๆ ได้ง่ายกว่า ซึ่งทางสถาบัน มหาวิทยาลัยต่างๆ ต้องหาแนวทางจูงใจนักศึกษาให้เลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยต้องเร่งสร้างความเข้าใจ ให้ความรู้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าวัยรุ่นเป็นวัยที่ห้าม และปิดกั้นเรื่องเหล่านี้ได้ยาก หาก สธ.จะร่วมหาแนวทางป้องกันปัญหาก็ยินดี เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนมาตรการร่วมกัน
“เรื่องปฏิทินวาบหวิวตามที่เป็นข่าวเป็นเรื่องที่น่ากังวลอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องโฉบเฉี่ยว ซึ่งองค์กรทางธุรกิจก็นำตรงนี้มาเป็นการเรียกจุดขาย ซึ่งเด็กเองหากรับเรื่องราวเหล่านี้เข้าไปมากๆ โดยที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ก็จะเป็นการยากที่จะควบคุม อีกทั้งเรื่องนี้ก็มีตามบทบัญญัติในกฎหมายดังนั้นภาคธุรกิจเองต้องดูถึงความเหมาะสม ดำเนินการตามกรอบกฎหมาย และดูผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสังคมด้วย” รมช.ศธ.กล่าว
ชม ลูกเกด โต้ ปฏิทิน ไม่โป๊ อ้างลูกค้าต้องซื้อไม่มีแจก
วันที่ 16 ธันวาคม นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่ นางเมทินี เชพเพิร์ต กิ่งโพยม ผู้จัดทำปฏิทินวาบหวิวของบริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ลีโอ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การจัดทำปฏิทินลีโอครั้งนี้ถูกต้องตามกฎหมาย โดย สธ.ไม่สามารถดำเนินการเอาผิดได้ว่า ได้มอบหมายให้ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สธ.หารือกับทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายและที่ปรึกษาด้านนิเทศศาสตร์ว่าการทำปฏิทินครั้งนี้เป็นการทำผิดฝ่าฝืนกฎหมายข้อใดบ้าง โดยคาดว่าอีก 1-2 วัน จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
“บริษัท สิงห์ และคุณลูกเกด พยายามเบี่ยงเบนประเด็นว่าบริษัท สิงห์ฯ ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดทำปฏิทิน โดยเฉพาะคุณลูกเกด ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ทำปฏิทินเพื่อขาย ไม่ใช่เพื่อแจก และให้บริษัทอื่นเป็นผู้ขายหรือให้นางแบบเป็นคนขายปฏิทิน โดยที่บริษัท สิงห์ฯ ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้ภาคประชาชนคงจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร นางแบบจะมาทำปฏิทินเอง ถ่ายเอง ขายเอง ก็คงไม่ใช่เรื่อง และไม่ว่าจะขายหรือแจก ก็ถือว่าทำผิดกฎหมายทั้งนั้น เพราะปฏิทินมีรูปโลโก้ยี่ห้อเบียร์ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน และประชาชนเข้าใจได้ว่าเป็นเบียร์ยี่ห้อใด”นายมานิตกล่าว
นายมานิตกล่าวต่อว่า ที่สำคัญการทำปฏิทินหวาบหวิวครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการทำผิดกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความไม่เหมาะสม ไม่สมควรด้วย ไม่เป็นประโยชน์สร้างสรรค์สังคม เป็นการยั่งยุอารมณ์ทางเพศ ก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงต่อสตรี เยาวชนตามมมาอีกด้วย โดยในเร็วๆ นี้ สธ.จะหารือกับกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความเป็นมนุษย์ (พม.) เพื่อหามาตรการแก้ปัญหาและปกป้องเยาวชนไม่ให้เป็นเหยื่ออบายมุข ความรุนแรงในสังคมด้วย
ด้านนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวว่า ตามนโยบาย 3 D ของศธ.ระบุชัดในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ที่สถานศึกษาต่างๆ ต้องระมัดระวังและเร่งส่งเสริมเรื่องดังกล่าวให้เกิดขึ้น ทั้งนี้จากปัญหาดังกล่าวตนคิดว่าในส่วนของโรงเรียนน่าจะไม่มีปัญหา เพราะเข้าถึงได้ยาก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือระดับอุดมศึกษา ที่จะเข้าถึงเรื่องของอบายมุขต่างๆ ได้ง่ายกว่า ซึ่งทางสถาบัน มหาวิทยาลัยต่างๆ ต้องหาแนวทางจูงใจนักศึกษาให้เลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยต้องเร่งสร้างความเข้าใจ ให้ความรู้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าวัยรุ่นเป็นวัยที่ห้าม และปิดกั้นเรื่องเหล่านี้ได้ยาก หาก สธ.จะร่วมหาแนวทางป้องกันปัญหาก็ยินดี เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนมาตรการร่วมกัน
“เรื่องปฏิทินวาบหวิวตามที่เป็นข่าวเป็นเรื่องที่น่ากังวลอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องโฉบเฉี่ยว ซึ่งองค์กรทางธุรกิจก็นำตรงนี้มาเป็นการเรียกจุดขาย ซึ่งเด็กเองหากรับเรื่องราวเหล่านี้เข้าไปมากๆ โดยที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ก็จะเป็นการยากที่จะควบคุม อีกทั้งเรื่องนี้ก็มีตามบทบัญญัติในกฎหมายดังนั้นภาคธุรกิจเองต้องดูถึงความเหมาะสม ดำเนินการตามกรอบกฎหมาย และดูผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสังคมด้วย” รมช.ศธ.กล่าว