การเมืองคุณครูสุดวุ่น! เครือข่ายวิชาชีพตบเท้าร้อง “จุรินทร์” ยับยั้งแต่งตั้งผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ แฉพบเรื่องฉาวโฉ่อื้อ ซื้อขายเก้าอี้เงินสะพัด 80 ล้าน แบ่งโซนเก็บเงิน โอนเข้าบัญชีโจ่งแจ้ง ยังไม่พอเข้ามาสูบทุนคืนเรียกเงินย้ายครู 2 หมื่น/กม. สอบบรรจุผู้บริหารหัวละ 3-5 แสน ขู่หากไม่คืบพร้อมระดมพลทวงถาม ขณะที่ “กกต.ศธ.” เผยเลือกผู้แทนครูสายมัธยมไม่น้อยหน้า หัวคะแนนได้รายละหมื่น สั่งเร่งตรวจสอบเจอผิดจริงพร้อมสอยร่วง
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เครือข่ายสมาคมวิชาชีพครู 12 แห่ง เช่น สมาคมนักพัฒนาการศึกษาแห่งประเทศไทย, สหภาพครูแห่งชาติเครือข่ายอีสานใต้, เครือข่ายสภาครูอีสาน และสภาครูอีสานแนวร่วมธรรมาภิบาล นำโดย นายประภาส จันทร์เอิบ ประธานสภาครูอีสานแนวร่วมธรรมาภิบาล และ นายประสิทธิ์ รักญาติ เลขาธิการสภาเครือข่ายครูอีสาน พร้อมคณะร่วมกว่า 10 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ นายสุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานคณะกรรมการติดตาม ดูแลการสรรหาและการเลือกตั้งคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการ กระทรวงศึกษาธิการ หรือ (กกต.ศธ.) เพื่อขอให้มีการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา โดยนายสุขุม รับเรื่องไว้แทน เนื่องจากนายจุรินทร์ ติดราชการ
นายประภาสกล่าวว่า เครือข่ายสมาคมวิชาชีพครูได้รับทราบความเคลื่อนไหวการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ของคณะกรรมการคุรุสภาที่ไม่โปร่งใส โดยส่อว่ามีการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง ด้วยการคัดเลือกบุคคลที่ถูกดำเนินการทางวินัยร้ายแรงในข้อหาทุจริตต่อหน้าที่ให้ได้รับตำแหน่ง ที่สำคัญยังมีการซื้อขายตำแหน่งในราคา 400,000-500,000 บาท โดยมีเงินสะพัดกว่า 80 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยังมีการเดินสายแบ่งโซนเก็บเงินกันอย่างโจ่งแจ้ง บางรายมีการโอนเงินเข้าบัญชี ซึ่งสามารถที่จะตรวจสอบได้ และยังแต่งตั้งตัวเองไปเป็น อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา นำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิวิชาชีพครูในฐานะที่คุรุสภาเป็นองค์กรที่ส่งเสริมมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ นอกจากนี้ยังสวนทางกับนโยบาย 3 ดีของ รมว.ศึกษาธิการที่เน้นในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมและการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตยที่ต่อต้านการซื้อสิทธิ ขายเสียงอีกด้วย
“ทางเครือข่ายฯ ได้นำเอกสารและหลักฐาน พร้อมเรียกร้องให้ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธาน ก.ค.ศ. และกำกับดูแลคุรุสภา พิจารณาดำเนินการดังนี้ คือ ให้ยับยั้งการแต่งตั้งผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เร่งตรวจสอบความไม่โปร่งใสและการทุจริตในการซื้อขายตำแหน่ง พร้อมแก้ไขกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งผู้แทนคุรุสภา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเป็นการกวาดล้างมลทินและความเน่าเฟะที่เกิดขึ้นในแวดวงการศึกษาให้หมดไป เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและศรัทธาคืนจากสังคม เพราะคนเหล่านี้เมื่อเข้าไปแล้วก็จะเรียกทุนคืนด้วยการเรียกเงินจากการย้ายครูคิดเป็นกิโลเมตรละ 20,000 บาท การสอบบรรจุผู้บริหาร รายละ 300,000-500,000 บาท การพิจารณาความดีความชอบ การเลื่อนวิทยฐานะ และช่วยเหลือให้พ้นผิดจากการสอบวินัย อย่างไรก็ตามหากไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ทางเครือข่ายฯ จะรวมพลกว่า 1,000 คนมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อไป” ปธ.สภาครูอีสานแนวร่วมธรรมาภิบาล กล่าว
ด้าน นายสุขุมกล่าวว่า ตนได้รับเอกสารหลักฐานพร้อมข้อเรียกร้องของเครือข่ายฯ ไว้พิจารณาแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ที่อยู่ในแวดวงการศึกษาให้ข้อมูลมาอีกว่าการเลือกตั้งผู้แทนครูในสายมัธยมศึกษา มีการซื้อเสียงกันเป็นจำนวนมาก โดยระดับผู้บริหารสถานศึกษาจะได้ค่าหัวคะแนน รายละ 10,000 บาท ส่วนครูจะได้ครั้งแรก 300 บาท และในโค้งสุดท้ายจะจ่ายให้จนครบ 1,500 บาท ซึ่งตนจะนำเรื่องเข้าพิจารณาในการประชุม กกต.ศธ. และจะเร่งตรวจสอบเพื่อหาข้อสรุป เพื่อให้คณะกรรมการ ก.ค.ศ. ที่มี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ใช้ประกอบการพิจารณาเพื่อรับรองหรือไม่รับรองผลการเลือกตั้งและการสรรหาผู้แทนใน ก.ค.ศ. อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และอ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ซึ่งหากมีหลักฐานชัดเจนหรือมีข้อให้กังขา ก.ค.ศ.มีสิทธิ์ที่จะสอย แจกใบเหลืองหรือใบแดงได้ และผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์หากมีการเลือกตั้งใหม่จะไม่สามารถมาสมัครรับการเลือกตั้งได้อีก
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เครือข่ายสมาคมวิชาชีพครู 12 แห่ง เช่น สมาคมนักพัฒนาการศึกษาแห่งประเทศไทย, สหภาพครูแห่งชาติเครือข่ายอีสานใต้, เครือข่ายสภาครูอีสาน และสภาครูอีสานแนวร่วมธรรมาภิบาล นำโดย นายประภาส จันทร์เอิบ ประธานสภาครูอีสานแนวร่วมธรรมาภิบาล และ นายประสิทธิ์ รักญาติ เลขาธิการสภาเครือข่ายครูอีสาน พร้อมคณะร่วมกว่า 10 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ นายสุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานคณะกรรมการติดตาม ดูแลการสรรหาและการเลือกตั้งคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการ กระทรวงศึกษาธิการ หรือ (กกต.ศธ.) เพื่อขอให้มีการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา โดยนายสุขุม รับเรื่องไว้แทน เนื่องจากนายจุรินทร์ ติดราชการ
นายประภาสกล่าวว่า เครือข่ายสมาคมวิชาชีพครูได้รับทราบความเคลื่อนไหวการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ของคณะกรรมการคุรุสภาที่ไม่โปร่งใส โดยส่อว่ามีการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง ด้วยการคัดเลือกบุคคลที่ถูกดำเนินการทางวินัยร้ายแรงในข้อหาทุจริตต่อหน้าที่ให้ได้รับตำแหน่ง ที่สำคัญยังมีการซื้อขายตำแหน่งในราคา 400,000-500,000 บาท โดยมีเงินสะพัดกว่า 80 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยังมีการเดินสายแบ่งโซนเก็บเงินกันอย่างโจ่งแจ้ง บางรายมีการโอนเงินเข้าบัญชี ซึ่งสามารถที่จะตรวจสอบได้ และยังแต่งตั้งตัวเองไปเป็น อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา นำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิวิชาชีพครูในฐานะที่คุรุสภาเป็นองค์กรที่ส่งเสริมมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ นอกจากนี้ยังสวนทางกับนโยบาย 3 ดีของ รมว.ศึกษาธิการที่เน้นในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมและการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตยที่ต่อต้านการซื้อสิทธิ ขายเสียงอีกด้วย
“ทางเครือข่ายฯ ได้นำเอกสารและหลักฐาน พร้อมเรียกร้องให้ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธาน ก.ค.ศ. และกำกับดูแลคุรุสภา พิจารณาดำเนินการดังนี้ คือ ให้ยับยั้งการแต่งตั้งผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เร่งตรวจสอบความไม่โปร่งใสและการทุจริตในการซื้อขายตำแหน่ง พร้อมแก้ไขกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งผู้แทนคุรุสภา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเป็นการกวาดล้างมลทินและความเน่าเฟะที่เกิดขึ้นในแวดวงการศึกษาให้หมดไป เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและศรัทธาคืนจากสังคม เพราะคนเหล่านี้เมื่อเข้าไปแล้วก็จะเรียกทุนคืนด้วยการเรียกเงินจากการย้ายครูคิดเป็นกิโลเมตรละ 20,000 บาท การสอบบรรจุผู้บริหาร รายละ 300,000-500,000 บาท การพิจารณาความดีความชอบ การเลื่อนวิทยฐานะ และช่วยเหลือให้พ้นผิดจากการสอบวินัย อย่างไรก็ตามหากไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ทางเครือข่ายฯ จะรวมพลกว่า 1,000 คนมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อไป” ปธ.สภาครูอีสานแนวร่วมธรรมาภิบาล กล่าว
ด้าน นายสุขุมกล่าวว่า ตนได้รับเอกสารหลักฐานพร้อมข้อเรียกร้องของเครือข่ายฯ ไว้พิจารณาแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ที่อยู่ในแวดวงการศึกษาให้ข้อมูลมาอีกว่าการเลือกตั้งผู้แทนครูในสายมัธยมศึกษา มีการซื้อเสียงกันเป็นจำนวนมาก โดยระดับผู้บริหารสถานศึกษาจะได้ค่าหัวคะแนน รายละ 10,000 บาท ส่วนครูจะได้ครั้งแรก 300 บาท และในโค้งสุดท้ายจะจ่ายให้จนครบ 1,500 บาท ซึ่งตนจะนำเรื่องเข้าพิจารณาในการประชุม กกต.ศธ. และจะเร่งตรวจสอบเพื่อหาข้อสรุป เพื่อให้คณะกรรมการ ก.ค.ศ. ที่มี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ใช้ประกอบการพิจารณาเพื่อรับรองหรือไม่รับรองผลการเลือกตั้งและการสรรหาผู้แทนใน ก.ค.ศ. อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และอ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ซึ่งหากมีหลักฐานชัดเจนหรือมีข้อให้กังขา ก.ค.ศ.มีสิทธิ์ที่จะสอย แจกใบเหลืองหรือใบแดงได้ และผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์หากมีการเลือกตั้งใหม่จะไม่สามารถมาสมัครรับการเลือกตั้งได้อีก