xs
xsm
sm
md
lg

จ่อฟันปฏิทินเหล้า 6 นางแบบหวิวผิดชัดฐานโฆษณา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สธ.จ่อเอาผิด เจ้าของปฏิทินเหล้า 6 นางแบบวาบหวิว ผิดฐานโฆษณา ม.32 เห็นโลโก้ชัด ไม่ได้ให้ความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม ลดแลกแจกแถม มีโทษหนักทั้งปรับ ทั้งจำคุก

นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่บริษัท สิงห์ คอปอเรชั่น จัดทำปฏิทินวาบหวิวเพื่อแจกให้กับประชาชนที่ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า การดำเนินการดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างชัดเจนตามมาตรา 32 ว่าด้วยเรื่องการโฆษณา ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ที่มีการแสดงชื่อ เครื่องหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เห็นชัดเจนทั้งทางตรงและอ้อม โดยที่ไม่มีการให้ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษปรับอีกวันละ 50,000 บาท จนกว่าจะแก้ไขให้ถูกต้อง

นพ.สมาน กล่าวว่า นอกจากนี้ หากมีการแจกปฏิทินให้กับลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแจกให้กับร้านค้าและมีการนำภาพปฏิทินไปติดโชว์ที่หน้าร้านก็ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 30(5) ที่ห้ามการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยการลด แลก แจก แถม ที่เป็นการจูงใจให้ซื้อและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อนั้นๆ โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย


“หากมีธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดใดทำปฏิทินแจกลูกค้า สธ.จะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด จะไม่มีการละเว้นหรือผ่อนผันเหมือนปีที่แล้วอีก เพราะถือว่าเป็นปีที่ 2 แล้วที่มี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาบังคับใช้ ซึ่งเมื่อปี 2551 สธ.ได้แจ้งเตือนกับผู้ผลิตเบียร์ 2 ชนิด ที่เคยทำปฏิทินวาบหวิวและเตรียมแจกให้กับลูกค้ามาแล้ว โดยสธ. จะหารือกับทีมกฎหมาย เพื่อตรวจสอบการกระทำผิดในครั้งนี้” นพ.สมาน กล่าว

นพ.สมาน กล่าวถึงกรณีการเสนอออกกฎหมายลูกตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 จำนวน 4 ฉบับ ให้คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ว่า ร่างกฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับ เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเยาวชน ซึ่งมี 2 ฉบับ คือ การจัดโซนนิ่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัศมี 500 เมตร จากสถานศึกษา และการห้ามจำหน่ายเหล้าปั่น ถือว่ามีผลการการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเยาวชน โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษาอย่างมาก และไม่ค่อยมีผลกระทบต่อธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่าใด จึงคาดหวังว่ากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับนี้ คณะกรรมการนโยบายฯ จะให้ความเห็นชอบ

นพ.สมาน กล่าวว่า ส่วนการออกประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่กำหนดให้ติดฉลากภาพคำเตือนที่ข้างบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดนั้น ทางสธ. ได้จัดทำภาพคำเตือนเสร็จแล้ว 9 ภาพ โดยจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายฯ พิจารณา หากเห็นชอบ ก็จะเลือกภาพคำเตือนชุดแรก จำนวน 6 ภาพจากทั้งหมด 9 ภาพ เพื่อนำมาให้ผู้ผลิต จำหน่ายและนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำไปติดข้างขวด ส่วนในอนาคต สธ.จะมีการจัดประกวดการออกแบบภาพคำเตือน เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมออกแบบภาพคำเตือนต่อไป

ด้าน นายคำรณ ชูเดชา กล่าวว่า ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า เครือข่ายภาคประชาชนสนับสนุนการออกกฎหมายลูกอย่างเต็มที่ เพราะสามารถช่วยป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ได้เป็นอย่างดี เครือข่ายจะติดตามผลการประชุมในวันที่ 23 ธันวาคมนี้อย่างใกล้ชิด และคาดหวังว่าจะมีการเห็นชอบออกกฎหมายลูกขึ้นมมาควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนโดยตรง ซึ่งเป็นเรื่องที่ พล.ต.สนั่น ได้เคยรับปากกับทางเครือข่ายไว้แล้ว

นายคำรณกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายฯ ได้เคยหารือกับ พล.ต.สนั่น ซึ่งท่านได้เสนอว่าจะตั้งอนุกรรมการตีความกฎหมาย เพื่มขึ้นมาอีก 1 ชุด โดยขึ้นตรงกับคณะกรรมการนโยบายฯ ซึ่งทางเครือข่าย ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้อย่างยิ่ง เพราะคณะกรรมการควบคุมฯ มีคณะทำงานด้านกฎหมายอยู่แล้ว และมีนักกฎหมาย อัยการ และแพทย์ ร่วมเป็นกรรมการ มีความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว

“หาก พล.ต.สนั่น ได้เสนอให้ตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายจริง คงต้องดูว่ามีเจตนารมณ์อย่างไร ตั้งขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ใด แต่ที่แน่ๆ คือไม่มีประโยชน์ซ้ำซ้อนกับคณะทำงานเดิมที่มีอยู่ ที่น่าเป็นห่วงคือจะกลายเป็นการเตะถ่วง ดองกระโถนไม่ออกกฎหมายลูกมากกว่า และจะดูว่ามีการตั้งคนนอกจากธุรกิจน้ำเมาเข้ามร่วมเป็นกรรมการด้วยหรือไม่ ซึ่งหากใช่จะกลายเป็นการแทรกแซงการทำงานของภาครัฐที่จะควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะมัวแต่ฟังเสียงภาคธุรกิจไม่ได้” นายคำรณกล่าว
รูปประกอบจากอินเทอร์เน็ต
กำลังโหลดความคิดเห็น