“แพทย์ชนบท” เผยบริษัทเหล้ายักษ์ใหญ่เตรียมใช้จ.น่าน จัด “ไทคัพ” ดึง ขรก.ร่วม หวั่นโฆษณาแฝง ด้านตัวจังหวัดจัดกาชาดเดือนหน้า วางแผนจับมือบริษัทเหล้า หวังขาย-ซดในงาน ขณะที่ประชาคมฯน่าน เตรียมร่อนหนังสือถึงผู้ว่าฯ ค้านสุดโต่ง ลั่นไม่เคารพกฎหมายเจอทั้งจำ -ปรับ แน่
นพ.พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ เลขาธิการมูลนิธิแพทย์ชนบท ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน จังหวัดน่าน กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่านได้ประชุมหารือกัน โดยพบว่าในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ทางจังหวัดน่าน จะมีการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ 2 งาน คือ งานไทคัพ หรือไทเกอร์คัพ ระหว่างวันที่ 6-13 ธ.ค.2552 ที่บริเวณสนามกีฬาจังหวัดน่าน และงานกาชาดจังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ 11-20 ธ.ค.ที่บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษาสมเด็จพระราชินีนาถ โดยทั้งสองงานมีแนวโน้มว่าจะมีการจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งหากมีการกระทำดังกล่าวจริงจะเข้าข่ายผิดกฎหมายทันที
นพ.พงษ์เทพ กล่าวว่า โดยงานไทเกอร์คัพ ที่มีสปอนเซอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นงานการแข่งขันฟุตบอลระหว่างจังหวัด โดยจะเชิญตัวแทนของภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งตรงนี้สุ่มเสี่ยงมาก ที่สำคัญ มีกระแสข่าวว่า งานนี้จะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมอยู่ภายในงาน ไม่แน่ใจว่าจะมาในรูปแบบใด อย่างไรก็ตาม ทางประชาคมกังวลว่าจะมีการโฆษณาแฝงภายในงานครั้งนี้ ซึ่งหากมีการดำเนินการจริงจะเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 32 ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่การจัดงานกาชาดจังหวัดน่าน ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทั้งๆ ที่เป็นงานกาชาดกลับมีผู้ใหญ่บางคนประกาศชัดว่าจะอนุญาตให้มีการจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ซึ่งหากปฏิบัติจริงๆ จะผิดกฎหมายมาตรา 27,31 ในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ที่ห้ามมีการจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสวนสาธารณะ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“เรื่องนี้ นพ.คณิต ตันติศิริวิทย์ หัวหน้าศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน เตรียมทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดน่านในอีก 2-3 สัปดาห์นี้ เพื่อยื่นข้อเสนอไม่เห็นด้วยกับการจัดงานที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อีกทั้งจะทำหนังสือชี้แจงข้อกฎหมายที่ห้ามจำหน่ายหรือดื่มสุราในสวนสาธารณะ ซึ่งสถานที่จัดงานกาชาดครั้งนี้ เป็นสวนสาธารณะ หากมีการละเมิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเข้าจับกุม และที่สำคัญภายในงานมีการแอบจำหน่ายสุรา และอาจมีโฆษณาแฝง เพราะที่ผ่านมาการจัดงานกว่าง ที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน มีการละเมิดให้จำหน่ายสุราภายในบริเวณงาน แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม จึงไม่อยากให้การจัดงานครั้งใหม่ซ้ำรอยเดิมอีก” นพ.พงษ์เทพ กล่าว
นพ.พงษ์เทพ กล่าวอีกว่า ไม่ว่าจะจัดงานประเภทใดหากปลอดเหล้า ล้วนส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตทั้งสิ้น เพราะจากผลสำรวจงานแข่งขันเรือปลอดเหล้า มีผู้ร่วมงานที่ดื่มสุราจนได้รับอุบัติเหตุ ในปี 2549 มีจำนวน 96 ราย ขณะที่ปี 2552 ซึ่งมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องทำให้ยอดบาดเจ็บลดลงเหลือเพียง 18 ราย หรือลดลงถึง 80% นอกจากนี้ยอดคนนอนโรงพยาบาลยังลดลงอีก 60% ส่วนสถิติคนผู้สียชีวิตปี 2549 พบ 2 ราย ปี 2550 พบ 1 ราย และปี 2551 และ2552 ไม่พบผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียว ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากการดื่มสุราและก่อเหตุทำร้ายร่างกาย
ด้านนพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า ได้มีการทักท้วงการจัดงานที่จะมีการจำหน่ายหรืออนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ว่าฯ เป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งโดยส่วนตัวไม่เห็นด้วย แต่ด้วยความที่เป็นแพทย์ ไม่ว่าจัดงานประเภทใดก็ต้องมีการร่วมด้วยในส่วนของการจัดตั้งหน่วยบริการสุขภาพ เพื่อดูแลสุขภาพของคนที่เข้าร่วมงาน และยังเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่หากจะให้ไปร่วมกิจกรรมอื่นๆ กับงานที่มีการจำหน่ายหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คงไม่สามารถร่วมด้วยได้