“สันติบาล” ลั่น หนังหน้าใดเผยแพร่ “นช.แม้ว” หมิ่นฟ้าต่อผิด 2 เด้ง

สันติบาล ชี้ “ทักษิณ” ผีเจาะปากเปราะหมิ่นเบื้องสูงเกิดนอกประเทศ ไม่มีอำนาจจัดการ ระบุ บัวแก้วต้องจี้ตรวจสอบ 2 ประเด็น “พูดจริงหรือไม่-คำแปลถูกต้องหรือไม่” ย้ำ มีคณะทำงานเกาะติดคดีหมิ่นอยู่แล้ว ยังไม่มีรายงานคนใดนำต้นฉบับ “แม้ว” สำรอกหมิ่นฟ้าไปเผยแพร่ต่อ ขู่ใครนำบทสัมภาษณ์แม้วแปลแจกต่อมีความผิด 2 กระทง

วันนี้ (11 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางไทมส์ออนไลน์ หมิ่นสถาบัน ว่า กรณีนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกประเทศ ทางสันติบาลไม่มีอำนาจในการเข้าไปดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งมีเพียงกระทรวงการต่างประเทศที่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ โดยกระทรวงการต่างประเทศต้องไปตรวจสอบ 2 ประเด็น คืออย่างแรกต้องดูว่ามีการพูดจริงหรือไม่ ประเด็นที่ 2 คำแปลที่แปลออกมานั้นถูกต้องหรือไม่ หาก ทางกระทรวงการต่างประเทศพบว่ามีการกระทำความผิดต้องส่งเรื่องให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เช่น ตำรวจ อัยการสูงสุด

ผบช.ส.กล่าวว่า ขณะนี้สันติบาลกำลังตรวจสอบว่ามีการนำบทสัมภาษณ์และคำแปลดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อหรือไม่ ซึ่งขณะนี้มีคณะกรรมการตรวจสอบคดีหมิ่นสถาบัน ของ ตร.เกาะติดตรวจสอบอยู่ตลอด แต่จนถึงขณะนี้เท่าที่รายงานเข้ามายังไม่พบว่ามีการนำมาเผยแพร่ต่อ หากตรวจสอบว่าต้นฉบับเข้าข่ายหมิ่น ผู้ที่แปลแล้วนำมาเผยแพร่ต่อก็จะมีความผิดด้วย

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะแปลบทสัมภาษณ์ดังกล่าวแล้วแจกจ่ายนั้น ผบช.ส.กล่าวว่า หากบทสัมภาษณ์ต้นฉบับเข้าข่ายหมิ่น แล้วมีคนเอามาแปลตามนั้นและเอามาเผยแพร่ บุคคลนั้นก็มีความผิด ทั้งหมิ่น และเผยแพร่

ด้าน พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบก.อก.บช.น.ในฐานะ ผู้ช่วยโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงกรณีนายสมชาย แสวงการ นายวรินทร์ เทียมจรัส 2 สว.สรรหา พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช.และ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ ในฐานะตัวแทนกลุ่มสยามสามัคคี เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) ว่า ได้แบ่งเป็น 2 คดี คือ ตามเลขคดีที่ 494/2552 แจ้งดำเนินคดีกับ นายใจ อึ๊งภากรณ์ และเว็บไซต์เรดสยามดอทเน็ต (www.redsiam.net) มีโทษจำคุก 3-15 ปี และเลขคดีที่ 495/2552 แจ้งดำเนินคดีข้อหาเดียวกันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เว็บไซต์ไทมส์ออนไลน์ และ นายริชาร์ด ลอยด์ แพร์ร บรรณาธิการข่าวเอเชียของไทมส์ออนไลน์

พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน โดย สน.ดุสิต จะส่งเรื่องให้ ผบช.น.ภายใน 3 วัน โดยทาง ผบช.น.จะมอบหมายให้ รอง ผบช.น.ซึ่งทำหน้าที่รับผิดชอบงานสอบสวน หรือดูแลพื้นที่ บก.น.1 ดูแล หากพบว่าสมควรสั่งไม่ฟ้อง ก็ให้เสนออัยการ หากสมควรสั่งฟ้อง แต่หลักฐานไม่พอก็หาเพิ่มเติม แต่หากเห็นว่าหลักฐานเพียงพอก็สามารถส่งฟ้องอัยการได้เลยหากเห็นด้วย ซึ่งต้องกำหนดให้ชัดเจน โดยในส่วนนี้ต้องมีการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญให้ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร จากทั้งกระทรวงไอซีที สันติบาล กองการต่างประเทศ และผู้ชำนาญงาน

พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคเพื่อไทย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายประสบสุข บุญเดช รองประธานรัฐสภา และประธานวุฒิสภา กับ นายพิฑูรย์ พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในฐานะเลขาธิการรัฐสภา ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในฐานะเลขาธิการรัฐสภา ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้น เรื่องนี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานส่งให้ ป.ป.ช.ใน 30 วัน เพื่อตรวจสอบว่ามีความผิดหรือไม่