xs
xsm
sm
md
lg

แพทยสภาชี้ “แจ๊ค สุขารมณ์” ทำเสื่อมเสีย! โทษอาจถึงขั้นพักใช้ใบอนุญาต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แพทย์ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ทำเสื่อมเสียชื่อเสียงหมออย่างหนัก ถือว่าผิด พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม โทษอาจถึงขั้นพักใช้ใบอนุญาต จี้ผู้เสียหายร้องทุกข์ เอาผิด หากมาร้องเรียนจะนำเรื่องเข้าอนุกรรมการจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมหาข้อเท็จจริง

จากกรณี น.ส.อัญชลิตา เรืองโรจน์ เลขานุการ ถูก นพ.พรเดชา หรือแจ๊ค สุขารมณ์ ลูกชาย นพ.เดชา สุขารมณ์ และเป็นอดีตนักร้องชื่อดัง ทารุณทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมบังคับให้รับสารภาพว่าโกงเงินคลินิก “เอ็นวี่” ของตัวเองไป ก่อนถูกนำตัวไปกักขังหน่วงเหนี่ยวเอาไว้ในโรงพยาบาลเดชา แต่ภายหลังเจ้าตัวหลบหนีออกมาได้ ก่อนเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี และเข้าร้องเรียนนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีนั้น

ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า ผู้เสียหายสามารถร้องเรียนต่อแพทยสภาเพื่อให้เอาผิดกับแพทย์คนดังกล่าวได้ เนื่องจากถือว่ากระทำความผิดตามมาตรา 31 ของ พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ที่กำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับแพทยสภา ซึ่งกรณีนี้เข้าข่ายผิดข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2549 ฐานกระทำการเป็นเหตุให้เกิดการเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ

“หากแพทย์กระทำความผิดตามที่มีการกล่าวอ้างจริง ถือเป็นการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก อาจต้องรับโทษถึงขั้นพักใช้ใบอนุญาต จึงอยากให้ผู้เสียหายมาร้องทุกข์กับแพทยสภา เพื่อเอาผิด ส่วนจะถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตหรือไม่ต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ว่ากระทำการด้วยอารมณ์ชั่ววูบหรือมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ซึ่งที่ผ่านมาแพทยสภาเคยพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตในกรณีที่แพทย์ฆ่าคนตาย และในแต่ละปีแพทยสภาได้รับการร้องเรียนในลักษณะที่แพทย์กระทำการให้เกิดการเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่จำนวนไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการด่าทอหรือทะเลาะวิวาทกับเพื่อนร่วมงาน แพทยสภาก็ได้พิจารณาลงโทษไปตามความเหมาะสม”ศ.นพ.สมศักดิ์กล่าว
ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ขั้นตอนดำเนินการของแพทยสภาเมื่อผู้เสียหายยื่นเรื่องร้องเรียน จะส่งเรื่องให้อนุกรรมการจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมหาข้อเท็จจริง ก่อนจะสรุปผลเสนอต่อคณะกรรมการแพทยสภา หากพบว่ามีมูล จะส่งเรื่องต่อให้กับอนุกรรมการสอบสวน ทำการสอบสวนและเสนอเรื่องกลับมายังคณะกรรมการฯเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด ซึ่งผู้ที่กระทำความผิดจริงจะได้รับโทษตั้งแต่ ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาตมีกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควรแต่ไม่เกิน 2ปี และเพิกถอนใบอนุญาต

กำลังโหลดความคิดเห็น