กทม.พร้อมใช้งบกว่า 100 ล้านบาท สร้างศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติชายทะเลบางขุนเทียน แบบครบวงจรมีที่พัก มีลานกิจกรรม มีเส้นทางจักรยาน แต่ต้องเร่งเจรจาเจ้าของพื้นที่ สพฐ.ในการใช้ประโยชน์ร่วมกันหวั่นสูญเงินเปล่าสร้างแล้ว กทม.ใช้ไม่ได้ ขณะเดียวกัน ที่ประชุมผู้บริหารเห็นชอบสร้างอาคารและหลักเขตกรุงเทพมหานครที่ 28 ที่ตั้งอยู่ในทะเลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและท่าเทียบเรือแห่งใหม่
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า ที่ประชุมคณะผู้บริหารได้เห็นชอบในหลักการโครงการก่อสร้างศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติชายทะเลบางขุนเทียน ประกอบด้วย ส่วนแรกเป็นส่วนอาคารศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติชายทะเลบางขุนเทียน บริเวณโรงเรียนพิทยาลงกรณ์พิทยาคม พื้นที่ 10.75 ไร่ ที่มีส่วนจัดแสดงนิทรรศการ สำนักงานบริหาร ลานกิจกรรมอเนกประสงค์ ห้องบรรยายให้ความรู้ความจุ 100 คน ห้องสมุดวิชาการ ส่วนจัดแสดงบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีธรรมชาติ ส่วนบริการอื่นๆ
โดยมีเส้นทางจักรยานสู่ศูนย์ 1,950 เมตร ประกอบด้วย ศาลาสื่อความหมาย 4 จุด มีที่สำหรับกางเต็นท์พักแรม ห้องน้ำ ห้องพัก และส่วนที่สองเป็นเส้นทางจักรยานและทางเดินไม้เพื่อศึกษาธรรมชาติยื่นลงไปในทะเล 2 กิโลเมตร พร้อมสถานีศึกษา 10 สถานี ซึ่งสุดท้ายจะมีท่าเรือท่องเที่ยว
โดยงบประมาณในการก่อสร้างทั้งหมด จำนวน 113 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 360 วัน ซึ่งกทม.ทำประชาพิจารณ์กับประชาชนในพื้นที่แล้วและได้รับความเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการจัดสรรงบประมาณควรที่จะเจรจากับสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพราะทางเข้าออกสถานที่เป็นพื้นที่ของโรงเรียนในสังกัด สพฐ.เพื่อป้องกันปัญหาในการเข้าใช้บริการในศูนย์ดังกล่าวของประชาชน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการโครงการก่อสร้างอาคารและหลักเขตกรุงเทพมหานครที่ 28 ซึ่งเป็นหลักเขตที่แบ่งรอยต่อเขตบางขุนเทียน กทม.และจังหวัดสมุทรปราการ และหลักเขตที่ 29 ติดต่อกับจังหวัดสมุทรสาคร (หลักเขตติดตั้งริมถนนพระรามที่ 2) ที่ปัจจุบันน้ำทะเลได้กัดเซาะชายฝั่งทำให้หลักเขต กทม.ที่เคยอยู่บนบกต้องไปอยู่ในทะเล ห่างจากชายฝั่งออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยลงเรือจากท่าเรือวัดประชาบำรุงใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที
แต่หากลงเรือจากท่าเรือคลองพิทยาลงกรณ์จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที เมื่อเดินทางถึงหลักเขต ไม่สามารถขึ้นชมวิวได้ เพราะหลักเขตตั้งอยู่บนแท่นขนาดเล็ก ซึ่งนั่งเรือชมได้โดยรอบเท่านั้น
โดยบริเวณที่จะก่อสร้างอาคารและหลักเขตอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของ กทม.เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ชั้นที่ 1 มีพื้นที่ใช้สอย 106 ตารางเมตร ชั้นที่ 2 มีพื้นที่ใช้สอย 23 ตารางเมตร รวมพื้นที่ใช้สอย 203 ตารางเมตร ชั้นดาดฟ้ามีพื้นที่ใช้สอย 74 ตารางเมตร งบประมาณก่อสร้าง 99,271,000 บาท ซึ่งเมื่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถส่งเมริมการท่องเที่ยวใช้เป็นสถานที่พักผ่อนชมวิวบนอาคาร รวมทั้งเป็นท่าเทียบเรือท่องเที่ยว และต่อเรือเดินทางไปยังภาคตะวันออก คือ พัทยา ได้ ภายใน 4 ชั่วโมง
อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพราะผู้ที่มาเที่ยวชมจะได้ข้อเตือนใจกลับไปและทำให้เกิดความรู้สึกที่ว่าจะต้องปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างไรไม่ให้ถูกทำลาย อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนต่อไป กทม.จะเปิดประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของประชาชนและกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ที่ประชุมขอให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าในการประชุมคณะกรรมการด้านผังเมือง สิ่งแวดล้อม ศิลปวัฒนธรรม และการจราจร ซึ่งมี ดร.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธานศึกษารายละเอียดอีกด้วย