xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ไฟเขียวตั้ง 19 อาชีวะ หวังเป็นฮับ ร.ร.สายอาชีพอาเซียนใน 6 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.ศึกษาธิการ
ครม.เห็นชอบ ตั้ง 19 สถาบันการอาชีวศึกษา เน้นใช้ทรัพยากร บุคคล งบ เครื่องมือร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เดินหน้าสู่สถาบันเฉพาะทางสายอาชีพแห่งประชาคมอาเซียนใน 6 ปี “จุรินทร์” ย้ำมุ่งสู่การเรียนการสอนแนวปฏิบัติ เปลี่ยนเยาวชนไทยหันมาเรียนสายอาชีพเพิ่มขึ้น ตอบสนองการพัฒนากำลังของประเทศ พร้อมมอบ “นริศรา” เร่งทำกรอบ TQF รายสาขาวิชาเพื่อมาตรฐานการสอน


วันนี้ (3 พ.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามกฎกระทรวง ซึ่ง ศธ.เสนอเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551 ในมาตรา 13 ที่กำหนดให้วิทยาลัยอาชีวศึกษาต้องรวมกลุ่มกันเป็นสถาบัน ปัจจุบันมีสถานศึกษาอาชีวะอยู่ทั่วประเทศทั้งสิ้น 414 แห่ง โดยระบุให้รวมเป็นสถาบันการอาชีวศึกษาทั้งหมด 19 แห่ง เชื่อมโยงกับกลุ่มจังหวัดบูรณาการ ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และแผนพัฒนาการศึกษากลุ่มจังหวัด โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ 1.เพื่อให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ทั้งบุคลากร งบประมาณ เครื่องมือเครื่องใช้ และกลไกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ 2.เพื่อให้เดินไปสู่การเป็นสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ในการดำเนินการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันการศึกษาสายอาชีพเพื่อให้ก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2015 และให้สถาบันเป็นหลักสำคัญในการเรียนการสอนแบบทวิภาคีอย่างเต็มรูปแบบ

อย่างไรก็ตาม สถาบันที่จะจัดตั้งขึ้นนี้จะมีความแตกต่างกับมหาวิทยาลัยทั่วไป เพราะ มหาวิทยาลัยทั่วไปมุ่งเน้นวิชาการเป็นหลัก แต่สถาบันอาชีวฯ จะมุ่งการปฏิบัติ 70-75% คือฝึกปฏิบัติตามสถานประกอบการ ภาคอุตสหกรรม การบริการ โดยเน้นวิชาการ 25-30% เพื่อให้มีความชัดเจน และเป็นเป้าหมายหลักไปสู่การส่งเสริมเยาวชนไทยให้หันมาสนใจสายอาชีพมากขึ้น เพื่อสนองตอบความต้องการการพัฒนากำลังคนภาคอุตสาหกรรม การเกษตร การบริการ ของประเทศต่อไป

“ถัดจากนี้ไป ศธ.จะไปพิจารณาว่าสถาบันที่จะจัดตั้งขึ้นนี้ในเบื้องต้นจะดำเนินการจัดตั้งกี่สถาบัน ก่อนจะดำเนินการจนครบ 19 สถาบัน ซึ่งทางได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เป็นผู้ไปดูรายละเอียด ก่อนดำเนินการตามแผนต่อไป” รมว.ศธ.กล่าว

เมื่อถามว่าในปีการศึกษาหน้าสถาบันที่จัดตั้งขึ้นจะเปิดถึง ป.ตรี ได้หรือไม่นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับ ป.ตรีเป็นประเด็นหลัง แต่เนื้อหาสำคัญของการรวมสถาบันจะเป็นการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนจะสอนป.ตรี หรือไม่อย่างไรนั้นให้อยู่ที่ความพร้อม ความเหมาะสมของแต่ละแห่ง ถ้าที่ไหนพร้อมก็เปิดได้ นอกจากนี้ตนได้มอบให้ น.ส.นริศรา ชวารตันพิพัทธ์ รมช.ศธ.ให้เร่งทำกรอบคุณวุฒิวิชาชีพ หรือ TQF ของอาชีวะ โดยทำแยกย่อยของแต่ละสาขาวิชาที่จะสอน เมื่อได้แล้วสาขาวิชานั้นๆ ก็ต้องทำให้ได้ตามาตรฐานของ TQF ด้วย

สำหรับสถาบันการอาชีวศึกษา 19 แห่ง มีดังนี้ สถาบันการอาชีวศึกษากรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย สถานศึกษาอาชีวศึกษาที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ 21 แห่ง, สถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 1 ประกอบด้วย สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี รวม 19 แห่ง, สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคกลาง 2 ประกอบด้วย สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี และอ่างทอง รวม 18 แห่ง, สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคกลาง 3 ประกอบด้วยสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก และสมุทรปราการ รวม 21 แห่ง, สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคกลาง 4 ประกอบด้วย สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี และสุพรรณบุรี รวม 25 แห่ง สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคกลาง 5 ประกอบด้วยสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวม 17 แห่ง

สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคใต้ 1 ประกอบด้วย สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง รวม 30 แห่ง สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคใต้ 2 ประกอบ ด้วยสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง รวม 23 แห่ง , สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคใต้ 3 ประกอบด้วย สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 26 แห่ง, สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคกลางตะวันออก ประกอบด้วยสถานศึกษา ที่ตั้งอยู่ใน จ.จันทบุรี ชลบุรี ระยอง และตราด รวม 20 แห่ง

สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 ประกอบด้วย สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.หนองคาย เลย อุดรธานี และหนองบัวลำภู รวม 20 แห่ง, สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ประกอบด้วย สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.นครพนม มุกดาหาร สกลนคร รวม 9 แห่ง, สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 ประกอบด้วย สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ รวม 31 แห่ง, สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 ประกอบด้วยสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร และอุบลธานี รวม 20 แห่ง, สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 ประกอบด้วยสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.สุรินทร์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และชัยภูมิ รวม 31 แห่ง

สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคเหนือ 1 ประกอบด้วย สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน รวม 20 แห่ง สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคเหนือ 2 ประกอบด้วย สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.น่าน พะเยา เชียงราย และแพร่ รวม 22 แห่ง, สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคเหนือ 3 ประกอบด้วย สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.ตาก พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ รวม 25 แห่ง และสถาบันการอาชีวศึกษา ภาคเหนือ 4 ประกอบด้วย สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใน จ.กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี รวม 17 แห่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น