“เสธ.หนั่น” เรียกประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่หารือป้องกันหวัด 2009 สกัดระบาดหนักฤดูหนาว 2 พ.ย.นี้ ขณะที่สถานการณ์ระบาดในไทยยังคงตัว อัตราป่วย 41.1% ต่อแสนประชากร ยันป่วยจังหวัดละไม่เกิน 10 คน ป่วยมากที่สุด จ.ขอนแก่น-สุพรรณบุรี แถมป่วยครบแล้วทุกจังหวัด แต่ยังไม่ครบทุกอำเภอ
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ สธ.เพื่อทบทวนสถานการณ์การระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้งระบบเฝ้าระวังโรค การดูแลรักษาผู้ป่วย มาตรการทางสังคม และการบริหารจัดการสู่การปฏิบัติ ให้พร้อมรับมือการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่อาจระบาดในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากขณะนี้ในต่างประเทศมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น
โดยพญ.วรรณา หาญเชาว์วรกุล สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค สธ.กล่าวในที่ประชุม ว่า แนวโน้มการระบาดในประเทศเทศไทยมีการชะลอตัวและคงที โดยในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกจังหวัดมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยืนยันจังหวัดละไม่ถึง 10 ราย จัดอยู่ในเกณฑ์การระบาดปากกลาง มีอันตราป่วยคิดเป็นร้อยละ 41.4 ต่อแสนประชากร โดยจังหวัดที่มีผู้ป่วยมากที่สุด คือ จ.ขอนแก่น และ สุพรรณบุรี อย่างไรก็ตาม มีรายงานพบผู้ป่วยแล้วทั้ง 76 จังหวัด แต่ยังไม่ครบทุกอำเภอ โดยมี 54 อำเภอ ยังไม่พบรายงานผู้ป่วย คิดเป็นร้อยละ 5 ของอำเภอทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอำเภอที่อยู่ในเขตชายแดน มีจำนวนประชากรไม่มาก โดยข้อมูลล่าสุด ไทยมีผู้ป่วยยืนยันแล้ว 28,300 คน
นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้คาดว่า แนวโน้มการระบาดในประเทศไทย น่าจะเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูหนาว เนื่องจากเชื้อไวรัสจะมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้นเพราะอุณหภูมิเย็นตัวลง จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด สธ.เตรียมรับมือการระบาดอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่น่าห่วง เพราะยังไม่พบการกลายพันธุ์หรือดื้อยาแต่อย่างใด ซึ่งสธ. ได้กระจายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ไปยังโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศแล้วจำนวน 12 ล้านเม็ด รองรับผู้ป่วยได้ราว 1 ล้านกว่าคน
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ เวลา 10.00 น. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและค วบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ จะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือกับการระบาดที่จะเกิดขึ้น ส่วนในสัปดาห์หน้า จะประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อร่วมลงนามในโครงการความร่วมมือที่จะให้นักศึกษาแพทย์ และวิชาชีพสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยแพทย์ต่างๆ ได้ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ภาคประชาชนเพื่อกระตุ้นเตือนเรื่องการป้องกันและรักษาโรคนี้ ซึ่ง สธ.จะสนับสนุนการทำงานในระดับพื้นที่โดยทำงานร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมเสริมสุขภาพ (สสส.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต่างๆ ในการขับเคลื่อนให้ความรู้กับประชาชน และได้มอบหมายให้ปลัด สธ.เตรียมตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยให้รองปลัด สธ.เป็นประธาน
“ไม่ห่วงว่าหากมีการระบาดของไข้หวัด 2009 ในช่วงฤดูหนาวจะทำให้กระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะโรคไข้หวัด 2009 เป็นโรคที่มีการระบาดทั่วโลก และคนทั่วโลกรู้จักกับโรคนี้ดีแล้ว ภูมิภาคเอเชียมีการเตรียมความพร้อมการป้องกันและรักษาโรคเป็นอย่างดีอยู่แล้ว” นายวิทยา กล่าว
ด้านนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้ให้หน่วยงานต่างๆ ปรับปรุงใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1.การประชาสัมพันธ์ ให้ปรับปรุงการให้ความรู้ประชาชน เน้นหนักในประเด็นคำแนะนำประชาชนควรพบแพทย์ เพื่อป้องกันการเสียชีวิต 2.ให้ปรับปรุงระบบรายงานผู้ป่วยรายวันของทุกจังหวัดเพื่อความรวดเร็วคล่องตัวในการปฏิบัติงานของต่างจังหวัด และ 3.ให้แพทย์ที่รักษาและพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 รายที่มีอาการพิเศษ นอกเหนือจากที่ระบุในคู่มือแนวทางการปฏิบัติดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ส่งข้อมูลให้ฝ่ายวิชากร เพื่อให้ฝ่ายวิชาการปรับปรุงคู่มือให้ทันการ