xs
xsm
sm
md
lg

“หมอวิชัย” แย้มได้หลักฐานใหม่โกง “ไทยเข้มแข็ง” เป็นลายเซ็นคำสั่้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.วิชัย โชควิวัฒน
“หมอวิชัย” แย้มได้หลักฐานจับโกง “ไทยเข้มแข็ง” ใหม่ล่าสุด มีทั้งลายเซ็นคำสั่งครบ เอาผิดได้แน่ มั่นใจใน 1 เดือน เรียกนักการเมือง ขรก.ชั้นผู้ใหญ่ทั้งอดีตและปัจจุบันมาให้ข้อมูลแน่นอนได้

วันนี้ (28 ต.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.วิชัย โชควิวัฒน เลขานุการและกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนว่า คณะกรรมการได้ประชุมไปแล้ว 4 ครั้ง มีการเรียกสอบพยานไปแล้ว 6 ราย โดยในวันนี้ (28 ต.ค.) จะเป็นการให้ปากคำของเจ้าหน้าที่สำนักบริหารสาธารณสุขภูมิภาค (สบภ.) จำนวน 2 ราย โดย 1 ราย เป็นการสอบปากคำที่ตกค้างมาจากเมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) ซึ่งขณะนี้ได้รับข้อมูลที่เป็นเอกสารที่มาเพียงพอแล้ว แต่ยังต้องมีการสอบบุคคลเพิ่มเติมให้ครบ จำนวน 16 ปาก ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงรายการครุภัณฑ์ตามที่มีข้อร้องเรียน 6 รายการ ที่มี นพ.เสรี หงษ์หยก รองปลัด สธ.เป็นประธาน โดยคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลที่ตั้งขึ้น 2 ชุด อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นจำนวนมาก และมีคุณลักษณะเฉพาะเทคนิคสูง ทำให้ต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลนาน แต่ได้มีการประชุมข้อมูลกันตลอดเวลา

“การตรวจสอบเพียง 1 เดือน อาจจะได้ข้อสรุปเพียงเบื้องต้นเท่านั้น แต่เชื่อว่า จะได้หลักฐานพยานที่ชัดเจน ซึ่งขณะนี้ได้เอกสารเพิ่มเติมจำนวนไม่น้อย แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์รายละเอียดอยู่ ซึ่งคณะกรรมการได้ตั้งธงให้คณะอนุกรรมการให้เป็นแนวทางในการสวบสวน ให้ทุกฝ่ายเร่งรัดการทำงานให้รวดเร็วที่สุด แต่ถ้าจะให้ได้คุณภาพต้องให้เวลามากกว่านี้” นพ.วิชัย กล่าว

เมื่อถามว่า เอกสารที่ได้เพิ่มเติมมีหลักฐานเป็นลายเซ็น หรือหนังสือคำสั่ง ที่จะเอาผิดถึงผู้ดำเนินการได้หรือไม่ นพ.วิชัย กล่าวว่า หลักฐานที่ได้มามีทุกอย่างทุกประเภท แต่ให้เวลาคณะกรรมการได้วิเคราะห์ข้อมูลก่อน

ต่อข้อถามว่า นพ.สุชาติ เลาบริพัตร อดีตผู้อำนวยการ สบภ.ระบุว่า คณะกรรมการไม่ซักถามถึงนักการเมืองที่เกี่ยวข้องเลย นพ.วิชัย กล่าวว่า การสอบสวนพยานบุคคลได้ทำตามหลักฐานและประเด็นที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการไม่ได้ตีกรอบว่า จะต้องสอบสวนเฉพาะใคร กลุ่มใด ซึ่งการให้ความเห็นของใครคนใดคนหนึ่งเกี่ยวกับการสอบสวนทั้งหมด เปรียบเสมือนกับตาบอดคลำช้าง จึงขอให้รอดูผลการสรุปของคณะกรรมการดีกว่า อย่าพึ่งวิเคราะห์ไปล่วงหน้า

“การสอบสวนมีการบันทึกเสียงในการประชุมทั้งหมด และมีเจ้าหน้าที่ทำการถอดเทปการประชุมทุกครั้ง ทำให้มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการระบุถึงใครบ้าง คณะกรรมการให้ความสำคัญกับเอกสาร พยานวัตถุหลักฐานมากกว่า เพราะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงได้ ส่วนพยานบุคคล เป็นการให้ถ้อยคำเพื่อยืนยันตามเอกสารข้อเท็จจริงเท่านั้น” นพ.วิชัย กล่าว

ต่อข้อถามว่า มีการพาดพิงถึงนักการเมือง อดีตข้าราชการะดับสูงของ สธ.หรือไม่ นพ.วิชัย กล่าวว่า ไม่ขอกล่าวถึง คงต้องรอการสอบสวนให้ถึงที่สุดก่อน โดยจากการสอบสวนพยานบุคคลไปแล้ว 6 คน ส่วนใหญ่ให้การสอดคล้องกัน ซึ่งคณะกรรมการมีการศึกษาข้อมูลการล่วงหน้าอยู่แล้ว อย่างไรก้ตาม ไม่สามารถบอกได้ล่วงหน้าว่าจะเชิญใครมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม เพราะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่ต้องตรวจสอบคู่ขนานกับหลักฐานเอกสาร แต่หากมีหลักฐานชัดเจนว่าพาดพิงถึงใคร ทั้งนักการเมือง ข้าราชการผู้ใหญ่ ข้าราชการเกษียณอายุ ก็จะเชิญมาให้ถ้อยคำด้วยในลำดับต่อๆ ไป

“เชื่อว่า เวลาตรวจสอบภายใน 1 เดือน จะสามารถเชิญผู้ถูกพาดพิงทั้งนักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และข้าราชการเกษียณอายุมาให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการอย่างแน่นอน แต่ในขณะนี้จะเน้นการสอบสวนจากพยานทั้ง 16 ปากที่อยู่ในรายงานสรุปผลการตรวจสอบขอคณะกรรมการฯ ชุดนพ.เสรี เป็นประธานก่อน” นพ.วิชัย กล่าว

นพ.วิชัย กล่าวอีกว่า ยืนยันว่า คณะกรรมการได้ทำงานตรวจสอบอย่างปลอดโปร่ง เป็นอิสระ คล่องตัว ไม่มีการกดดันจากทางการเมือง ทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดี โดยเฉพาะผู้เข้าให้ถ้อยคำ คณะกรรมการได้เชิญมาให้ข้อมูลอย่างกะทันหัน แต่ทุกคนก็ไม่ปฏิเสธ โดยเฉพาะ นพ.สุชาติ เลาบริพัตร อดีตผู้อำนวยการ สบภ.ที่ติดต่อได้ยากมาก ปิดมือถือตลอด แต่ก็สามารถติดต่อให้มาให้ถ้อยคำได้


กำลังโหลดความคิดเห็น