ปลัด สธ.ย้ำชัดๆ ยังไม่สั่งเครื่องมือแพทย์ในโครงการไทยเข้มแข็ง ตามข้อเสนอของกรรมการตรวจสอบชุด นพ.บรรลุ เป็นประธาน ยันต้องผ่านการตรวจสอบจาก สธ.ก่อน เพื่อความโปร่งใส หวั่นถูกโจมตีหากสั่งเดินหน้าต่อ
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โครงการไทยเข้มแข็ง ของกระทรวงสาธารณสุข เสนอให้สธ.สั่งเดินหน้าโครงการไทยเข้มแข็งให้มีการจัดซื้อครุภัณฑ์ในรายการที่ไม่มีปัญหาได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้กระบวนการตรวจสอบเสร็จสมบูรณ์ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรค์ในการดำเนินการ ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดและข้อเสนอแนะดังกล่าว และ นพ.วิชัย โชควิวัฒน เลขานุการและกรรมการ ยังไม่มีการประสานหรือติดต่อมายังตนแต่อย่างใด โดยในเบื้องต้น สธ.ยืนยันว่า ยังจำเป็นต้องมีการตรวจสอบและทบทวนรายละเอียดครุภัณฑ์ทางการแพทย์ในโครงการไทยเข้มแข็งก่อน เพื่อให้เกิดความโปร่งใสที่สุด ซึ่งในส่วนของ สธ.เอง ก็มีคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็งของ สธ.ที่มีรองปลัด สธ.เป็นประธาน ทำหน้าที่ตรวจสอบและทบทวนโครงการอยู่ ซึ่งขณะนี้ กรรมการทุกคนอยู่ระหว่างการทบทวนข้อมูล และทำรายงานสรุปผลตรวจสอบเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ตุลาคมนี้
นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไป จะมีการนัดประชุมกรรมการ เพื่อประเมินผลการตรวจสอบดังกล่าว ว่า มีรายการครุภัณฑ์ทางการแพทย์ใดที่ผิดปกติ และจำเป็นต้องตรวจสอบต่อ ส่วนครุภัณฑ์ใดที่ไม่มีปัญหา ก็จะนำเข้าหารือร่วมกับ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณาสั่งเดินหน้าโครงการต่อไป เพื่อไม่ให้ล่าช้า เพราะตามหลักการของโครงการไทยเข้มแข็ง ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะพัฒนาระบบสาธารณสุขไทย
“การสั่งเดินหน้าโครงการ ต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างผม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีนโยบายให้ชะลอโครงการ เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบแล้วเสร็จก่อน และที่สำคัญที่สุด คือ ให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งคาดว่า สธ.จะยังไม่มีการสั่งเดินหน้าโครงการในช่วงนี้อย่างแน่นอน เพราะอาจทำให้ถูกโจมตีว่าดำเนินการอย่างผิดปกติอีก” ปลัด สธ.กล่าว
นพ.วชิระ บถพิบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพวง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลโครงการไทยเข้มแข็งในความดูแลของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่ นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธาน กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า การจัดทำครุภัณฑ์ทางการแพทย์ในโครงการไทยเข้มแข็ง ได้บรรจุเครื่องมือแพทย์ที่มีสเปกค่อนข้างสูง เป็นเทคโนโลยีทันสมัย จึงทำให้มีราคาแพง และมีเครื่องมือแพทย์บางรายการที่ใกล้จะเปลี่ยนเทคโนโลยีแล้ว หาก สธ.ยังเดินหน้าจัดซื้ออยู่ก็อาจจะได้เครื่องมือที่ล้าสมัยได้ ดังนั้น จึงต้องวิเคราะห์ว่าเครื่องมือแพทย์แต่ละรายการ มีประโยชน์ สอดคล้องกับความต้องการ หรือศักยภาพของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราคากลางด้วย เพราะหากเครื่องมือใดไม่สองคล้องกับศักยภาพของโรงพยาบาล ก็ต้องปรับลดสเปกเครื่องลง ทำให้มีราคาถูกลงด้วย
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โครงการไทยเข้มแข็ง ของกระทรวงสาธารณสุข เสนอให้สธ.สั่งเดินหน้าโครงการไทยเข้มแข็งให้มีการจัดซื้อครุภัณฑ์ในรายการที่ไม่มีปัญหาได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้กระบวนการตรวจสอบเสร็จสมบูรณ์ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรค์ในการดำเนินการ ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดและข้อเสนอแนะดังกล่าว และ นพ.วิชัย โชควิวัฒน เลขานุการและกรรมการ ยังไม่มีการประสานหรือติดต่อมายังตนแต่อย่างใด โดยในเบื้องต้น สธ.ยืนยันว่า ยังจำเป็นต้องมีการตรวจสอบและทบทวนรายละเอียดครุภัณฑ์ทางการแพทย์ในโครงการไทยเข้มแข็งก่อน เพื่อให้เกิดความโปร่งใสที่สุด ซึ่งในส่วนของ สธ.เอง ก็มีคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็งของ สธ.ที่มีรองปลัด สธ.เป็นประธาน ทำหน้าที่ตรวจสอบและทบทวนโครงการอยู่ ซึ่งขณะนี้ กรรมการทุกคนอยู่ระหว่างการทบทวนข้อมูล และทำรายงานสรุปผลตรวจสอบเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ตุลาคมนี้
นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไป จะมีการนัดประชุมกรรมการ เพื่อประเมินผลการตรวจสอบดังกล่าว ว่า มีรายการครุภัณฑ์ทางการแพทย์ใดที่ผิดปกติ และจำเป็นต้องตรวจสอบต่อ ส่วนครุภัณฑ์ใดที่ไม่มีปัญหา ก็จะนำเข้าหารือร่วมกับ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณาสั่งเดินหน้าโครงการต่อไป เพื่อไม่ให้ล่าช้า เพราะตามหลักการของโครงการไทยเข้มแข็ง ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะพัฒนาระบบสาธารณสุขไทย
“การสั่งเดินหน้าโครงการ ต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างผม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีนโยบายให้ชะลอโครงการ เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบแล้วเสร็จก่อน และที่สำคัญที่สุด คือ ให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งคาดว่า สธ.จะยังไม่มีการสั่งเดินหน้าโครงการในช่วงนี้อย่างแน่นอน เพราะอาจทำให้ถูกโจมตีว่าดำเนินการอย่างผิดปกติอีก” ปลัด สธ.กล่าว
นพ.วชิระ บถพิบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพวง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลโครงการไทยเข้มแข็งในความดูแลของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่ นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธาน กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า การจัดทำครุภัณฑ์ทางการแพทย์ในโครงการไทยเข้มแข็ง ได้บรรจุเครื่องมือแพทย์ที่มีสเปกค่อนข้างสูง เป็นเทคโนโลยีทันสมัย จึงทำให้มีราคาแพง และมีเครื่องมือแพทย์บางรายการที่ใกล้จะเปลี่ยนเทคโนโลยีแล้ว หาก สธ.ยังเดินหน้าจัดซื้ออยู่ก็อาจจะได้เครื่องมือที่ล้าสมัยได้ ดังนั้น จึงต้องวิเคราะห์ว่าเครื่องมือแพทย์แต่ละรายการ มีประโยชน์ สอดคล้องกับความต้องการ หรือศักยภาพของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราคากลางด้วย เพราะหากเครื่องมือใดไม่สองคล้องกับศักยภาพของโรงพยาบาล ก็ต้องปรับลดสเปกเครื่องลง ทำให้มีราคาถูกลงด้วย
