พิษณุโลก - รมว.สาธารณสุข แจง สสจ.17 จังหวัดเหนือ อาจทำให้เกิดความทุจริต สั่งชะลอทุกโครงการ ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งมูลค่ากว่า 8.6 หมื่นล้านบาท ระบุไม่กระทบเสถียรภาพของรัฐบาล
วันนี้ (16 ต.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาที่โรงแรมอัมรินทน์ลากูน จ.พิษณุโลก เพื่อมอบนโยบายต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหัวหน้าสถานีอนามัยทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือกว่า 700 คน ในโอกาสนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับงบประมาณของโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขว่าต้องชะลอออกไป เนื่องจากมีการทุจริตในโครงการที่มีมูลค่า 86,000 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ ออกไปชี้แจงทำความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่ของตนเอง เพื่อให้การพัฒนาประเทศโปร่งใส ปลอดขบวนการทุจริต
นายวิทยาบอกว่า นโยบายไทยเข้มแข็งได้มุ่งพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล เพื่อยกระดับศักยภาพของสถานีอนามัย ซึ่งจะต้องร่วมกันตรวจสอบการใช้งบประมาณ เพราะใช้งบประมาณดำเนินการในครั้งเดียว เป็นการพัฒนากระบวนการสาธารณสุขครั้งใหญ่ อาจทำให้เกิดความทุจริตได้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจำเป็นต้องชะลองบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง ทั่วประเทศ 86,000 ล้านบาท ในการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขทุกระดับ ทั้งการก่อสร้าง พัฒนาอาคารสถานที่จัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เครื่องมือแพทย์ เนื่องจากจะต้องตรวจสอบการทุจริตโครงการต่างๆ ของกระทรวง จนกว่าจะโปร่งใส ซึ่งหากโครงการไหนตรวจสอบเสร็จก็จะทยอยดำเนินการได้โดยงบประมาณในการพัฒนาประเทศอาจล่าช้าไปบ้าง ซึ่งตนเองจะต้องขอโทษพี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศ ซึ่งก็ถือว่าดีกว่าจะถูกโกงงบประมาณ และถ้าตรวจพบว่ามีการทุจริตของโครงการนี้ก็จะต้องดำเนินตามกฎหมายอย่างเป็นธรรม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวย้ำอีกว่า ขณะนี้ได้สั่งชะลอโครงการทั้งหมดจนกว่ากระบวนการ ตรวจสอบที่มีการเสนอชื่อบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นที่ยอมรับของสังคม คือ นายแพทย์บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธานการตรวจสอบจะได้ข้อมูลที่โปร่งใส ภายใน 2 สัปดาห์ หากพบบุคคลใดในกระทรวงสาธารณสุขที่เข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และยืนยันว่าปัญหาที่ส่อไปในทางทุจริตครั้งนี้ไม่กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
