“หมอวิชัย” แนะ สธ.ยกเลิกชะลอจัดซื้อไทยเข้มแข็ง เดินหน้าต่อไม่ต้องรอผลสอบ

“หมอวิชัย” เผยเรียก “หมอเกรียงศักดิ์-หมอศุภกิจ” ให้ถ้อยคำงาบไทยเข้มแข็ง สธ. ฉลุยได้ข้อมูลน่าพอใจ สุดมั่นขอ 1 เดือนได้ผลสรุปเบื้องต้นแน่ พร้อมตั้งทีมศึกษา วิเคราะห์สางข้อมูลอีก 3 ชุด เรียกขอเอกสารผลการสอบของ สธ.ทุกชุด คำให้การพยาน เอกสาร sp2 ทุกกรม มาพิจารณาเพิ่ม เปิดช่องทางตู้ปณ. 25 ปณฝ.สนามเป้า กทม. 10400 รับข้อมูลเพิ่มเติม ชี้ สธ.เดินหน้าโครงการฯ คู่ขนานไปได้ ไม่ต้องรอผลสอบ เพื่อประโยชน์โรงพยาบาล ประชาชน แต่ต้องโปร่งใส ถูกต้อง

วันนี้ (22 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่โรงแรมรันตโกสินทร์ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ที่มี นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธาน ได้แถลงถึงผลการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) ว่า ในการประชุมมีการเชิญผูัเกี่ยวข้อมาให้ถ้อยคำ 2 คน คือ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท และ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนย.) สธ. ซึ่งนอกจากผู้เข้ามาให้ถ้อยคำทั้ง 2 คนแล้วนั้น คณะกรรมการฯ ได้ขอเอกสารสำคัญไปยัง สธ.คือ รายงานผลการสอบของคณะกรรมการชุดของ นพ.เสรี หงษ์หยก ผู้ตรวจราชการ สธ.ที่ได้มีการสอบสวนไปแล้ว ซึ่งทาง สธ.ก็ส่งรายงานมาให้แล้ว พร้อมกับคำให้การของพยานทุกปาก พร้อมเอกสารอื่นๆ และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการ sp2 ที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานปลัด สธ.ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้กำลังประสานขอเอกสารเพิ่มเติมในส่วนของกรมอื่นๆ ด้วย เนื่องจากในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ชุดนี้นั้น นายกรัฐมนตรีได้ให้ทำการตรวจสอบในเรื่องนี้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นจึงต้องขอเอกสารของกรมอื่นมาพิจารณาด้วย อีกทั้งยังขอเอกสารข่าวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง สธ.ก็รวบรวมและส่งมาให้แล้ว

นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของผู้ที่เชิญมาให้ถ้อยคำทั้ง 2 คนนั้นทำให้ได้ข้อมูลมากพอสมควร ซึ่งมีความมั่นใจว่าน่าจะสรุปผลเบื้องต้นภายในประมาณ 1 เดือน เพราะในเอกสารที่ให้มามีจำนวนมาก และมีหลายรายการ ซึ่งได่อ่านดูแล้วส่วนใหญ่ แต่ยังไม่ทั้งหมด ทั้งนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการไปศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งตั้งไว้ 3 ชุด คือ ชุดศึกษาข้อมูลต่างๆ มี นพ.วชิระ บถพิบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพวง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลโครงการไทยเข้มแข็งในความดูแลของสำนักงานปลัด สธ.เป็นประธาน อีกชุดเป็นชุดวิเคราะห์ข้อมูลอื่นๆ มี นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย สาธารณสุขนิเทศก์ เป็นประธาน และมี ชุดผู้ช่วยเลขานุการ มี น.ส.นวลอนันต์ ตันติเกตุ ผู้อำนวยการสำนักบริหารสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นประธาน

“ทั้งหลายทั้งปวงค่อนข้างมั่นใจว่าข้อสรุปเบื้องต้นในเรื่องสำคัญๆ จะเสร็จได้ใน 1 เดือน แต่หากยังไม่จบ ก็จะพิจารณากันต่อไป ทั้งนี้เพื่อเป้นการเปิดกว้างด้านข้อมูลข่าวสาร ทางคณะกรรมการฯ จึงเปิดอีกช่้องทางหนึ่งในการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องคือ ตู้ปณ. 25 ปณฝ. สนามเป้า กทม. 10400 เพื่อให้ผู้ที่มีข้อมูลส่งมาให้เพื่อเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป” นพ.วิชัย กล่าว

นพ.วิชัย กล่าวอีกว่า เนื่องจากว่าขณะนี้ สธ.ได้สั้่งชะลอและทบทวนโครงการ ภายใต้งบ sp2 ทั้งหมด และได้ตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นตรวจสอบซึ่งนอกจากชุดของ นพ.เสรี แล้ว ยังมีคณะกรรมการฯ ชุดของ นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.เป็นประธานอีกด้วย ทำให้ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า เรื่องของการสั่งชะลอ ทบทวนในโครงการต่างๆ ก็ขอให้เป็นการดำเนินการของ สธ. และไม่จำเป็นต้องรอคณะกรรมการชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ว่าจะได้ผลสรุปออกมาอย่างไร อะไรที่มีความถูกต้อง สมควร ก็ขอให้สธ.เดินหน้าต่อไป โดยไม่ต้องรอผลสรุปจากคณะกรรมการชุดนี้ อยากให้มีการทำงานแบบคู่ขนาน ซึ่งงบประมาณ เครื่องมือ เครื่องใช้ที่ถือว่าเป็นประโยชน์ และจำเป็นจะได้ส่งถึงมือโรงพยาบาลต่างๆ และประชาชนจะได้ใช้ประโยชน์โดยเร็ว แต่โดยหลักการแล้วเมื่อ สธ. มีการทบทวนก็จะต้องทำให้สิ่งที่ถูกต้อง โปร่งใสเช่นกัน

“เครื่องมือ เครื่องใช้ ตัวไหนที่ต้องปรับราคาก็ให้ปรับราคาก่อน หรือเครื่องมือตัวไหนที่ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อก็ให้ระงับไปก่อน อย่างเครื่องแยกเม็ดเลือดอัติโนมัติที่มีราคาสูงกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งถ้ายังไม่จำเป็นก็ไม่ต้องจัดซื้อ ในส่วนอื่นๆ ก็ให้ทำไปได้เลย แต่สวนที่ทำไปแล้วแต่ไม่ถูกต้อง ผลก็ปรากฎออก และเป็นเรื่องที่กำลังสอบสวนต่อไป” นพ.วิชัย กล่าว

สำหรับการประชุมครั้งต่อไปจะมีขึ้นสัปดาห์หน้า ในวันจันทร์, อังคาร, พุธ โดยจะมีการเชิญบุคคลมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งในวันจันทร์นี้ (26 ต.ค.) จะเชิญ นพ.สุชาติ เลาบริพัตร อดีตผอ.สำนักงานสาธารณสุขภูมิภาค ซึ่งขณะนี้ถูกย้ายมายังสำนักวิชาการสาธารณสุข มาให้ถ้อยคำซึ่งเดิมที นพ.สุชาติ ได้ให้ถ้อยคำไว้กับคณะกรรมการชุด นพ.เสรี แล้วซึ่งได้เอกสารในส่วนนั้นแล้วเช่นกันแต่ก็จะมีข้อซักถามเพิ่มเติมเพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น

เมื่อถามว่าจากการให้ถ้อยคำของ นพ.เกรียงศักดิ์ และนพ.ศุภกิจ ได้พบความผิดปกติบ้างหรือไม่นั้น นพ.วิชัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ขอสรุปจะดูในส่วนของภาพรวมก่อน ซึ่งถ้อยคำต่างๆ หากสรุปก่อนอาจมีการคลาดเคลื่อนและไม่เป็นผลดี ต่อการสรุปต่อไป