รพช.รื้อครุภัณฑ์ไทยเข้มแข็งใหม่ กก.สอบเรียก “หมอสุชาติ” ซักอีกรอบ

คณะอนุฯตรวจสอบไทยเข้มแข็ง เรียก รพช.ร่วมวางกรอบเน้นกำหนดซื้อครุภัณฑ์ ตัดรายการที่ไม่จำเป็น เพิ่มรายการที่ต้องการจริง ราคากลางเหมาะสม เกลี่ยงบไทยเข้มแข็งให้คลอบคลุมทุกแห่ง ส่งให้คณะกรรมการชุดใหญ่ 30 ต.ค.นี้ ด้านคณะกรรมการชุด “หมอบรรลุ” ซักเบื้องลึก “หมอสุชาติ” เปรยข้อมูลเยอะอาจสรุปผลไม่ทัน 1 เดือน

นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.โรงพยาบาลชุมแพและประธานชมรมแพทย์ชนบท ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบรายละเอียดของโครงการพัฒนาระบบทุติยภูมิ ได้แก่ โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) ทั้งหมด และโครงการสนับสนุนเครือข่ายบริการทุกระดับอนุกรรมการ กล่าวว่า ได้จัดประชุมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน ส่วนภาคกลาง และภาคใต้ ในลักษณะประเชิงเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม ประมาณ 200 คน โดยในวันที่ 27 ตุลาคม จะมีการประชุมโรงพยาบาลจากภาคเหนือและภาคอีสาน เพื่อร่วมกันวางกรอบในการจัดทำงบประมาณภายใต้โครงการไทยเข้มแข็งด้านครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างโดยเป็นการจัดทำแผนใหม่ทั้งหมด เพื่อเปิดโอกาสให้โรงพยาบาลต่างๆ สามารถเสนอขอครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างได้ตรงความต้องการ เบื้องต้นได้วางกรอบ ดังนี้ 1.กำหนดทิศทางให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับภารกิจหน้าที่ของรพช.แต่ละแห่ง ให้มีการจัดทีมพี่เลี้ยง 2.พิจารณาข้อมูลทรัพยากรที่มีอยู่เดิม 3.ครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้างที่เสนอขอ และ 4.ระบบการตรวจสอบและการกำหนดราคากลางที่มีความเหมาะสม โดยปรับลดจากราคาเดิม

“การรับฟังความคิดเห็นของโรงพยาบาลต่างๆ เป็นสิ่งที่ สธ.ควรจะดำเนินการตั้งแต่แรก ซึ่งข้อเสนอที่จะทำสรุปไปให้นคณะกรรมการชุดนี้ สธ.จะใช้หรือไม่ก็ได้ แต่ยืนยันว่า เป็นข้อมูลชุดที่ดีที่สุด คือ ไม่สนของเก่า แต่จะทำกรอบใหม่ทั้งหมด พิจารณาความจำเป็นจริงๆ ซึ่งจะทำให้โรงพยาบาลชุมชนที่เดิมได้รับการจัดสรรงบประมาณก้อนนี้เพียง 235 แห่ง เพิ่มจำนวนครอบคลุมโรงพยาบาลชุมชนทั้งหมด 730 แห่ง ซึ่งบางแห่งอาจได้น้อยบางแห่งอาจได้มาก แต่ยืนยันสามารถที่จะอธิบายเหตุผลความจำเป็นได้”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวถึงกรณีเครื่องทำลายเชื้อโรคด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต หรือ ยูวีแฟน และเครื่องตรวจสารชีวเคมีในเลือด หรือ ออโตเมดว่า จากการหารือในที่ประชุม แทบไม่มีโรงพยาบาลใดที่มีความต้องการเครื่องมือดังกล่าวเลย แต่หากโรงพยาบาลแห่งใดที่มีความต้องการจริงๆ ก็จะพิจารณาจัดซื้อในราคาที่มีความเหมาะสมพร้อมกับให้คำแนะนำ ขณะที่มีโรงพยาบาลหลายแห่งที่อยู่ห่างไกลเสนอจัดซื้อเครื่องปั่นไฟ ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากในการใช้อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ ที่ต้องใช้ไฟฟ้า แต่ไม่มีการจัดสรรอยู่ในรายการตั้งแต่ต้นก็จะบรรจุเข้าไปด้วย ดังนั้น รายการครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างครั้งนี้อาจตัดเครื่องมือบางประเภทที่ไม่ได้อยู่ในความต้องการร่วมถึงเพิ่มรายการที่มีความเป็นใส่เข้าไปแทน หรือเครื่องมือบางชนิดมีความจำเป็นสำหรับโรงพยาบาลขนาดเล็ก แต่ไม่มีความจำเป็นในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ แต่หากมีความต้องการก็ขอให้ใช้เงินบำรุงซื้อแทน จากนั้นจะนำข้อสรุปเสนอให้กับคณะกรรมการทบทวนและพิจารณาโครงการไทยเข้มแข็งที่มีรองปลัด สธ.เป็นประธาน ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้

ด้าน นพ.วิชัย โชควิวัฒน เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการไทยเข้มแข็งของ สธ.กล่าวว่า ได้เชิญ นพ.สุชาติ เลาบริพัตร อดีตผู้อำนวยสำนักบริหารสาธารณสุขภูมิภาค (สบภ.) เข้าให้ข้อมูล เพื่อสอบถามข้อมูลในบางประเด็นที่อยู่นอกเหนือจากผลสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีครุภัณฑ์ที่มีการร้องเรียน 6 รายการ ของโครงการไทยเข้มแข็งของ สธ.ที่มี นพ.เสรี หงษ์หยก รองปลัด สธ.เป็นประธาน กอปรกับคณะกรรมการฯมีเอกสารอ้างอิงเฉพาะส่วนของสำนักงานปลัด สธ.เท่านั้น ยังไม่ได้รับเอกสารข้อมูลโครงการของกรมอื่นๆ ใน สธ.ดังนั้น จึงสอบถามกับ นพ.สุชาติ โดยตรง และในวันที่ 27 ต.ค.จะเชิญ นพ.คำรณ ไชยศิริ ผอ.สำนักงานบริหารโครงการไทยเข้มแข็ง สธ.และไม่อยากให้นำเรื่องเงื่อนไขเวลาว่าจะต้องสอบเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนมาเป็นแรงกดดัน เพราะข้อมูลรายละเอียดโครงการนี้มีจำนวนมาก เวลา 1 เดือน อาจได้เพียงผลสอบเบื้องต้นเท่านั้น