xs
xsm
sm
md
lg

“วิทยา” ชี้ “พาราฯปนลวด” เป็นชิ้นส่วนตะแกรงร่อนยา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“วิทยา” เผยผลตรวจยาพาราฯ เจอลวดชัดเจนเป็นชิ้นส่วนของแร่งตะแกรงร่อนยาก่อนอัดเม็ด สั่ง อภ.รับผิดชอบประชาชนซื้อยาล็อตมีปัญหาแล้วนำมาคืน ด้าน อย.เล็งปรับ 4,000-10,000 บาท ฐานให้มีการปนเปื้อนสิ่งแปลกปลอมในยา อภ.ประเมินความเสียหาย 1 ล้านบาท

จากกรณีที่นางแสงเดือน บ่อคำ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 1 ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ ได้ร้องเรียนว่า พบเส้นลวดอยู่ในยาแก้ปวดลดไข้พาราเซตามอล ที่ซื้อมาจากร้านขายยาในหมู่บ้าน ซึ่งยาดังกล่าวบรรจุอยู่ในซองยา โดยระบุว่า พารา จีพีโอ (PARA GPO) องค์การเภสัชกรรม และได้มีการสั่งให้นำยาพาราเซตามอลล็อตการผลิตเดือนกรกฎาคม จำนวน 1.2 ล้านเม็ด ออกจากตลาด รวมถึงสั่งโรงงานผู้ผลิตหยุดการผลิตยาดังกล่าวจนกว่าจะมีการตรวจสอบมาตรฐานโรงงานแล้วเสร็จและนำลวดที่พบในเม็ดยาไปตรวจสอบว่าเป็นชิ้นส่วนของแร่งกรองยาหรือไม่

วันนี้ (28 ต.ค.) ที่วัดพุทธปัญญา นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นลวดที่พบในยาพาราเซตามอลขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) ที่ผลิตโดยบริษัท โอสถอินเตอร์แลบบอราทอรีส จำกัด ว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ได้ส่งเจ้าหน้าที่วิศวกรรมลงไปตรวจสอบในพื้นที่แล้วค่อนข้างชัดเจนว่าลวดที่พบเป็นชิ้นส่วนของแร่งที่เป็นตะแกรงร่อนยาจริง ซึ่ง อย.จะต้องพิจารณาโทษของโรงงานต่อไป

“ผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากยาพาราเซตามอล ยี่ห้อจีพีโอ ในล็อตการผลิตเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับล็อตการผลิตที่พบลวด ผมได้สั่งเก็บยาออกจากตลาดแล้ว แต่สำหรับประชาชนที่ซื้อยาในล็อตดังกล่าวไปก่อนแล้วต้องการจำนำยามาคืน จำเป็นที่ อภ.จะต้องรับผิดชอบด้วย ทั้งนี้ ยืนยันการพบเศษลวดในยาถือเป็นครั้งแรก และในการเก็บยาในรอบการผลิตที่มีปัญหาไม่พบผู้บริโภคร้องเรียนพบเศษลวดเพิ่ม และได้มอบหมายให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ดูแลผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการบริโภคยา ส่วนการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทผู้รับจ้างผลิตยาพาราฯเป็นอำนาจของ อภ.ดำเนินการ” นายวิทยา กล่าว

ด้าน นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า โรงงานนี้ไม่ได้ผิดในแง่ของการผลิตยาที่ไม่มีคุณภาพ แต่มีความผิดตามกฎกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจีเอ็มพี ปล่อยปละละเลยให้มีสิ่งแปลกปลอมในกระบวนการผลิต มีโทษปรับตั้งแต่ 4,000-10,000 บาท และเภสัชกรผู้ควบคุมการผลิตจะได้รับโทษปรับ 2,000-5,000 บาท อย่างไรก็ตาม อย.ได้แจ้งให้โรงงานปรับปรุงมาตรฐานตามคำแนะนำแล้ว จากนี้หากโรงงานปรับปรุงแล้วเสร็จและแจ้งมายัง อย.จะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ถ้าผ่านมาตรฐานก็สามารถเปิดโรงงานผลิตต่อไปได้

นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ขณะนี้รอหนังสือผลสอบความเสียหายจากกรณีพบเศษลวดในยาพาราฯ จากทาง อย.อย่างชัดเจนก่อน จากนั้นจะมอบให้กองนิติการของ อภ.พิจารณาดูสัญญาที่ทาง อภ.ทำกับ บริษัท โอสถอินเตอร์ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนขณะนี้ คือ การเรียกยากลับทั้งหมด ซึ่งทางบริษัทต้องรับผิดชอบ เบื้องต้นประมาณการความเสียหายจากการเรียกเก็บยาประมาณเกือบ 1,000,000 บาท ส่วนการพิจารณาในแง่อื่นๆนั้น จะดำเนินไปด้วยความเป็นธรรม ส่วนยอดการจำหน่ายยาพาราฯของ อภ.ลดลงหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นยังอยู่ในเวลาอันสั้น อีกทั้งยาพาราฯถือเป็นยาพื้นฐานที่ทุกครัวเรือนบริโภค จึงอาจไม่ส่งผลกระทบอย่างชัดเจน
กำลังโหลดความคิดเห็น