รพ.ในสังกัด สธ.ทั่วไทยทำฟันฟรี วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ

สาธารณสุขร่วมมือกับมูลนิธิ พอ.สว. หน่วยงานภาครัฐและเอกชน บริการตรวจสุขภาพช่องปาก ขูดหินปูน อุดฟัน เคลือบหลุมร่องฟันแก่ประชาชน ฟรี ที่โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่าเนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ พร้อมทั้งเร่งผลิตทันตบุคลากรเพิ่มในโครงการไทยเข้มแข็ง ในปี 2553-2555 รวม 2,550 คน เพื่อขยายบริการด้านทันตกรรมในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง

วันที่ 21 ตุลาคม นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมการให้บริการทำฟันฟรีแก่ประชาชน เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี ว่า กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้และบริการทำฟันแก่ประชาชน ฟรี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระมารดาแห่งการทันตสาธารณสุขไทย ในวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ท่าน และเป็นวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ โดยในปีนี้ โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงศึกษาธิการ และกทม. ได้เปิดให้บริการตรวจสุขภาพช่องปาก อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน และเคลือบหลุมร่องฟัน แก่ประชาชนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมกันทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ได้เปิดบริการให้ผู้สูงอายุที่ใส่ฟันเทียมทั้งปาก ในโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ที่มีปัญหาฟันปลอมที่ใส่หลวม หลุดง่าย เคี้ยวอาหารไม่ได้ มาลงทะเบียนรับการฝังรากฟันเทียม ฟรีด้วย

นายวิทยากล่าวว่า ผลการสำรวจครั้งล่าสุดในปี 2550 พบว่า ประชาชนเข้าถึงบริการด้านทันตกรรมไม่ถึงร้อยละ 40 สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการขาดแคลนบุคลากรด้านทันตกรรม ซึ่งขณะนี้สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีทันตแพทย์ปฏิบัติงาน 3,110 คน และทันตาภิบาล 4,041 คน โดยกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายขยายบริการทันตกรรมให้ครอบคลุมถึงระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ทั้ง 9,762 แห่งทั่วประเทศ โดยในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2553-2555 นี้ ได้ตั้งเป้าผลิตทันตาภิบาลหลักสูตร 2 ปี จำนวน 2,150 คน ใช้งบประมาณ 210.7 ล้านบาท และทันตสาธารณสุขหลักสูตร 4 ปีอีก 400 คน เป็นเงิน 29.4 ล้านบาท เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการดูแลส่งเสริมสุขภาพช่องปากและทำฟันใกล้บ้าน อย่างสะดวก และทั่วถึงมากขึ้น

ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากประชาชนในระดับประเทศ ปี 2549-2550 พบว่า คนไทยมีปัญหาทั้งโรคเหงือกอักเสบและฟันผุ โดยในกลุ่มเด็กอายุ 3 ปีมีฟันผุร้อยละ 61 กลุ่มอายุ 5 ปีฟันผุร้อยละ 81 ในกลุ่มวัยเรียนอายุ 12 ปี ฟันผุร้อยละ 57 และเด็ก 15 ปีฟันผุร้อยละ 66 โดยเด็กในชนบทมีปัญหาฟันมีหินปูนและเหงือกอักเสบสูงกว่าเด็กในเขตเมือง ส่วนวัยทำงานมีการสูญเสียฟันร้อยละ 83 เฉลี่ยคนละ 4 ซี่ ผู้สูงอายุสูญเสียฟันร้อยละ 94 เฉลี่ยคนละ 14 ซี่ โดยกลุ่มวัยทำงานร้อยละ 38 และผู้สูงอายุร้อยละ 68 เป็นโรคปริทันต์ มีการอักเสบของเหงือก กระดูกเบ้าฟัน เอ็นยึดปริทันต์ และผิวรากฟัน จึงต้องเร่งรณรงค์เรื่องความสะอาดช่องปาก การแปรงฟันที่ถูกวิธีในทุกกลุ่มอายุ และตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันฟันผุ หินปูนเกาะ ซึ่งทำให้เกิดโรคปริทันต์และการสูญเสียฟันตามมา