xs
xsm
sm
md
lg

“กษมา” ตอกหน้า “เด็จพี่” ย้ำยังไม่แบ่งงบไทยเข้มแข็งให้ สพท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา
“จุรินทร์” กำชับ สพฐ.ทุกโครงการอย่าให้มีปัญหา สั่งให้ขอข้อมูลมาเช็คข้อเท็จจริง ด้าน “คุณหญิงกษมา” ตอกกลับ “พร้อมพงศ์” ยังไม่ได้สรรงบไทยเข้มแข็งให้ สพท. แค่ทำสเปกกลางศูนย์พัฒนาครู วัสดุครุภัณฑ์ให้โรงเรียนกว่าหมื่นแห่งเลือกตามความต้องการ หากยังไม่ตรงตามความต้องการเปิดโอกาสให้โรงเรียนเสนอมายัง สพฐ. จะส่งให้ สตง.ตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส

สืบเนื่องมาจากที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาแถลงข่าวว่า มีข้าราชการครูสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เขต 7 จ.นครราชสีมา ยื่นหนังสือร้องเรียนพรรคว่าโรงเรียนกว่า 20 โรง น่าจะเกิดการทุจริตเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขว่า เสนอสร้างอาคารเรียนกลับได้ห้องประชุม, โรงเรียนเสนอซื้อวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับการเรียนการสอน แต่กลับมีนายหน้า นักการเมือง มาเปลี่ยนแปลงวัสดุครุภัณฑ์แถมมีราคาแพงกว่าท้องตลาดและโรงเรียนไม่ต้องการ

วันนี้ (5 ต.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ชี้แจงในที่ประชุมบริหาร 5 องค์กรหลักเกี่ยวกับกรณีข้างต้นว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการจัดสรรให้กับ สพท. รวมถึง สพท. 7 นครราชสีมาด้วย อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับว่าขอให้เลขาฯ กพฐ.ติดตามดำเนินการทุกโครงการ ไม่ใช่เฉพาะโครงการไทยเข้มแข็ง ขอให้ดูแลอย่าให้มีปัญหาเกิดขึ้นในทุกด้าน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดซื้อครุภัณฑ์ ศธ.วางกรอบเอาไว้เพื่อป้องกันการวิ่งเต้น และป้องกันไม่ให้มีราคาแพงกว่าเป็นจริงหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เท่าที่ เลขาฯ กพฐ.รายงานถึงแนวปฏิบัติว่า สถานศึกษาจะเป็นผู้จัดซื้อ จัดจ้าง โดยนโยบายชัดเจนว่าส่วนกลาง จะไม่เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนการกำหนดสเปกนั้น เมื่อได้มีการดำเนินการโดย สพฐ.จะไม่ได้ดำเนินการโดยลำพังจะมีผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกร่วมด้วย จากนั้นจะส่งให้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รับทราบด้วย เพื่อพิสูจน์ความโปร่งใส ขณะเดียวกันจะไม่บังคับว่าโรงเรียนจะต้องซื้อตามที่ส่วนกลางกำหนด หากไม่ต้องกับความต้องการของโรงเรียน โรงเรียนสามารถกำหนดรายละเอียดเองได้ เพียงแต่ว่าต้องแจ้งให้ สพฐ.ทราบ และส่งให้ สตง.รับทราบต่อไป

“กำชับให้เลขาฯ สพฐ.ประสานไปยังผู้ให้ข่าว เพื่อขอข้อมูลว่าข้อเท็จจริงคืออะไร จะได้ดูต่อไป หากพบว่าตรงไหนไม่ถูกต้องจะได้ไปจัดการให้ถูกต้อง แต่โครงการไทยเข้มแข็ง เลขาฯ กพฐ.ชี้แจงชัดเจนแล้วว่ายังไม่ได้จัดสรร” นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า จะให้ผู้ตรวจราชการ ศธ.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย และในส่วนของ ศธ.เราไม่ต้องการเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น และทุกนโยบาย ทุกเรื่อง ดำเนินการโดยโปร่งใส

คุณหญิงกษมากล่าวว่า โครงการไทยเข้มแข็งของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยังไม่ได้จัดสรรงบประมาณไปยังสำนักงานเขตพื้นที่ (สพท.) เพราะฉะนั้น สพท.และโรงเรียนใด มีรายชื่อ อาจจะเกิดจากความสับสน เพราะยังไม่ได้ไปที่ไหนเลย ไม่น่าจะมีรายชื่อ อย่างไรก็ตาม ในหลักการการก่อสร้างจะมี ศูนย์พัฒนาครูจะมี สพท.ละ 1 แห่ง ศูนย์วิทยบูรณาการ หรือศูนย์ไอซีที ซึ่งโรงเรียนที่จะได้รับ สพท.ละ 2 แห่ง โดยทั้ง 2 รายการจะก่อสร้างเป็นแบบมาตรฐานและมีคอมพิวเตอร์ สำหรับรายการอื่นๆ จะมีส้วม

“สรุปได้ว่ายังไม่น่าจะมีรายชื่อไปยัง สพท. เพราะ สพฐ.ยังไม่ได้จัดสรร และรายการที่จะจัดสรรจะเป็นมาตรฐาน เป็นหอประชุมจะได้เป็นศูนย์พัฒนาครู อาคารเรียน 4 ห้องเรียน เพื่อจะได้แบ่งส่วนหนึ่งเป็นศูนย์คอมพิวเตอร์ ส่วนครุภัณฑ์ ยังไม่ได้แจ้งการจัดสรรเช่นกัน จะเป็นอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ อุปกรณ์ห้องสมุด อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ กับดนตรีและกีฬา โดยหลักการจะทำเป็นเมนูกลาง จัดทำขึ้นโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ในกลุ่มสาขาทีเกี่ยวข้อง และมีตัวแทนจากคนนอกเข้ามาด้วย และ สพฐ.จะส่งรายการไปยังโรงเรียน เพื่อให้โรงเรียนเลือกรายการที่ต้องการได้ ในกรณีที่โรงเรียนไม่พอใจในรายการเหล่านี้ โรงเรียนขอเปลี่ยนได้แต่ต้องชี้แจงเหตุผลมายัง สพฐ.”


คุณหญิงกษมากล่าวต่อว่า สำหรับสเปกที่ สพฐ.ทำไม่ว่าโครงการใดก็ตาม จะต้องมีหน่วยงานจากภายนอกมายกร่างสเปก ไม่มีการทำภายใน สพฐ.โดยลำพังอย่างเด็ดขาด เมื่อยกร่างสเปกแล้วจะขึ้นเว็บไซต์ สพฐ.ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร เพื่อให้มีการวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ในกรณีที่โรงเรียนต้องการปรับเปลี่ยนรายการ ก็สามารถทำได้แต่ต้องมีคนภายนอกมายกร่างสเปกเช่นเดียวกันและขึ้นเว็บ และต้องมีผู้สามารถยื่นอย่างน้อย 3 ราย ทั้งนี้ เราจะส่งสเปกเหล่านี้ไปให้ สตง.ตรวจสอบด้วย

“ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งจัดสรร แต่มีข่าวออกมาก็ยินดีที่ได้ข้อมูล เชื่อว่าเป็นการการเดามากกว่า หากใครมีเบาะแสว่าจะมีการเตรียมการทุจริตแล้วแจ้งมาจะขอบพระคุณอย่างยิ่ง เราจะได้ตรวจสอบให้ชัดเจนยิ่งขึ้น”

ถามว่าขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหรือไม่ คุณหญิงกษมากล่าวว่า ไม่ได้ตั้งคณะกรรมการ เพราะยังไม่ได้มีการจัดสรรงบแต่อย่างใด อันที่จริงทาง สพท.จะต้องแจ้งเข้ามาว่าโรงเรียนแห่งไหนควรได้รับ เราจะคัดเลือกจากบัญชีที่เขตเสนอมา แต่เรายังไม่ได้พิจารณาแล้วส่งบัญชีนี้กลับไป สพท. คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม อยากให้โรงเรียนที่เห็นห่วง ดูรายการและรายการไม่ตรงกับความต้องการโรงเรียนก็ไม่จำเป็นต้องรับ โรงเรียนเสนอปรับ เสนอเพิ่ม แต่โรงเรียนจะต้องคณะกรรมการจากภายนอกมาดูแล

“โครงการไทยเข้มแข็งยังไม่ได้จัดสรรเลย และการที่ผู้ใหญ่ออกมาให้สัมภาษณ์ แสดงว่าท่านมีข้อมูล แต่อยากบอกให้เพื่อนครูสบายใจว่า หากได้ของที่ไม่ต้องการ 1.ไม่จำเป็นต้องรับ 2.เสนอปรับได้” คุณหญิงกษมากล่าวว่า สพฐ.เสนอเป็นเมนูกลาง เพราะ สพฐ.ไม่สามารถเดาได้ว่านับ 1 หมื่นโรงนั้น โรงเรียนแห่งไหนต้องการอะไร จึงทำเป็นเมนูใหญ่ให้โรงเรียนเลือกซื้อตามความต้องการ
กำลังโหลดความคิดเห็น